10 อันดับหนังโรงที่ชอบที่สุดในปี 2020

เนื่องจากโควิด ทำให้หนังน้อยหนังใหญ่เลื่อนฉายกันเป็นแถว ปี 2020 จึงเป็นปีที่เราได้ดูหนังโรงน้อยที่สุดในรอบหลายปี คือได้ดูไปแค่ 32 เรื่องเท่านั้น ซึ่งจัดได้ว่าน้อยกว่าสมัยยังไม่ทำบล็อกหนังเสียอีกด้วยซ้ำ แต่ข้อดีคือ เราคัดและจัดอันดับหนังโรงที่ชอบแห่งปีได้ง่ายกว่าปีก่อน ๆ มาก ถ้าคัดจริง ๆ ก็ชอบจริง ๆ ไม่ถึง 10 เรื่องเป๊ะ ๆ หรอก แต่ก็พอจะปัดเกรดหนังบางเรื่องขึ้น จนได้ลิสต์รวม 10 อันดับหนังโรงที่ชอบประจำปี 2020 ดังต่อไปนี้…

1. Little Women
   เรื่องราวชีวิตของ 4 พี่น้องตระกูล March และหนุ่มเพื่อนบ้าน จากวรรณกรรมสุดคลาสิก ผ่านการตีความใหม่ของผู้กำกับและนักเขียนบทดาวรุ่งหญิง Greta Grewig เรื่องนี้เราชอบมาก เป็นหนังเรื่องแรกที่ดูในปี 2020 แต่ทันทีที่ดูจบ ตัดสินใจได้ทันทีเลยว่า เรื่องนี้ต้องติด Top 10 แห่งปีของเราแน่นอน โดยเรื่องนี้เราดูในโรง 2 รอบ และมาดูบน Netflix อีก 1 รอบ นอกจากนี้ยังซื้อหนังสือมาอ่านทั้งแบบ e-book และแบบเล่มจริงด้วย
2. 1917
   เรื่องนี้เป็นหนังเล่าเรื่องในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมื่อสองทหารหนุ่มได้รับภารกิจให้ออกเดินทางฝ่าสมรภูมิไปส่งข่าวให้อีกกองนึงทราบก่อนที่ทหาร 1,600 นายของกองนั้นจะเข้าไปติดกับดักของศัตรู เรื่องนี้เน้นที่เทคนิคการถ่ายทำแบบลองเทค เป็นประสบการณ์การดูหนังที่หาดูได้ยาก ยิ่งตอนนั้นเราดูใน IMAX ก็ยิ่งรู้สึกทึ่ง ตอนนั้นก็แอบเชียร์ให้ได้ออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่สุดท้าย Parasite ได้ไป ก็ไม่เป็นไร
3. Birds of Prey
   หนังแอ็คชั่น Anti-hero แก๊งหญิงล้วนของ DC รวมนกผู้เคยมีประสบการณ์ผู้ชายห่วย ๆ นำโดย Harley Quinn แฟนเก่า Joker หนังก็จะเล่าแบบบ้า ๆ จัดจ้านสไตล์นางหน่อย เป็นแก๊งหญิงล้วนที่ฉากแอ็คชั่นไม่แพ้หนังผู้ชาย แล้วก็ชอบตัวละคร The Huntress ที่เท่ระเบิดระเบ้อ
4. The Invisible Man
   อันนี้ก็รู้ตั้งแต่ดูจบเลยว่ายังไงก็ต้อง Top 10 เรื่องนี้เป็นหนังมนุษย์ล่องหนที่นำพล็อตเก่ามาเล่าใหม่ สอดคล้องกับกระแส #MeToo หรือ Sexual assults ในสังคมชายเป็นใหญ่ นางเอกถูกตามรังควานโดยชายผู้มองไม่เห็นซึ่งเธอเชื่อว่าคือสามีของเธอที่ตายไปแล้ว หนังมีสัญลักษณ์แฝงเยอะ แต่เป็นหนังดูง่าย ดูสนุก ลุ้นจนลืมหายใจ การแสดงของ Elisabeth Moss ก็ชนะเลิศ
5. Jojo Rabbit
   อันนี้นอกจากจะติด Top 10 แล้ว ขอแอบกระซิบว่าติด Top 3 และนอกจากนี้ยังติดอันดับลิสต์หนังนาซีที่ชอบที่สุดตลอดกาลอีกด้วย เรื่องนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับนาซี สงครามโลก และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวก็จริง แต่เล่าอย่างย่อยง่ายและน่ารัก โดยเล่าผ่านมุมมองของเด็กเยอรมันวัย 10 ขวบ ผู้มี Adolf Hitler เป็นไอดอลและเพื่อนในจินตนาการ แล้วต่อมาได้ค้นพบว่าแม่ของเขาแอบซ่อนเด็กสาวชาวยิวไว้ในบ้านตลอดมา
6. Emma.
   เรื่องนี้คล้าย Little Women ถ้าใครชอบหนังแนวเฟมินิสต์แบบเราและชอบ Little Women ก็คงจะชอบเรื่องนี้ด้วยแหละไม่มากก็น้อย เรื่องนี้ลึกน้อยกว่า แต่ก็บันเทิงกว่า เน้นความชุลมุนวุ่นวายของชีวิตคู่หลายคู่ เพราะนางเอกเป็นหญิงสาวสวย รวย เก่ง เธอคิดว่าการแต่งงานคือการยกฐานะของผู้หญิง เธอจึงคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพราะเธอรวยอยู่แล้ว แต่เธอชอบเป็นแม่สื่อแม่ชักจับคู่ให้เพื่อน ๆ ของเธอ เพราะเธออยากให้สาว ๆ คนอื่นได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีและรวย
7. TENET
   เชื่อว่าเรื่องนี้ต้องติด Top ของลิสต์นักดูหนังเกือบทุกคน เพราะหนังของเสด็จพ่อ Nolan เรื่องนี้ บทล้ำ ทะเยอทะยาน และเล่นท่ายากกว่าเดิม มีเรื่องของ Time Inversion (ที่ไม่ใช่ Time Travel) และต้องดูมากกว่า 1 รอบเพื่อเก็บรายละเอียดและตรวจเช็คความเข้าใจ นักแสดงทุกคนก็โดดเด่น โดยเฉพาะ Robert Pattinson ที่นอกจากหน้าจะหล่อแล้ว บทยังหล่อมาก ใคร ๆ ก็ต้องจดจำ
8. Mulan
   หนังรีเมคจากการ์ตูนดิสนีย์ชื่อดัง หญิงสาวชาวจีนปลอมตัวเป็นชายไปออกรบแทนพ่อ เพื่อปกป้องครอบครัว ปกป้องแผ่นดินจีน และนำเกียรติมาสู่วงศ์ตระกูล เป็นฉบับคนแสดงที่มีการดัดแปลงที่เข้าใจได้ในหลาย ๆ ส่วน โดยรวมเราชอบนะ แต่ก็คิดหลายรอบเหมือนกันว่ามันควรค่าแก่การติด Top 10 หนังแห่งปีไหม แต่เมื่อพิจารณาจากลิสต์หนังที่เราดูในปีนี้แล้ว ก็คงต้องให้ Mulan อยู่ในลิสต์นี้ไปด้วย
9. Wonder Woman 1984
   ภาคต่อของ Wonder Woman ที่ยังคงย้อนยุค อยู่ในปี 1984 บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะหนังเรื่อย ๆ ไปบ้าง บู๊น้อยไปบ้าง แต่เราชอบ เพราะมันเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีบทเรียนชีวิตและมีความเป็นมนุษย์สูงมาก แม้แต่คู่ปรับของนางเอกก็มีมิติและมีความเทา ๆ ทั้ง Max Lord และ Cheetah ที่สำคัญ Gal Gadot กับแฟชั่นเสื้อผ้าของนางปังมาก มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
10. Soul
    แอนิเมชั่นฟิกซาร์ที่มามอบความสุขส่งท้ายปี และช่วยปลอบประโลมจิตใจชาวโลกอย่างดี กับเรื่องราวของนักดนตรีที่กำลังเดินตามความฝันต้องตายทั้งที่ยังไม่อยากตาย และต้องมาเป็นพี่เลี้ยงให้ดวงวิญญาณที่ไม่อยากไปเกิดให้ได้ไปเกิด มีความปรัชญาไปหน่อย เช่น ประเด็นเราเกิดมาทำไม แต่เขาก็พยายามเล่าให้น่ารักและย่อยง่ายเท่าที่จะทำได้ ดูแล้วได้ข้อคิดและได้ย้อนมองชีวิตตัวเองใหม่ อาจจะไม่ปังเท่าเรื่องก่อน.ๆ ของพิกซาร์ แต่ว่าก็ผ่านเข้ารอบแน่นอน

***หมายเหตุ ลิสต์ข้างต้นเรียงตามลำดับวันที่เข้าฉายหรือลำดับเวลาที่ได้ดูจากก่อนไปหลัง ไม่ได้เรียงลำดับตามความชอบหรือคะแนนแต่อย่างใด***