เมื่อปลายปี 2017 เราได้พบกับ Hercule Poirot (Kenneth Branagh จาก TENET) นักสืบหัวเห็ดจากนิยายของ Agatha Christie เป็นครั้งแรก ในหนังเรื่อง Murder on the Orient Express ซึ่งกำกับโดย Kenneth Branagh เอง
ตอนแรกเราก็ค่อนข้างคาดหวังกับ Murder on the Orient Express เพราะชอบหนังแนว “Whodunnit” เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเรื่องนั้นก็มีดาราเบอร์ใหญ่และดาวรุ่งพุ่งแรงหนาแน่นเต็มขบวนรถด่วน แต่สุดท้ายก็ค่อนข้างผิดหวัง
ถึงกระนั้น ทั้ง Hercule Poirot และ Kenneth Branagh ก็กลับมาอีกครั้งใน Death on the Nile ซึ่งสร้างจากนิยายปี 1937 ของ Agatha Christie คนเดิม ซึ่งในหนังภาคนี้เป็นเรื่องราวคดีใหม่ล้วน ๆ ไม่ได้ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับ Murder on the Orient Express ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องดูภาคก่อนมาก่อนก็ดูได้ มันมีตัวละครหลักสองตัวเดิมเท่านั้นที่กลับมา ได้แก่ ตัวนักสืบเอง กับ Bouc (Tom Bateman) ซึ่งเป็นผู้ดูแลรถไฟในภาคก่อน
เส้นเรื่องหลักของภาคนี้เกิดขึ้นในทริปฮันนีมูนของไฮโซสาวสวย Linnet Ridgeway (Gal Gadot จาก Wonder Woman) และ Simon Doyle (Armie Hammer จาก Call Me by Your Name) ที่พาญาติสนิทมิตรสหายขึ้นเรือหรูท่องแม่ไนล์กันเต็มลำ
เราไม่แน่ใจว่า เราชอบภาคไหนมากกว่ากัน ระหว่าง Death on the Nile ภาคนี้ กับ Murder on the Orient Express เพราะเราดู Death on the Nile หลังจากดู Knives Out และ The Invisible Guest ซึ่งทำไว้ดีและสนุกมากสำหรับหนังแนว “Whodunnit” จนทำให้ Death on the Nile จืดชืดและเจือจางเหมือนแชมเปญแก้วหนึ่งที่ถูกเทละลายแม่น้ำไนล์
การตัดลำดับเรื่องของ Death on the Nile ยังทำให้ผู้ชมคาดเดาผู้ร้ายได้ง่ายเกินไป ช่วงไขคดีและการเฉลยปริศนาหลักของเรื่องก็ยังขาดเสน่ห์และชั้นเชิง นอกจากนี้ ยังมี subplot เยอะเกินไป เช่น ปมความรักในอดีตและความรักครั้งใหม่ของ Hercule Poirot (แต่ก็จะพยายามเข้าใจว่า ธีมของภาคนี้คือความรัก) และเช่นเดิมกับภาคก่อนหน้า ก็คือ Kenneth Branagh ยังไม่สามารถขยี้ประเด็นชนชั้นฐานะและเชื้อชาติสีผิวออกมาได้อย่างมีพลัง หากแต่แตะเพียงผิวเผินก็เท่านั้น
ที่เห็นได้ชัดคือ ทีมนักแสดงเบอร์ไม่ใหญ่เท่าภาคก่อน การแสดงของบางคนก็ดูฝืนดูปลอมอย่างชัดเจน มีความไม่เนียนเช่นเดียวกับซีจีที่ลอย ๆ หลายฉาก แต่เราก็พยายามคิดบวกว่า นักแสดงเหล่านั้นต้องรับบทเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่เฟคของไฮโซสาวตัวเอก พวกเขาเลยต้องคีพคาแรกเตอร์เฟคตลอดเวลาไว้ด้วย
ตัวนำอย่าง Gal Gadot กับ Armie Hammer ก็ขาดเคมีและขาดเสน่ห์ดึงดูด Gal Gadot สวยมาก และเหมือนคลีโอพัตรามาก แต่พลังทางการแสดงยังไม่ส่ง ในขณะที่การแสดงของน้องใหม่จาก Sex Education อย่าง Emma Mackey นั้นออร่ามากกว่า ยังไม่นับที่ Armie Hammer กำลังมีข่าวฉาวเกี่ยวกับ sexual abuse และต่าง ๆ ด้วยอีก ทำให้ความอินต่อหนังลดน้อยถอยลงไปพอสมควร
สำหรับเรา Death on the Nile ยังไม่ตอบโจทย์ความบันเทิงในฐานะที่เกิดมาเป็นหนังแนว “Whodunnit” แต่ถ้าจะหาหนังดูฆ่าเวลา หรืออยากติดตามนักแสดง ก็ “ได้อยู่”
1 comment
Comments are closed.