สูตรสำเร็จนิยาย Nicholas Sparks
คอนิยายรักโรแมนติกของ Nicholas Sparks น่าจะเคยดูหนังที่สร้างจากนิยายของเขากันมาบ้างอย่างน้อยคนละหนึ่งเรื่อง แต่ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่ได้ดูหนังที่สร้างจากนิยายของเขาแทบทุกเรื่อง คุณจะต้องสังเกตเห็นว่าเรื่องที่ Sparks แต่งนี้ ล้วนมีประเด็นอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกันแทบทุกเรื่อง (click ดูผลงานของ Sparks) ไม่เชื่อลองเริ่มจากการย้อนกลับไปดูโปสเตอร์หนังของเขาดูสิ
ทุกเรื่องจะต้องใช้โปสเตอร์ที่มีพระนางโพสท่าเดียวกัน คือภาพที่เอาหน้ามาชิดแทบจะจูบกัน!1. พระนางต้องมีฝ่ายนึงเพอร์เฟ็กต์ เช่น หล่อมาก รวยมาก และ/หรืออีกฝ่ายต้องมีปมในชีวิต เช่น จนมาก หรือเป็นม่าย
ตัวอย่าง ในเรื่อง The Notebook นางเอกเป็นลูกสาวคนรวย มีการศึกษา และมีชาติตระกูล และมาพบรักกับพระเอกที่จนแสนจนในช่วงที่เธอมาเที่ยวชนบทช่วงซัมเมอร์ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ปลื้มในเวลาต่อมา ส่วนในเรื่อง The Last Song ก็มีปัญหาพ่อแม่ไม่ปลื้มอีกเช่นกัน แต่สลับกันที่เรื่องนี้พระเอกเป็นคนหล่อและรวยมาก ส่วนนางเอกเป็นแค่ลูกชาวบ้านธรรมดาๆ ที่หนีปัญหามาอาศัยอยู่บ้านพ่อชั่วคราว
2. พลัดพรากจากกันหรือแยกกันอยู่ และใช้จดหมายเป็นสื่อ
ตัวอย่าง หลายเรื่องของ Sparks ตัวเอกจะต้องใช้จดหมายสื่อสารกันในช่วงที่แยกกันอยู่ โดยเรื่อง Dear John เป็นเรื่องที่ใช้จดหมายเป็นแก่นหลักของเรื่อง เรื่องคือพระเอกต้องไปร่วมรบในสงครามเป็นเวลาหลายปี จึงต้องติดต่อกับนางเอกด้วยการเขียนจดหมายหากัน ส่วนเรื่อง The Notebook นางเอกก็ต้องกลับบ้านเมื่อซัมเมอร์หมดลง แต่พระเอกก็ได้เขียนจดหมายหานางเอกทุกวันๆ แต่แม่ของนางเอกแอบเก็บเอาไว้ และตอนหลังจดหมายทั้งหลายของพระเอกก็เป็นกุญแจสำคัญให้ทั้งคู่รีเทิร์นกันอีกครั้ง
3. เกณฑ์ทหารหรือไปร่วมรบสงคราม
ตัวอย่าง Dear John เป็นเรื่องที่พระเอกต้องไปร่วมรบในสงครามเป็นประเด็นหลักๆ เลย นอกจากนี้ก็มี The Lucky One ที่พระเอกเพิ่งกลับมาจากสงคราม และมาตามหานางเอกซึ่งเป็นน้องสาวของเพื่อนร่วมสนามรบของเขา
4. เปียโน
ทุกเรื่องของ Sparks ต้องมีฉากเปียโน ต้องมีใครสักคนเล่นเปียโน ไม่ว่าจะในห้องนั่งเล่น หรืองานเลี้ยงใดๆ แต่เรื่อง The Last Song จะเป็นเรื่องที่เปียโนเป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง กล่าวคือนางเอกและพ่อของเธอมีพรสวรรค์ในการเล่นเปียโน แต่พอโตขึ้น นางเอกมีปมและก็ไม่ยอมแตะเปียโนอีกเลย
5. ปัญหาครอบครัว เช่น พ่อตาย แม่ป่วย ครอบครัวแตกแยก
ตัวอย่าง เรื่อง The Last Song นางเอกมาจากครอบครัวที่พ่อกับแม่แยกกันอยู่ เธอจึงค่อนข้างเป็นเด็กมีปัญหา และไม่ค่อยสนิทกับพ่อ ส่วนเรื่อง The Lucky One ครอบครัวของนางเอกแยกกันอยู่ โดยนางเอกแยกทางกับสามี และต้องเลี้ยงลูกติดหนึ่งคน
6.โลเกชั่นชนบทหรือชานเมือง และฉากน้ำ
ทุกเรื่องของ Sparks อยู่แต่ในชนบท น้อยซีนมากที่จะอยู่ในเมือง และที่สำคัญต้องมีการไปพายเรือเก๋ๆ ในแหล่งน้ำสวยๆ เช่น ทะเลสาบ ทะเล ห้วยหนองคลองบึง ฯลฯ ด้วยแทบทุกเรื่อง ฉากพายเรือเรื่องที่น่าจดจำที่สุด เรายกให้เรื่อง The Notebook
7. โรแมนติกริมทะเล
หนัง Sparks แทบทุกเรื่องต้องมีฉากเล่นน้ำทะเล กินข้าวริมหาด หรือลัลล้ากันอยู่ที่ท่าเรือ โดยเรื่อง The Last Song มีฉากทะเลเยอะสุด เพราะโลเกชั่นหลัก บ้านของพ่อนางเอกและบ้านของพระเอกเป็นเมืองติดชายหาด
8.โรแมนติกกับสายน้ำ
นี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหนัง Sparks ต้องออกแบบฉากให้พระเอกกอดจูบกันท่ามกลางสายฝนให้ปอดบวมเล่นแทบทุกเรื่อง และฉากโรแมนติกท่ามกลางสายน้ำที่น่าจดจำที่สุด เรายกให้เรื่อง The Notebook อีกนั่นแหละ
9.โรแมนติกกับการดูดาว
มีหลายเรื่องของ Sparks ที่พระนางต้องดูดาวร่วมกันในยามค่ำคืน แต่ถ้าพูดถึงฉากดูดาว A Walk to Remember เป็นเรื่องที่เน้นการดูดาวเยอะที่สุด เพราะนางเอกชอบดูดาวมาก พระเอกที่แสนดีก็เอาใจนางเอกด้วยการทำกล้องอย่างดีมาให้นางเอกใช้ดูดาว แต่ถ้าพูดถึงฉากดูดาวที่เราจดจำมากที่สุด จำได้ทั้งฉากและทั้ง quote ที่นางเอกพูด ก็คงเป็นเรื่อง Dear John
10. เต้นรำแบบบ้านๆ
ถึงแม้จะมีหลายเรื่องของ Sparks ที่พระนางเต้นรำกัน แต่การเต้นรำเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เราต้องยกให้ The Notebook ชนะไปอีกเรื่องหนึ่งจริงๆ เพราะฉากพระนางเต้นรำกลางถนนมันติดตาติดใจเราจริงๆ มันรู้สึกสดใสและมีความรู้สุขอย่างบอกไม่ถูก
11. คนแก่ และ/หรือ เด็ก
ในหนังของ Sparks คนแก่มักอยู่ในร่างของผู้ปกครองพระนาง หรือร่างของพระนางเองในเวอร์ชั่นแก่ โดยถ้าหากเป็นพ่อแม่ ก็จะชอบมาในบทบาทที่กีดกันหรือต่อต้านการคบหากันของลูกๆ เช่น A Walk to Remember, The Notebook, The Last Song ส่วนเด็กๆ ก็มักอยู่ในร่างของลูกติด หรือไม่ก็เป็นน้องของพระนาง ส่วนเด็กที่เราชอบที่สุดในหนังของ Sparks คือเด็กที่เป็นลูกชายของนางเอกในเรื่อง The Lucky One
12. สัตว์โลกผู้น่ารัก
จริงๆ สัตว์เป็นองค์ประกอบสำคัญในหนังแทบทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอาจไม่ใช่จุดเด่นของหนัง Sparks เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ดีเราชอบหมาๆ ใน The Lucky One มากที่สุด เพราะว่านางเอกทำร้านเกี่ยวกับรับดูแลสัตว์เลี้ยง เรื่องนี้จึงมีหมาเยอะหน่อย และหมาของพระเอกก็น่ารักสุดๆ โดยเฉพาะฉากที่มันวิ่งเข้าหาพระเอกที่เพิ่งกลับบ้านจากสงคราม น่ารักมากจริงๆ
13. รถกระบะ
ถึงเราจะชอบฉากพระนางจู๋จี๋กันบนรถกระบะในเรื่อง The Last Song มากที่สุด แต่บางทีเราก็อดสงสัยไม่ได้ว่า รถกระบะที่อยู่ในหนังของ Sparks แต่ละเรื่องนั้น เป็นคันเดียวกันหรือเปล่า
14. จักรยาน
เนื่องจากโลเกชั่นเป็นชนบท ยานพาหนะเพื่อการเดินทางนอกจากรถกระบะ ก็ต้องเป็นรถจักรยาน ซึ่งหนัง Sparks ก็ไม่ได้มีฉากจักรยานเยอะเรื่องจนเด่นชัดนักหรอก แต่เราก็ชอบฉากจักรยานในเรื่อง The Notebook นะ (The Notebook อีกแล้ว...)
15. รักหลายเส้า
ตัวอย่าง ประเด็นรักสามเส้า เรายกให้เรื่อง The Lucky One ซึ่งพ้อยท์หลักของเรื่องก็คือเรื่องของสามีเก่านางเอกที่ยังมาตามง้อคืนดีอยู่นี่แหละ และดูเป็นรักสามเส้าที่ดูมีน้ำหนักสุดในบรรดาเรื่องอื่นๆ ของ Sparks ส่วนประเด็นรักสามเส้าของแชมป์หลายสมัยอย่าง The Notebook นั้น ยังเบาเกินไป เพราะหนังไม่ค่อยเน้นมาก จึงไม่ค่อยรู้สึกจี๊ดเท่าไหร่กับช่วงที่นางเอกไปมีผู้ชายคนใหม่
16. ตัวละครหลักตาย
ขึ้นชื่อว่าเป็น Sparks ก็ต้องเรียกน้ำตาจากคนอ่าน/คนดูเท่านั้น ตอนจบของแทบทุกเรื่องจึงเป็นโศกนาฏกรรม (tragedy) ที่ต้องมีตัวละครหลักตัวใดตัวหนึ่งตายจากไป ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นพระนาง แต่ก็เป็นตัวละครสำคัญของเรื่องอยู่ดี เช่น พ่อของนางเอกในเรื่อง The Last Song เป็นต้น ส่วนเรื่องที่เรารู้สึกเฮิทหนักสุดในฉากที่พระนางตาย ก็คงเป็นเรื่อง A Walk to Remember เพราะก่อนนางเอกตาย พระเอกพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกวันที่เหลืออยู่ของนางเอกมีค่าที่สุด ตื้นตันและบีบหัวใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยทีเดียว ส่วนเรื่อง The Notebook นั้น พระนางเขาตายตอนแก่อย่างสงบและแฮปปี้เอ็นดิ้ง จึงไม่สะเทือนใจคนดูเท่าไหร่นัก หากแต่อิ่มเอมเสียด้วยซ้ำ
โดยสรุป หนัง Sparks ที่เป็นต้นแบบนิยายรักและอยู่ในใจเราที่สุด คือ The Notebook นอนวินมาเลยจ้า
90 comments