เราเชื่อว่าทุกคนมีหนังในดวงใจ ซึ่งอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดหรือสนุกที่สุด แต่มันเป็นหนังที่มีความหมายหรือคุณค่าทางจิตใจ และหนังในดวงใจของเราก็มี Twister (1996) เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตที่พ่อแม่พาไปดูในโรง
ถึงแม้ Twisters (2024) จะคนละเรื่องราวและไม่ได้ต่อเนื่องกับเวอร์ชั่นเดิม แต่การเนรมิตหนังดังในวัยเยาว์ของเราขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ไม่ใช่แค่มีคุณค่าทาง nostalgia แต่ด้วยปัจจุบัน เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่า 3 ทศวรรษก่อนมาก และเราก็ยังได้ดูในโรง IMAX Laser ด้วยอีก มันจึงให้ความรู้สึก complete และ fulfilling จริง ๆ บอกได้เลยว่า เราชอบ Twisters มาก ๆ ถึงขั้นน่าจะติดอันดับหนังโปรดแห่งปี 2024 และหนังภัยพิบัติในดวงใจตลอดกาลอีกเรื่องนึงได้เลย
ตอนแรกเราก็ไม่คาดหวังมาก นอกจากมาดูหนังภัยพิบัติบล็อกบัสเตอร์เอามัน(ส์) และกลิ่นอาย nostalgia เบา ๆ จากภาคเก่า แต่เอาเข้าจริง Twisters (2024) เขาเอาจริง เขาไม่ได้มาแค่หวังโกยเงินเล่น ๆ แต่อัพเกรดด้านบทและตัวละครอย่างจริงจังด้วย รวมถึงมีการเน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญของโลกอย่าง Climate Change ว่า โลกเรากำลังเผชิญกับภัยพิบัติที่มากขึ้นและรุนแรงขึ้นทุกปี อีกทั้งยังมีหลายซีนที่น่าจดจำไม่แพ้ภาคก่อน ต้องบอกว่า Lee Isaac Chung (ผู้กำกับ Minari) เขาทำดี ทำถึง ทำเกินในทุกมิติ

Twisters (2024) เปิดฉากมาก็เป็นโศกนาฏกกรรมทอร์นาโดลูกใหญ่ระดับ EF-5 ที่ทำให้ Kate Carter (Daisy Edgar-Jones จาก Normal People) ต้องสูญเสียคนรักและเพื่อนร่วมโปรเจ็กต์พร้อมกันถึง 3 คน คนดูจึงได้ติดตามตัวละคร Kate ที่เต็มไปด้วยบาดแผลและความรู้สึกผิดแสนสาหัส
Kate ละทิ้งความใฝ่ฝันในการปะทะกับทอร์นาโดและเลือกมาทำงานออฟฟิศในนิวยอร์ก แต่แล้วเธอก็ได้กลับคืนสู่สมรภูมิอีกครั้งเมื่อ Javi (Anthony Ramos จาก Transformers: Rise of the Beasts) เพื่อนของเธอ มาโน้มน้าวให้เธอกลับไปสานต่อโปรเจ็กต์เพื่อช่วยเหลือผู้คนในโอคลาโฮมา
และที่นั่น เธอก็ได้พบกับแก๊งยูทูบเบอร์นักล่าพายุชื่อดัง นำโดย Tyler Owens (Glen Powell จาก Top Gun: Maverick) ที่เริ่มต้นจากการเป็นคู่แข่ง ก่อนจะกลายเป็นคู่หู และแรงผลักดันให้เธอได้กล้ากลับไปรีสตาร์ท แก้ไขความผิดพลาดในอดีต และคว้า the second chance

เราชอบที่ตัวละครแต่ละตัวล้วนมีแรงจูงใจชัดเจนเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว ทุกคนล้วนเป้าหมายต่าง ๆ กันในการพุ่งเข้าหาเจ้าพายุทอร์นาโด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อผลประโยชน์ การสนองทุนนิยม ชื่อเสียงเงินทอง ข่าว คอนเทนต์ วิชาการ การเปลี่ยนแปลงโลกหรือการช่วยเหลือผู้คน ฯลฯ แต่ถึงจุดจุดหนึ่ง ตัวละครจะต้องเลือกว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ณ ขณะนั้น หรืออะไรคือการให้คุณค่าที่ยั่งยืนต่อจิตใจและมวลมนุษยชาติ
ถึงแม้ว่า ส่วนใหญ่การช่วยเหลือผู้คนในหนังจะไม่ได้ทำอะไรได้มากเหมือนมีทีม Avengers มาปล่อยพลัง ต้านพายุ หรือปกป้องผู้คนจากภัยอันตราย แต่เราได้เห็นการช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยิ่งใหญ่ท่ามกลางภัยพิบัติ เช่น การให้กำลังใจ การช่วยหาข้าวหาน้ำ การช่วยตามหาสัตว์เลี้ยงที่หายไป หรือกระทั่งการช่วยเตือนให้มีสติ หรือคอยไกด์ how to เอาตัวรอดในสถานการณ์แบบนี้
ต่อให้เราไม่เคยเจอทอร์นาโดเลยสักครั้งในชีวิต แต่เราสามารถมองทอร์นาโดเป็นปัญหาใหญ่หรือความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ทุกคนล้วนต้องมี เจอ หรือประสบกันทั้งนั้น ต่อให้เราเตรียมพร้อมได้ดีขนาดไหน มันก็มีข้อผิดพลาดขึ้นได้ เพราะมันคืออุบัติเหตุหรือภัยพิบัติที่อยู่เหนือการควบคุมของเรา อะไรที่เราเคยสูญเสีย ผิดพลาด หรือล้มเหลว เรายังมีโอกาสตั้งหลักกลับมาแก้ไขหรือปรับปรุงใหม่ได้เสมอ ขอแค่เราไม่ละทิ้งหรือหลงลืมเป้าหมาย อย่าให้ความพยายามหรือความตั้งใจแรกเริ่มต้องสูญเปล่า
ดังนั้น ไม่ว่าคุณกำลังมองหาหนังบันเทิงดูเอามัน(ส์)แบบสาแก่ใจดู หรือกำลังรู้สึกว่าตัวเองหมดไฟหมดแพสชั่นในการวิ่งไล่ล่าตามเป้าหมาย– Twisters (2024) คือหนังของคุณ
สุดท้าย ประโยคที่ตัวละครเอกพูดว่า “If you feel it, chase it.” (หากคุณรู้สึกถึงมัน จงไล่ตามมันไป) มันโคตรใช้ได้กับแทบทุกสถานการณ์ในชีวิตเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นแพสชั่น เป้าหมายในชีวิตหรือหน้าที่การงาน จนถึงความรักความสัมพันธ์… ตอนนี้ดูหนังจบแล้ว เขียนรีวิวถึงหนังจบแล้ว เราเองก็รู้สึกว่า… ถึงเวลาที่จะต้องออกไปไล่ล่าแพสชั่นตามความรู้สึกของตัวเองบ้างแล้วเหมือนกัน
“If you feel it, chase it.”