Catching Fire: 12 ความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ (Part 1)

ถึงแม้คุณจะเคยดูหนัง The Hunger Games และ Catching Fire มาก่อนหรือไม่ก็ตาม เราแนะนำว่า ก่อนคุณจะอ่านบทความ “ความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ Catching Fire” บทความนี้ เราแนะนำให้อ่านบทความ “ความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ The Hunger Games (ภาคแรก)” ของเราเสียก่อน เพราะภาค 1 เอง หนังก็มีประเด็นพื้นฐานและประเด็นยิบย่อยที่แตกต่างกับในหนังสือพอสมควร และภาค 2 นี้ก็อิงที่มาที่ไปหลายอย่างต่อจากภาค 1 มาด้วย

สำหรับ Catching Fire ความแตกต่างใหญ่ ๆ ระหว่างหนังกับหนังสือคือ หนังจะเน้นฉากการ training และฉากช่วงการแข่งขันใน arena มากกว่าในหนังสือ ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นจุดขาย เพราะคนดูหนังส่วนใหญ่ชอบบู๊ ๆ และชอบความตื่นเต้นเป็นธรรมดา ในขณะที่ในหนังสือ ผู้เขียนบรรยายฉากใน arena เพียงแค่ 1/3 ของเล่มเท่านั้น

และเนื่องจากความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือของ Catching Fire มีมากมายหลายประเด็นมากจริง ๆ ทั้งจุดที่แตกต่างกัน ทั้งจุดที่ในหนังไม่บอก หรือจุดที่หนังบอกไม่เคลียร์ ฯลฯ เราจึงจำเป็นต้องแบ่งบล็อก “ความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ Catching Fire” นี้ออกเป็น 2 บล็อกด้วยกัน ดังต่อไปนี้…

Part 1 (คือบล็อกนี้) เขียนเฉพาะช่วงก่อนที่ Katniss จะรู้ว่าตัวเองต้องกลับไปแข่ง The Hunger Games อีกรอบ
Part 2 เขียนถึงเรื่องราวหลังจากที่ Katniss รู้ว่าตัวเองต้องไปแข่ง The Hunger Games ครั้งที่ 75 จนถึงช่วงในสนามแข่ง (ซึ่งจะแยกเขียนในอีกบล็อกถัดไป)

1. Katniss and Gale

ฉากเปิดในหนังเป็นฉากที่ Katniss อยู่ในป่า ล่าสัตว์กับ Gale ตามปกติ แต่ในหนังสือ ความสัมพันธ์ของทั้งสองมีความตึงเครียดกว่า และแทบไม่ได้เจอกันเลย เพราะปีนี้ Gale อายุเกิน 18 ปีแล้ว (เขาแก่กว่า Katniss) Gale จึงต้องไปทำงานเต็มตัวในเหมืองถ่านหิน 12 ช.ม. ต่อวัน และ 6 วันต่อสัปดาห์ เพื่อหาเลี้ยง Hazelle ผู้เป็นแม่และน้อง ๆ อีก 3 คน (Gale มีน้องชาย 2 คน ชื่อ Rory กับ Vick และมีน้องสาวตัวเล็ก 1 คน ชื่อ Posy แต่ในหนัง เราจะไม่เห็นแม่และน้องๆ ของ Gale ปรากฏอยู่เลย
Gale มีเวลาว่างจากการทำงานเหมืองแค่วันอาทิตย์วันเดียว เขาใช้วันว่างนั้นล่าสัตว์กับ Katniss เหมือนปกติ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ไม่ใช่เพราะ Gale ขุ่นเคืองที่ Katniss ไปจูบหรือเล่นละครเป็นคู่รักกับ Peeta ในเกม เพราะ Gale เขาก็เป็นคนมีเหตุผลพอ แต่ที่ Gale ตึง ๆ กับ Katniss ก็เพราะว่า ในเกมที่ผ่านมา เมื่อถึงรอบ The Final Eight หรือ 8 คนสุดท้าย พวก Capitol ส่งคนพร้อมกล้องมาสัมภาษณ์ครอบครัวและเพื่อนสนิทของ Peeta กับ Katniss รวมถึง tributes เขตอื่น ๆ อีก 6 คนที่ยังรอด แล้ว ณ ตอนนั้น Peeta กับ Katniss เล่นละครเป็นคู่รักออกสื่อกันไปแล้ว ดังนั้น Gale ซึ่งหล่อและสนิทกับ Katniss เหลือเกิน… เกินกว่าที่ประชาชนคนดูจะเชื่อได้ว่าเขาเป็นแค่ “เพื่อนสนิท” ของ Katniss… จำต้องเล่นละครเป็น “ลูกพี่ลูกน้อง” กับ Katniss ต่อหน้าสื่อ
หลังจากเป็นผู้พิชิต (Victor) แล้ว Katniss มีเงินทองมากพอที่จะเลี้ยงทั้งครอบครัวตัวเองและครอบครัวของ Gale ได้ทั้งชาติ แต่ Gale ไม่ยอมรับเงินจาก Katniss สักแดง ทั้งที่รายได้จากการทำงานเหมืองของเขาและรายได้จากการรับจ้างซักรีดของแม่เขาก็ไม่ได้พอเลี้ยงปากท้องคนทั้งครอบครัว ดังนั้น ช่วงที่ Gale เข้ากะทำงานในเหมือง Katniss จึงแอบไปเอาเงินไปให้แม่ของ Gale อยู่บ่อย ๆ เพราะเธอรู้ดีว่า ทุกวันนี้ Gale จะต้องดูแลและเลี้ยงดูแม่กับน้องสาวของเธอให้เป็นแน่ถ้าเธอไม่มีชีวิตรอดกลับมาจากเกมในวันนั้น

2. Katniss and PEETA

ในหนัง Peeta จะมีอวัยวะเป็นของตัวเองครบ 32 ชิ้น แต่ในหนังสือ Peeta ต้องใส่ขาเทียมข้างนึง เพราะเขาเสียขาข้างหนึ่งจากการติดเชื้อในช่วงท้ายเกมในปีที่แล้ว ขาเทียมทำให้ Peeta เคลื่อนไหวช้ากว่าที่ควร แต่โดยรวมก็ยังทำงานได้ปกติ
ในหนังสือ Peeta มีความสามารถด้านวาดรูปที่ชัดกว่าในหนัง ขณะนั่งรถไฟ (The Victor Tour) เดินทางไป District 11 Peeta โชว์รูปภาพที่เขาวาดเกี่ยวกับเกมเมื่อปีที่แล้วให้ Katniss ดู ซึ่งตอนแรกที่ Katniss เห็นรูปนั้น เธอก็รับไม่ได้ เธออยากลืม เพราะมันเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเธอทุกคืน เธอไม่เข้าใจว่าทำไม Peeta ต้องอยากจดจำมันถึงขนาดต้องวาดมันขึ้นมาด้วย แต่ Peeta ก็ได้อธิบายว่า เขาก็ฝันร้ายถึงเรื่องในเกมปีที่แล้วเหมือนกัน แต่สำหรับเขา การวาดรูปคือการผ่อนคลายที่ดีที่สุด
ในหนังสือ Katniss ถูกรั้วไฟฟ้าที่กั้นระหว่าง District 12 กับป่าที่เธอชอบออกไปล่าสัตว์ช็อต เพราะ Katniss ไม่รู้ว่ามันกลับมาใช้ได้แล้ว (ปกติรั้วไฟฟ้านี้ใช้การไม่ได้มานานแรมปีแล้ว เพิ่งกลับมาใช้ได้ 24 ชั่วโมงหลังจาก Capitol ส่งคนใหม่เข้ามาควบคุมเมือง) เธอขาเจ็บกลับมาและต้องพักรักษาตัวอยู่หลายวัน ซึ่งระหว่างนั้นก็มี Peeta มาคอยดูแลตลอดเลย

3. DISTRICT 12

ในหนังอาจไม่ได้กล่าวถึง แต่ในหนังสือ Greasy Sae หญิงชราใน Hob (ตลาดมืดของ District 12) มีบทบาทเล็ก ๆ น้อย ๆ ตลอดเรื่องตั้งแต่ภาคแรกยันภาคสุดท้าย เช่นในเกมครั้งที่ 74 เธอเป็นคนต้นคิดริเริ่มเรี่ยไรเงินคนในเขต เพื่อส่งของไปสปอนเซอร์ให้ Peeta กับ Katniss ในสนาม
ความสุขอย่างเดียวของ Katniss หลังจากได้เป็น Victor คือ ตลอดหนึ่งปีนี้ เธอจะได้เห็นทุก ๆ ครัวเรือนในเขต 12 ได้รับเสบียงจำนวนมากกันถ้วนหน้าทุกเดือน
ในหนังสือ Peacekeepers ของ District 12 มีบทบาทกว่าในหนังนิดนึง โดย Head Peacekeeper ของเขต ชื่อ Cray เป็นคนขี้เมา (รองลงมาจาก Haymitch) และชอบหลอกล่อหญิงสาวที่อดอยากให้ไปนอนด้วยเพื่อแลกกับเงิน ตรงนี้ Katniss บรรยายในหนังสือว่า เธอยังโชคดีอยู่บ้างที่พ่อของเธอจากไปตอนที่เธอโตแล้ว โตพอที่จะล่าสัตว์เป็นและหากินเองได้ มิเช่นนั้นเธอก็อาจต้องไปนอนกับ Cray เพื่อแลกกับเงินเหมือนสาว ๆ คนอื่นเหมือนกัน

4. KATNISS’S FATHER

ในหนังสืออธิบายว่า พ่อของ Katniss เสียชีวิตในเหตุการณ์เหมืองระเบิดพร้อม ๆ กับพ่อของ Gale เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่อายุประมาณ 12-13 ขวบ ตั้งแต่นั้นมา Katniss ก็ฝึกล่าสัตว์อย่างจริงจังเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวแทนพ่อ
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ในหนังไม่ได้กล่าวถึงความสำคัญของทะเลสาบเล็ก ๆ ในเขต 12 เลย แต่ในหนังสือเขาบรรยายว่า ปกติเราไม่มีทะเลสาบในเขต 12 แต่พ่อของ Katniss ค้นพบทะเลสาบนี้ในป่า ทะเลสาบนี้จึงเป็นสถานที่ลับเฉพาะระหว่างเธอกับพ่อ และเธอไม่เคยคิดจะพาใครไปที่ทะเลสาบนี้เลยแม้แต่ Gale แต่เธอก็ชอบแวะไปว่ายน้ำที่นี่อยู่เป็นประจำ
ดังนั้น ตามหลักแล้ว ในเขต 12 ต้องไม่มีที่ที่ผู้คนควรจะฝึกว่ายน้ำได้ อย่าง Peeta เอง ในหนังสือ เขาก็ว่ายน้ำไม่เป็น ส่วน Katniss ซึ่งมาว่ายน้ำที่ทะเลสาบลับบ่อย ๆ จึงสามารถว่ายน้ำได้ตอนแข่งอยู่ใน Arena ได้ ซึ่งนั่นทำให้ Finnick อึ้ง งง และถามเธอว่า “เธอไปฝึกว่ายน้ำมาจากไหนในเขตที่เธออยู่” แต่ในหนังตัดประเด็นนี้ไป ทั้ง Peeta และ Katniss ไม่มีปัญหาเรื่องการว่ายน้ำในตอนเปิดฉากใน Arena เหมือนในหนังสือ

5. THE VictorS’ Village

ที่หมู่บ้านผู้พิชิต (The Victors’ Village) มีบ้าน 12 หลัง แต่ละหลังอยู่ได้เป็นสิบ ๆ คน และมีแม่บ้านคอยดูแลให้ด้วย (ยกเว้น Haymitch ที่ไม่ยอมให้ใครมายุ่มย่ามกับเขา) แต่ Victor’s Village ของ District 12 เงียบเหงา เพราะไม่ค่อยมีผู้พิชิต จึงมีแต่บ้าน Haymitch อยู่คนเดียวมาตลอดหลายปี จนกระทั่งล่าสุดเพิ่งจะมีครอบครัวของ Katniss กับ Peeta ย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
ในหนัง เราจะเห็นว่ามีฉาก Katniss ซื้อเหล้าไปให้ Haymitch โดยไม่มีนัยสำคัญอะไรมาก แต่ในหนังสือผู้เขียนเล่ากับคนอ่านว่า เธอซื้อเหล้าจากร้านของ หญิงแขนเดียวชื่อว่า Ripper ไปให้ Haymitch เพราะก่อนหน้านี้เหล้าขาดตลาดมา 2-3 อาทิตย์ แล้ว Katniss ทนดู Haymitch ในสภาพลงแดงไม่ได้ และนั่นก็ทำให้ Prim กลัว Haymitch ด้วย เธอจึงยอมหาซื้อเหล้ามาให้ mentor ขี้เหล้าของเธอ
Peeta เป็นเพื่อนบ้านที่น่ารัก เขาอบขนมปังมาให้บ้านของ Katniss เสมอ ๆ โดยของโปรดของ Katniss คือ Cheese Bun ที่ Peeta ทำ
Katniss แอบกลับไปบ้านเก่าใน Seam บ่อย ๆ เช่นเดียวกับ Cupcake (หรือ Buttercup) แมวของ Prim ที่ชอบกลับไปนอนเล่นที่บ้านเก่าในช่วงที่ Prim ไปโรงเรียน แสดงให้เห็นว่า Katniss ไม่รู้สึกยินดีอะไรกับบ้านใหม่หรือชีวิตหลังเป็นผู้พิชิตเลย

6. THE Victor Tour

Victor Tour ที่ Peeta กับ Katniss ต้องขึ้นรถไฟตะลอน ๆ ไปโชว์ตัวที่ทุก ๆ Districts มีจุดประสงค์เพื่อคงความสดใหม่ของความน่ากลัวของเกมไว้ โดยเริ่มออนทัวร์จาก District ที่ห่างไกลความเจริญที่สุด (โดยปกติก็เริ่มที่ District 12 เพราะไม่ค่อยมี Victor กับเขาเท่าไหร่) ไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึง District 1 และ Capitol ตามลำดับ ก่อนจะกลับไป District ของ Victor ในปีนั้น ๆ เป็นจุดหมายปลายทางสุดท้าย
หลัง Peeta พูดจบบนเวทีของ District 11 ในหนังสือบอกชัดเจนกว่าในหนังว่า หลังจาก Katniss เห็นสายตาของน้องสาวของ Rue ที่จ้องเธอมา เธอตัดสินใจขอพูดความในใจถึง Thresh และ Rue ด้วย รวมถึงกล่าวขอบคุณทุกคนใน District 11 สำหรับขนมปังที่ส่งมาสปอนเซอร์ให้เธอในเกม
ข้อแตกต่างอีกประการที่เกิดขึ้นใน District 11 คือ Peacekeepers ไม่ได้ลากคอชายแก่คนที่ salute ให้ Katniss เป็นคนแรกนั้นมายิงต่อหน้า Katniss เหมือนในหนัง แต่ทว่าเขาถูกยิงหลังจาก Peeta กับ Katniss เดินกลับเข้าไปในตึกแล้ว และ Katniss บังเอิญไปเห็นชายแก่คนนั้นกำลังโดนยิงพอดี เพราะเธอเดินกลับออกไปเอาช่อดอกไม้ที่ลืมไว้

7. THE OLD OWNER OF THE Mockingjay Pin

ในหนังสือมีฉาก Katniss กับ Peeta ไปดินเนอร์ที่บ้านของคุณ Undersee ซึ่งเป็น Mayor ของ District 12 และเป็นพ่อของ Madge เพื่อนสนิทของ Katniss (และเป็นคนให้เข็มกลัด Mockingjay กับ Katniss ในภาคแรก)
ที่บ้านของ Mayor ผู้อ่านจะได้ทำความรู้จักกับแม่ของ Madge ซึ่งป่วยหนัก นอนเจ็บออด ๆ แอด ๆ มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยได้รับสิทธิพิเศษเข้าไปรักษาตัวกับหมอเก่ง ๆ ใน Capitol ทั้งที่ก็เป็นถึงภรรยาของ Mayor ของเขต 12 (Madge กล่าวว่า “You don’t go to the Capitol unless they invite you,”)
ในหนังสือภาคนี้เฉลยว่า เข็มกลัด Mockingjay เดิมเคยเป็นของ Maysilee Donner คุณน้า (หรือคุณป้า) ของ Madge ซึ่งเคยเป็นเครื่องบรรณาการ (tribute) ของ District 12 ในปีเดียวกับ Haymitch แถมยังเคยเป็นเพื่อนรักของคุณแม่ของ Katniss อีกด้วย (แน่นอนว่า น้า/ป้าของ Madge ตายในการแข่งขัน เพราะปีนั้นมี Haymitch คนเดียวที่ได้เป็น Victor)

8. The New Head Gamemaker

ฉากงานเลี้ยงในคฤหาสน์ของ President Snow ในหนัง Katniss กับ Peeta แทบไม่ยอมแตะอะไรเลย แต่ในหนังสือนางตะกละชิมแทบทุกจาน จานละคำ ๆ ส่วนเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วสำรอกอาหารเดิมออกมาเพื่อจะได้กินอาหารใหม่เข้าไปได้นั้น ในหนังสือ Prep Team ของทั้งสองเป็นคนเอามาให้ดื่ม และพูดทีหลัง Peeta จิบไปแล้วว่ามันคือน้ำอะไร (ในส่วนนี้ เราคิดว่าหนังทำได้ดีกว่าตรงที่ใช้ฉากนี้ถ่ายทอดประเด็นความเหลื่อมล้ำของ Capitol กับคนในเขตอื่น ๆ ที่แทบไม่มีกิน)
หนังสือแอบใบ้เป็นนัย ๆ ล่วงหน้าตั้งแต่ในงานเลี้ยงแล้วว่า Plutarch Heavensbee (Head Gamemaker คนใหม่) อยู่ฝ่ายสนับสนุนกบฏ โดยฉากที่ Plutarch เข้ามาขอเต้นรำกับ Katniss นั้น เขาบอก Katniss ว่า “I’ve got a stragegy meeting tonight. It starts at midnight.” ซึ่งเป็นการใบ้ ๆ เกี่ยวกับเกม The Quarter Quell ที่กำลังมาถึง แล้วเขาก็เปิดนาฬิกาข้อมือมาดูเวลา โดยเหมือนจงใจให้ Katniss เห็นแว้บ ๆ ว่า นาฬิกาข้อมือของเขา มีรูป Mockingjay เรืองแสง ปรากฏอยู่บนหน้าปัดด้วย แต่ในหนังก็ให้ความสำคัญหรือให้ซีนกับ Plutarch มากกว่าในหนังสือ เช่น เขาได้เข้าฉากพูดคุยกับ President Snow บ่อย ๆ ว่าอย่าเพิ่งฆ่า Katniss และเขาก็บอก Katniss ด้วยว่า เขาอาสากลับมาเป็น Head Gamemaker เอง เพื่อจะได้ช่วย Katniss และกลุ่มกบฎ

9. The New Head Peacekeeper

Head Peacekeeper คนใหม่ของ District 12 สั่งปิดเหมืองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ (ซึ่งคงเป็นคำสั่งของ President Snow) ทำให้ประชาชนขาดรายได้หลัก อาหารเริ่มขาดแคลน แม้กระทั่งตอนที่กลับมาเปิดเหมืองแล้ว ค่าจ้างก็น้อยลงในขณะที่ชั่วโมงการทำงานกลับมากขึ้น แถมคนงานยังถูกส่งไปทำงานในไซต์ที่อันตรายขึ้นอีก
ครอบครัวของ Gale ก็ลำบากหนัก นอกจาก Gale จะไปทำงานในเหมืองไม่ได้ แม่ของ Gale ก็ไม่มีใครไปใช้บริการซักรีด แต่ Katniss แอบวางถุงเงินให้ตอนไปเยี่ยม และบอกให้ Haymitch จ้างแม่ของ Gale ไปเป็นแม่บ้านที่บ้าน เพื่อให้ครอบครัว Gale พอมีรายได้
ฉากที่ Gale ถูก Romulus Thread (Head Peacekeeper คนใหม่) เฆี่ยนที่ The Square นั้น ในหนัง Gale ถูกเฆี่ยนโทษฐานที่หล่อกว่าในหนังสือ นั่นคือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ (ที่กำลังจะเอาแส้ฟาดชาวบ้าน) แต่ในหนังสือ Gale ถูกทำโทษข้อหาลักลอบเข้าป่าต้องห้าม กล่าวคือ ปกติ Gale มักจะจับไก่งวงในป่าไปขายให้ Cray ซึ่งเป็น Head Peacekeeper คนเก่า แต่วันนี้เขาดันโชคร้าย สุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าไปในออฟฟิศพร้อมไก่งวง โดยไม่รู้ว่า Romulus Thread มา take over เก้าอี้ของ Cray ไปแล้ว
ส่วนฉากที่ Katniss, Haymitch และ Peeta เข้าขวางการเฆี่ยนตี Gale ในหนังสือมี Peacekeeper คนหนึ่งชื่อ Darius เข้ามาช่วยด้วย จนตัวเองต้องถูกส่งไปเป็น Avox (ข้ารับใช้ที่ถูกตัดลิ้น พูดไม่ได้) ใน Capitol และรับใช้ Peeta กับ Katniss ตอนที่ทั้งคู่ไปแข่ง The Quarter Quell ครั้งนี้ และมีหญิงชาวบ้านอีกคนนึงมาช่วยพูดอีกเสียงว่า ที่เขตนี้ละเว้นโทษโบยสำหรับความผิดครั้งแรกเสมอ เว้นแต่จะเป็นโทษที่ผิดถึงขั้นประหาร พอฟังกฎตามนั้น Thread จึงยอมปล่อย Gale ไป
แม่ของ Katniss มีสกิลในการรักษาคน เพราะตาและยายของ Katniss เคยเปิดร้านขายยา แล้ว Head Peacekeeper คนเก่า (คนก่อนหน้า Cray ไปอีก) ก็ชอบเฆี่ยนตีประชาชนแบบ Thread เหมือนกัน แม่ของ Katniss จึงเคยได้ช่วยรักษาแผลอะไรแบบนี้บ่อย ๆ
ยาแก้ปวดจัดเป็นสินค้าราคาแพง และเป็นยาที่ใช้เฉพาะหมอสั่งเท่านั้น แม่ของ Katniss จึงเก็บไว้ใช้เฉพาะกับเคสที่สาหัสมากจริง ๆ ส่วนในการรักษา Gale เธอใช้แต่หิมะกับสมุนไพร ถึงแม้ Katniss จะยืนกรานว่าให้ใช้ยาที่ดีที่สุดในการรักษา Gale
ในหนังสือบอกอีกว่า Madge (เพื่อนของ Katniss ที่เป็นลูก Mayor) แบ่งมอร์ฟีนของแม่ ซึ่งเป็นยาจาก Capitol เอามาให้เพื่อใช้รักษา Gale ด้วย ซึ่งทำให้ Katniss แอบเคลือบแคลงใจว่า Madge แอบชอบ Gale หรือเปล่า และก็มีอาการหึงหวงเล็กน้อย จนถึงขั้นหงุดหงิดและพาลคนอื่นไปทั่ว

10. ReBELLION

ในหนัง Katniss ได้รู้ข่าวเกี่ยวกับกบฎในเขตต่าง ๆ จากการแอบเห็นทีมงานดูทีวีบนรถไฟ แต่ในหนังสือ Katniss ได้รู้ด้วยตัวเองจากคนใกล้ตัวและคนที่บังเอิญเจอ
ในหนังสือ Katniss เจอ Twill กับ Bonnie ผู้ลี้ภัยจาก District 8 ในป่า พวกเขาใส่เครื่องแบบของ Peacekeepers แต่ไม่มีอาวุธติดตัว แต่ดีที่ในมือของพวกเขาถือแครกเกอร์ที่มีรูป Mockingjay อยู่ตรงกลาง ทำให้ Katniss ยอมลดธนูลง
Twill กับ Bonnie กำลังลี้ภัยจาก District 8 ไป District 13 ซึ่งตามหลักแล้ว เป็น District ที่ถูก Capitol ทำลายล้างไปตั้งแต่ 75 ปีก่อน (ปีที่มีการแข่งขัน The Hunger Game เป็นปีแรก) แต่ทั้งสองเชื่อว่ายังมีประชาชน District 13 กลุ่มหนึ่งหลบหนีไปอยู่ใต้ดินได้ทันก่อนที่ Capitol จะมาล้างบาง และคนเหล่านั้นได้แอบเตรียมการกบฏอยู่ใต้ดินนั้นตลอดมา เหตุผลที่ทั้งสองเชื่อเช่นนั้นเพราะ พวกเขาสังเกตเห็นในทีวีว่า ใน District 13 มีนก Mockingjay ตัวหนึ่งกำลังบินแฉลบ The Justice Building เสมอ คือเป็นนกตัวเดิม… บินผ่านที่เดิม… ทำให้พวกเขามั่นใจว่าฟุตเทจของ District 13 ที่ทาง Capitol เผยแพร่ภาพทางทีวีนั้น เป็นม้วนเดิมที่นำมาฉายซ้ำ หมายความว่า Capitol ไม่สามารถโชว์ชาวโลกได้ว่า จริง ๆ แล้วตอนนี้ที่ District 13 เป็นยังไงกันแน่
Katniss ได้รู้อีกว่า Capitol ให้ข้อมูลเท็จกับประชาชน Panem มาโดยตลอดว่า District 13 เคยเป็นเขตทำเหมืองแกรไฟต์ ทั้ง ๆ ที่ ที่จริงแล้ว District 13 เป็นเขตอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่างหาก
Katniss รู้จาก Twill กับ Bonnie ว่า คืนวันหมั้นของ Katniss กับ Peeta คือวันที่การกบฏเริ่มต้นขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากรายการสัมภาษณ์ของ Caesar Flickerman ในช่วง The Victory Tour เป็นรายการบังคับที่ทุกครัวเรือนต้องดู จึงเป็นโอกาสโดยชอบธรรมให้คนใน District 8 ออกมาดูทีวีจอใหญ่พร้อมกันกลางเมือง และเป็นฤกษ์งามยามดีในการรวมตัวกันก่อกบฏ
ทีมแต่งหน้าของ Katniss บ่นว่าที่ Capitol ไม่มีซีฟู้ดให้กินหลายอาทิตย์แล้ว เพราะ District 4 (บ้านของ Finnick) อากาศไม่ดี จึงไม่มีซีฟู้ดส่งมาให้ แต่ Katniss เชื่อว่า มันไม่เกี่ยวกับอากาศหรอก แต่ District 4 ไม่ส่งเสบียงไปให้เพราะเริ่มกระด้างกระเดื่องต่อ Capitol แล้วมากกว่า
นอกจาก District 4 จะขาดส่งอาหารทะเล อุปกรณ์ไฟฟ้าจาก District 3 และผ้าทอจาก District 8 ก็ขาดส่งเช่นกัน ทำให้ Katniss เริ่มมั่นใจกับเรื่องการกบฏมากขึ้น อีกทั้ง Haymitch ยังได้ข่าวมาอีกว่าตอนนี้เริ่มมีกบฏเกิดขึ้นใน District 7 และ 11 แล้วด้วย

11. The Quarter Quell

ตามที่ในหนังบอก การแข่งขันปีที่ 75 เรียกว่า The Quarter Quell ซึ่งเป็นเกมแบบกติกาพิเศษที่แตกต่างจากปีปกติ โดย The Quarter Quell มีทุก ๆ 25 ปี ดังนั้น ครั้งนี้จึงนับเป็น The Quarter Quell ครั้งที่ 3
การแข่งขัน The Hunger Games ปีที่ 25 (The Quarter Quell ครั้งที่ 1) มีกติกาพิเศษคือ แต่ละ district จะต้องจัดการเลือกตั้งหรือการโหวตกันเองในเขตว่า จะส่งใครมาเป็น tributes ส่วน The Hunger Games ปีที่ 25 (The Quarter Quell ครั้งที่ 2) ซึ่งเป็นปีที่ Haymitch แข่งและชนะมา มีกติกาพิเศษคือ แต่ละเขตจะต้องส่ง tribute เป็นจำนวนสองเท่ากว่าปกติ (หมายความว่า Haymitch มีมีโอกาสถูกฆ่าเยอะกว่าและอาจต้องฆ่าคนเยอะกว่าการแข่งขันปีปกติถึงสองเท่า)
ทั้งในหนังและในหนังสือ Haymitch ไม่เคยพูดถึงปีที่ตัวเองแข่งขันเลยว่าเป็นอย่างไร แต่ในหนังสือ Peeta กับ Katniss ไปแอบเปิดเทปบันทึกการแข่งขันเก่าดูกันเองว่า Haymitch ชนะคู่แข่งถึง 47 คนได้อย่างไร จึงได้รู้ว่า mentor ของพวกเขานี่สตรองใช่เล่นจริง ๆ

12. Haymitch’s VICTORY

The Quarter Quell ครั้งที่ 2 ไม่ใช่แค่มีผู้เข้าแข่งขันเยอะเป็นสองเท่ากว่าปกติเท่านั้น แต่ทุก ๆ อย่างที่อยู่ใน arena ล้วนแต่มีพิษ ตั้งแต่ดอกไม้ น้ำ หรือผลไม้ ที่กินได้มีแต่น้ำฝนและเสบียงที่หยิบจาก The Cornucopia (จุดปล่อยตัว) เท่านั้น
ปีนั้น The Cornucopia ตั้งอยู่ใจกลางทุ่งที่สวยงาม ยาวเป็นกิโลฯ ออกไปทางหนึ่งเป็นป่า อีกทางหนึ่งเป็นภูเขาที่ยอดมีหิมะปกคลุม แต่อย่างที่บอก ทุ่งดอกไม้มีพิษร้ายแฝงอยู่ tributes ส่วนใหญ่ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับความสวยงามตรงนั้น แต่ Haymitch ฉลาด มีสติ รีบคว้าอาวุธและเสบียงวิ่งเข้าป่าทันที
พวก Careers รวมตัวเป็นแก๊งสิบกว่าคนเริ่มไล่ฆ่า tributes คนอื่น ๆ ที่ฝั่งภูเขาหิมะ ในขณะที่ Haymitch ต่อสู้กับฝูงกระรอกกับผีเสื้อ (ซึ่งเป็น mutts ดุร้าย) และพยายามอยู่ห่างจากโซนภูเขาให้มากที่สุด
หลายวันต่อมา ลาวาก็ปะทุมาจากภูเขา ทำให้ tributes ตายไปเป็นโหล ๆ จนเหลือแค่ 13 คนสุดท้าย อันรวมถึง Haymitch กับ Maysilee ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแม่ Katniss และเป็นน้า/ป้าของ Madge
Haymitch เผชิญหน้ากับ Careers สามคนซึ่งตัวใหญ่และแข็งแรงกว่า แต่ Haymitch เป็นคนฉลาดและว่องไว เขาฆ่า Careers ตายสองคน เขาพลั้งเกือบถูกอีกคนที่เหลือฆ่าตาย โชคดีที่ Maysilee มาช่วยไว้ทัน เป็นจุดเริ่มต้นที่ Haymitch กับ Maysilee ตัดสินใจร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน จนกระทั่งทั้งคู่รอดเหลือเป็น 5 คนสุดท้าย ก็ตกลงแยกทางกัน
Haymitch ปักหลักตรงหน้าผา และค้นพบความลับของหน้าผาแห่งนั้น… “ความลับของ arena” … นาทีนั้นเองเป็นนาทีเดียวกับที่ Maysilee กรีดร้อง เธอถูกฝูงนกรุมฆ่าตาย โดยที่ Haymitch วิ่งกลับไปช่วยเธอไว้ไม่ทัน
Haymitch หลงเหลือรอดเป็น 2 คนสุดท้าย เขาสู้กับผู้หญิงจาก District 1 ซึ่งตัวใหญ่กว่าเขา ผู้หญิงคนนั้นขว้างขวานใส่ Haymitch เขาหลบไประนาบกับพื้น ขวานพุ่งดิ่งลงไปที่หน้าผาดังกล่าว และบินย้อนกลับไปเฉาะหัวผู้หญิงคนนั้นตายคาที่เหมือนบูมเมอร์แรง การสะท้อนกลับของขวานนั้นเอง คือ “ความลับของ arena” ที่ Haymitch ค้นพบ แต่ศัตรูไม่รู้มาก่อน
เห็นขี้เมาแบบนี้ จริง ๆ แล้ว Haymitch ฉลาดและนิสัยดีมากนะ… #FC

ความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ Catching Fire (และสิ่งที่หนังไม่ได้บอกหรือบอกไม่หมด) ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น นี่เป็นแค่ครึ่งทางเท่านั้น ติดตามอ่านครึ่งหลังได้ในบล็อก Catching Fire: ความแตกต่างระหว่างหนังกับหนังสือ Part 2

READ MORE:

Follow

Social Links