✈️🇹🇷 Soaring to Freedom and Discovery 🇹🇷✈️
EP.1 A Solo Journey Begins
🏰 Dream Cities without a Visa
“ตุรกี” คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของหลาย ๆ คน เพราะให้ฟีล “เที่ยวยุโรป” ได้ โดย “ไม่ต้องใช้วีซ่า” อย่างทริปนี้เรามา “อิสตันบูล” กับ “คัปปาโดเกีย” ซึ่งเป็นสองเมืองที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม วัฒนธรรมโดดเด่น และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน อีกทั้งอิสตันบูลยังเป็น “ดินแดนสองทวีป (ยุโรป-เอเชีย)” ส่วนคัปปาโดเกียก็ถือเป็นดินแดนที่โด่งดังเรื่อง “ทริปบอลลูน (Hot-Air Balloons)” มาตุรกีครั้งนี้ เราจึงได้เช็คลิสต์เมืองในฝันสองเมืองทีเดียวในทริปเดียวกัน
❄️ Weather (in May)
เราเลือกเที่ยวปลายเดือน พ.ค. เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล (ฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน) อากาศไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป โดยช่วงที่เราไป อิสตันบูลกับคัปปาโดเกีย อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 9-23 องศาเซลเซียส เตรียมแค่เสื้อฮีทเทคของยูนิโคล่, สเวตเตอร์ หรือแจ็กเกต, กางเกงยีนส์ขายาว, และถุงเท้าอุ่น ๆ ก็อยู่ได้ชิลล์ ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วและตกช้า สว่างนาน มีเวลาเที่ยวได้เยอะ อย่างช่วงที่เราไป พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ ตีห้าครึ่ง และตกประมาณสองทุ่มครึ่ง แต่ที่คัปปาโดเกีย เราเจอฝนบ้างประปรายในช่วงเย็น
💶 Currency & Cost (May-June 2023)
ค่าเงินตุรกี (Turkish lira – TRY) ณ ตอนนี้ ก็ค่อนข้างต่ำ ช่วงนี้จึงเป็นจังหวะดีที่คนไทยจะไปเที่ยวและจับจ่าย โดยตอนที่เราไป (20-27 พ.ค. 2023) อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 THB = 1.7 – 1.8 TRY แต่ปัจจุบัน ณ วันที่เรากำลังเขียนบล็อกนี้ (12 มิ.ย. 2023) ค่าเงินตุรกีตกลงมาอีก เหลือแค่ประมาณ 1 THB = 1.5 TRY เท่านั้น ในขณะที่ 5 ปีที่แล้ว (กลางปี 2018) สูงถึง 1 THB = 7 TRY เลยทีเดียว
เราไปเที่ยว 2 เมือง คนเดียว 7 วัน ใช้เงินไป “ประมาณ 7 หมื่นบาทไทย” (ไม่รวมค่าของฝากและช้อปปิ้งดิวตี้ฟรี) โดยมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณดังนี้ (ดูคลิปได้บน TikTok ด้านล่าง)
- ไฟล์ทไปกลับ กรุงเทพ-อิสตันบูล กับ Qatar Airlines ใช้แลกไมล์ จึงเสียแค่ค่าภาษีสนามบินและค่าอัพเกรดที่นั่ง รวมประมาณ 14,000 บาท
- ไฟล์ทไปกลับ อิสตันบูล-คัปปาโดเกีย กับ Turkish Airlines ประมาณ 4,700 บาท
- Shuttle Bus ไปกลับ ระหว่างสนามบิน SAW กับตัวเมืองในอิสตันบูล ประมาณ 240 บาท
- Airport Transfer ไปกลับ ระหว่างสนามบินที่คัปปาโดเกียกับที่พัก ประมาณ 740 บาท
- ค่าขนส่งสาธารณะ รวมค่าออกบัตร Istanbul Card ประมาณ 530 บาท
- ค่าโรงแรมที่อิสตันบูล 4 คืน ประมาณ 18,000 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับโรงแรม ห้องที่เลือกพัก และซีซัน)
- ค่าโรงแรมที่คัปปาโดเกีย 3 คืน ประมาณ = 12,000 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับโรงแรม ห้องที่เลือกพัก และซีซัน)
- ค่าตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ประมาณ 2,500 บาท (เราซื้อตั๋วเข้าชม ทั้ง 2 เมือง รวมแค่ 3 ที่ ราคาจึงขึ้นอยู่กับจำนวนสถานที่ที่เข้าชม)
- ทริปบอลลูน ประมาณ 8,800 บาท (ราคาอาจขึ้นอยู่กับซีซันและบริษัทที่ให้บริการ)
- ค่าอาหาร ประมาณ 4,600 บาท (ถ้ามีเพื่อนหารหรือไม่พักย่านนักท่องเที่ยวแนว “ทองหล่อ” อาจถูกกว่านี้)
- ค่าโรมมิ่งแพ็กเกจของ AIS ประมาณ 900 บาท/15 วัน (เราเลือกซื้อแบบ 15 วัน เพราะเราต้องอยู่ตุรกี 7 คืน หรือประมาณ 8-9 วัน)
🌟 Worldclass Airports with Oasis & Premium Lounges
เราใช้แต้มบัตรเครดิต Citi Prestige แลกไมล์บินไปกลับกับสายการบินกาตาร์ จาก BKK (สนามบินสุวรรณภูมิ) – SAW (สนามบินอิสตันบูล ซาบิฮา กุคแซง) โดยมีแวะต่อเครื่องที่สนามบิน ณ เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นสนามบินที่สวยมาก ๆ มีสวนโอเอซิสอยู่ในสนามบินคล้าย ๆ ที่สนามบินสิงคโปร์ด้วย อีกอย่าง เราโชคดีที่มีบัตร Priority Pass จากบัตรเครดิต Citi Prestige จึงได้เข้าไปนั่งพักและทานอาหารอร่อย ๆ ฟรีในพรีเมียมเลานจ์ของแต่ละสนามบิน ณ ขณะรอไฟล์ทด้วย
✈️ Up in the Air
ถึงแม้จะเป็นที่นั่งชั้นประหยัด (economy) และต้องอยู่บนเครื่องยาวนานขาละ 11-12 ช.ม. (ไม่รวมเวลาต่อเครื่อง) แต่ด้วยบินกับสายการบินกาตาร์ เราไม่รู้สึกลำบากหรือล้ามากนัก เพราะที่นั่งกว้าง สะดวกสบาย มีจอดูหนัง, ที่เสียบ USB, หมอน-ผ้าห่ม ฯลฯ อาหารบนเครื่องบินก็โอเค และเราก็เลือกบินไฟล์ทดึกด้วย เช่น ขาไป ออกจากกรุงเทพฯ ตีสอง ก็นอนยาว ๆ 7 ช.ม. ถึงโดฮาประมาณตีห้าตามเวลาที่นู่น (กาตาร์กับตุรกี เวลาช้ากว่าไทย 4 ช.ม.) รอต่อเครื่อง 3 ช.ม. ก็เดินเล่นดูสวน ช้อปปิ้ง และนั่งเลานจ์ในสนามบิน แล้วก็เดินทางต่อ 4 ช.ม. ไปถึงอิสตันบูลประมาณบ่ายสอง ลงเครื่องก็รู้สึกเฟรชอยู่ พร้อมลากกระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมและเริ่มเที่ยวทันทีได้เลย
อีกอย่างที่อยากพูดถึงคือ มวลก้อนเมฆเหนือน่านฟ้าอิสตันบูลมันก้อนใหญ่ และเยอะแยะเต็มพื้นที่ รู้สึกนุ่มฟูสุด ๆ และก็ขาวมาก ๆ มันสวยมาก ๆ แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนบินเหนือกาตาร์หรือแถวคัปปาโดเกียก็ไม่ได้ว้าวเท่านี้ แต่สำหรับอิสตันบูล เราว้าวกับเมฆมากทั้งตอนนั่งไฟล์ทมาจากโดฮา และตอนนั่งไฟล์ทกลับจากคัปปาโดเกีย
📝 Planning with Notion
นอกจากจะไม่ต้องใช้วีซ่าแล้ว ตุรกียังถือเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้สบายมาก โดยเฉพาะในอิสตันบูล ที่มีคนเยอะพลุกพล่านตลอดเวลา ระบบขนส่งสาธารณะก็มีความหลากหลาย ราคาถูก และเข้าถึงง่าย ดีมาก ๆ แต่อย่างไรก็ตาม การไปเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือกี่คนก็ตาม เราจำเป็นต้องวางแผนไว้ระดับหนึ่ง โดยเราอ่านไกด์บุ๊คของสนพ. Lonely Planet แล้วก็สรุปทั้งที่พัก, การเดินทาง, ลิสต์อาหารและสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ลง Notion อีกทีหนึ่ง ตอนอยู่ตุรกี ก็เปิด Notion ดูได้ตลอดบน iPhone หรือ iPad ง่าย ๆ แต่ระหว่างทริป เราก็เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2-3 คนถือหนังสือไกด์บุ๊คของสนพ. Lonely Planet ที่เราอ่านด้วยเหมือนกัน
ถ้าใครสนใจ Travel Planner: Turkey Trip 2023 ที่เราสร้างไว้บน Notion ของเรา อนาคตเราอาจจะปล่อยแชร์ให้คนที่สนใจได้ดาวน์โหลดเอาไปเที่ยวตามได้สะดวก ๆ อีกทางหนึ่งนะ :)
MY PARTIAL Itinerary Board in NOTION APP A LOW-CALORIE MEAL ON BOARD (QATAR ECONOMY CLASS)
👩🏻✈️ Discover the Joys of Solo Travel
ทริปตุรกีไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเที่ยวต่างประเทศคนเดียว แต่ก่อนหน้านี้ เราก็เที่ยวคนเดียวแค่โซนเอเชียใกล้บ้าน และตอนนั้นเราก็ยังวัยรุ่นกว่านี้ พร้อมลำบาก พร้อมลุยกว่านี้ พอโตมา เรารู้สึกคิดเยอะขึ้นและอยากรอบคอบมากขึัน มันเลยทำให้เรารู้สึกประหม่า กังวลปนตื่นเต้น ส่วนหนึ่งเพราะนี่เป็นการเที่ยวคนเดียวที่ไกลที่สุดสำหรับเราด้วย และที่นี่มันค่อนข้างแตกต่าง ทั้งวัฒนธรรม และรูปลักษณ์ภายนอก แต่เราก็เชื่อมั่นว่า เราทำได้
จริง ๆ แล้ว ที่กรุงเทพฯ เราก็ค่อนข้างชินกับการอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว และไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่แล้ว เช่น กินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ดังนั้น เราจึงมองว่า การไปเที่ยวคนเดียวมันไม่ได้แตกต่างไปจากการใช้ชีวิตปกติของเราสักเท่าไหร่ ตรงกันข้าม เรารู้สึกโชคดีเสียอีกที่ทั้งตัวเราเองและวัฒนธรรมของเราเปิดโอกาสให้ผู้หญิงอย่างเรา ๆ สามารถเลือกเดินทางไปไหนมาได้ตัวคนเดียวได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายติดตามไปด้วยหรือคอยอนุญาตให้เราทำหรือไม่ทำอะไร เพราะผู้หญิงบางคนบนโลกเขาไม่มีโอกาสได้เลือกแบบนี้
แน่นอนว่า การไปเที่ยวคนเดียวมันอาจจะมีความลำบากบ้าง เช่น บางกิจกรรมอาจไม่เหมาะกับการไปหรือทำคนเดียว หรือค่าใช้จ่ายในบางส่วนที่ไม่มีใครช่วยหาร เป็นต้น แต่ในส่วนของเรื่องเงิน เราก็รู้สึกว่า สมัยเรามีแฟน แฟนก็ไม่ค่อยได้ช่วยหารอะไรสักเท่าไหร่อยู่แล้ว เวลาเลือกที่พัก ที่กิน และที่เที่ยว เราก็ต้องเลือกให้อยู่ใน budget ของเขาด้วยอีก เราจึงรู้สึกว่า ณ ตอนนี้ เราสบายใจกับอิสรภาพของการเที่ยวคนเดียว โดยเฉพาะในการจัดการแพลน เวลา และงบประมาณ หรืออย่างน้อย ก็จนกว่าเราจะได้เจอเพื่อนร่วมทางที่ใช่สักคนในชีวิต
ปัญหาสำคัญในการเที่ยวคนเดียวสำหรับเราอาจจะเป็น “ไม่มีคนถ่ายรูปให้” ถึงแม้จะลองขอให้คนแถวนั้นช่วยถ่ายให้ แต่บ่อยครั้งก็มักจะได้รูปที่ไม่ถูกใจและเราก็ไม่กล้าขอให้เขาช่วยถ่ายใหม่ให้ แต่ทว่าข้อดีคือ พอเราไม่ต้องง่วนกับการให้คนอื่นช่วยถ่ายรูปเราให้และไม่ต้องง่วนกับการถ่ายรูปให้คนอื่น เราก็มีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น ได้ถ่ายรูปบรรยากาศ และได้ appreciate กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น เพราะสุดท้ายเรา ความรู้สึก ประสบการณ์ และความทรงจำ ก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุด รูปที่เรากดชัตเตอร์ถ่ายเอง รวมถึงบล็อกนี้ ก็เพียงพอแล้วเหมือนกันที่จะช่วย remind ตัวเราว่า ครั้งหนึ่งเราเคยอยู่/เคยไปที่นั่น
ปกติเราก็เป็นคนชอบอยู่บ้านกับแมวกับต้นไม้ เพราะสำหรับเรา นอนดูทีวีอยู่บ้านก็พักผ่อนสบายดี แต่การไปเที่ยวแต่ละทีนี่สิ โคตรเหนื่อยเลย ดังนั้น สำหรับเรา ในแต่ละการเดินทาง การตัดสินใจกดจองตั๋วและที่พักไปเที่ยวมักเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด แต่พอผ่านพ้นขั้นตอนนั้นไปแล้ว ที่เหลือมันก็ไม่ยากเลย
หลายคนคงเข้าใจและเห็นตรงกันว่า การไปเที่ยวมันไม่ใช่การพักผ่อน แต่มันคือการก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน หรืออะไรเดิม ๆ ที่เรารู้จักดีอยู่แล้ว เพื่อออกไปเจอกับสิ่งใหม่ ๆ หรือสิ่งที่เรายังไม่พบเคยเห็น หรือสำหรับบางคน การไปเที่ยวก็คือการได้ออกไปใช้เวลา สร้างโมเมนต์หรือความทรงจำร่วมกับใครสักคน แต่การไปเที่ยวคนเดียวมันแตกต่างออกไป ทุกครั้งที่เราไปเที่ยวคนเดียว เรารู้สึกว่าตัวเองแกร่งขึ้น เป็นตัวเอง และรู้จักตัวเองมากขึ้นจากการที่ได้คิด วางแผน และตัดสินใจอะไรต่าง ๆ คนเดียวโดยไม่มีคนอื่นมาเป็นปัจจัยหรือตัวแปรข้องเกี่ยว
แต่การไปเที่ยวตุรกีครั้งนี้ของเรา มันมีเรื่องราวและความรู้สึกมากมายที่เราอยากบันทึกไว้อ่านเองในวันข้างหน้า และแชร์ให้เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจจะไปเที่ยวตุรกีด้วยเช่นกัน โดยเราจะทยอยลงรูปและเขียนลงเป็นซีรีส์ แบ่งเป็น episode หรือเป็นตอน ๆ ตั้งแต่ที่พัก การเดินทาง อาหารตุรกี สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ รวมถึงการขึ้นบอลลูนที่คัปปาโดเกีย ฯลฯ ในช่องทางต่าง ๆ ทั้ง Instagram, Facebook และ TikTok ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงแพลนแบบบรีฟ ๆ บน Notion แต่ในบล็อกนี้ ซึ่งมันไม่จำกัดจำนวนคำ เราจะเขียนยาวได้เป็นเสมือน “รีวิวกึ่งไดอารี่” เหมาะกับคนชอบอ่านรีวิวแบบละเอียด ๆ
ฝากติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะคะ :)
To be continued…
📌 เที่ยวตุรกี 2023: EP.2 MY DAY ONE SOLO IN ISTANBUL 📌 https://linktr.ee/kwanmanie