นานทีปีหนจะเจอหนังผีหรือหนัง horror ที่มีธีมและบทที่ดีอย่าง Talk to Me
เราขอเลี่ยงที่จะใช้ชื่อไทย “จับมือผี” เพราะเรารู้สึกว่า ประโยค “talk to me” หรือ “คุยกับฉันสิ” ไม่ได้เป็นแค่ชื่อหนัง แต่ “talk to me” และ “I let you in” ยังเป็นธีมสำคัญของหนังตลอดเรื่อง ทั้งพาร์ทที่เกี่ยวกับผี และพาร์ทที่ไม่เกี่ยวกับผี
ตัวละครหลักของเรื่องคือ Mia (Sophie Wilde) เด็กสาววัยรุ่นที่สูญเสียแม่ไปเมื่อสองปีก่อน เธอไม่ค่อยเปิดใจกับ Max พ่อของเธอ (Marcus Johnson) และไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อนสักเท่าไหร่ เธอมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ก็คือ Jade (Alexandra Jensen) รวมถึง Riley (Joe Bird) กับ Sue (Miranda Otto) น้องชายกับแม่ของ Jade ที่เปรียบเสมือนครอบครัวของ Mia
วันนึงพวก Mia ไปงานปาร์ตี้ที่ Hayley (Zoe Terakes) และ Joss (Chris Alosio) จัด สองคนนี้มักทำวิดีโอคอนเทนต์ “ผีเข้า” และพวก Mia อยากไปพิสูจน์ว่ามันคือการจัดฉาก กฎกติกาการเล่นก็ไม่ซับซ้อน เพียงแค่จุดเทียนและจับมือกับวัตถุที่ลักษณะเหมือนมือแล้วพูดว่า “talk to me” และผีจะมาอยู่ตรงหน้า จากนั้นให้พูดว่า “I let you in” เพื่อให้ผีเข้ามาสิงร่าง แต่พวกเขาจะจับเวลาไม่ให้เกิน 90 วินาทีเท่านั้น แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อพวกเขายิ่งเล่นก็ยิ่งถลำลึก และลามเป็นเรื่องใหญ่โตเกินกว่าจะควบคุม
ฟังเรื่องย่อโดยเผิน ๆ หรือดูเทรลเลอร์หนังในตอนแรก เราก็คิดว่าเรื่องมันไร้สาระมาก คนอะไรจะอยากหาทำ หาเรื่องคุยกับผีหรืออยากให้ผีมาสิงร่างเบอร์นั้น แต่ปรากฏว่า หนังมันมีที่มาที่ไป มีเหตุมีผลมากกว่า “แค่ลองของ” ทั่วไป
โดยช่วงแรกของหนัง หนังให้ความสำคัญกับการปูแบคกราวนด์ของตัวละครมาก ทำให้เราเข้าใจว่า เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้เขาเหมือนผีตรงที่เป็นคนนอก (outcasts) ที่ต้องการการยอมรับหรือความป็อปปูลาร์ แบบว่า คุยกับฉันสิ, ขอฉันเข้ากลุ่มด้วยหน่อยนะ ฯลฯ
แล้วพอเริ่มดำเนินเรื่องเข้มข้นขึ้น หนังก็ค่อย ๆ พาไปสำรวจจิตใจของเด็กเหล่านี้ที่ต้องการการยอมรับหรือการเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ และนำธีม “talk to me” และ “I let you in” มาใช้กับความสัมพันธ์ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ครอบครัวและเพื่อน ที่มักจะแย่ลงหรือกัดกินกันไปเรื่อย ๆ ถ้าเราไม่คุยกัน และเมื่อคนคนนึงถูกปิดกั้นหรือถูกปิดประตูใส่ทุกหนทาง มันก็ก่อเกิดความเหงา และเขาอาจตกอยู่ในภาวะที่ต้องดำดิ่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่รู้จะหันไปพึ่งพาใคร
Talk to Me จึงเป็นหนัง Horror ที่อยู่เหนือความคาดหมายของเรา โดยเฉพาะเรื่องบท และการเล่นมุมกล้องต่าง ๆ รวมถึงตอนจบก็ถือว่าหาทางลงได้ดี ไม่ตกม้าตายตอนจบเหมือนหนังประเภทเดียวกันหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ เราจึงสามารถจัดให้ Talk to Me เป็นหนัง Horror ที่เราชอบที่สุดในปี 2023 เลยก็ว่าได้