โพสต์นี้เป็นโพสต์รวมเกร็ดประเด็นความรักและการเมืองหลัก ๆ จากในหนังสือ The Hunger Games ของ Suzanne Collins ที่ในแผ่นฟิล์มไม่ได้บอก หรือบอก…แต่บอกไม่หมด หรือบอก…แต่บอกไม่ละเอียด ดังนั้น โพสต์นี้จะมีเนื้อหา***สปอยล์***หนักมาก และมีการเจาะลึกรายละเอียดด้วย จึงเหมาะสำหรับคนที่เคยอ่านหรือเคยดู The Hunger Games มาแล้วอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง
1. Catnip
-
ในหนัง เราจะได้ยิน Gale เรียก Katniss ว่า Catnip บ้างในบางที ซึ่ง Catnip คือชื่อพืชตระกูลมินต์ชนิดหนึ่งที่มีคุณลักษณะดึงดูดแมว (หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า กัญชาแมว)
-
ในหนังสือเล่าว่า Gale เรียก Katniss ว่า “Catnip” เพราะว่า ครั้งแรกที่เจอกัน Katniss แนะนำตัวด้วยเสียงที่เบาจนแทบจะกระซิบ ทำให้ Gale ได้ยินไม่ถนัด และตอนนั้นเอง ก็ยังมีแมวป่ามาเดินตาม Katniss ต้อย ๆ ด้วยอีก ดังนั้น “Catnip” จึงกลายเป็นชื่อเล่นที่ใช้กันระหว่าง Gale กับ Katniss ไปโดยปริยาย
2. Reaping
-
Reaping คือระบบการเก็บเกี่ยวเครื่องบรรณาการ หรือผู้เข้าแข่งขัน (tributes) จาก 12 เขต (districts) โดยใช้กับกลุ่มเด็กอายุ 12-18 ปี กล่าวคือ พอเราอายุ 12 ปี เราจะมีฉลากชื่อของเราในโหลคนละ 1 ใบ และจำนวนฉลากจะเพิ่มขึ้นปีละใบ ๆ จนถึงปีสุดท้ายที่เราอายุ 18 เราก็จะมีชื่อในโหลนั้น 7 ใบ
-
แต่สำหรับเด็กที่บ้านอดอยากยากจน เช่น Gale กับ Katniss จะมักมีฉลากชื่อตัวเองในโหลนั้นมากกว่าปกติ เพราะพวกเขาต้องใส่ฉลากชื่อเพิ่มพิเศษเข้าไปในโหล เพื่อแลกกับ tesserae หรือแลกกับข้าวสารอาหารแห้งมาเลี้ยงปากท้องตนเองและครอบครัว โดยในปีที่มีการแข่งขันเกมล่าชีวิต (The Hunger Games) ครั้งที่ 74 Katniss ซึ่งอายุ 16 มีชื่อในโหล 20 ใบ ส่วน Gale ซึ่งอายุ 18 มีถึง 42 ใบ!
-
ใน District 12 แม้จะอยู่ในเขตเดียวกัน แต่ประชากรก็ถูกแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มคนพอมีกินมีใช้ อย่างครอบครัวของ Peeta ที่ขายขนมปังอยู่ใน Town และ 2) กลุ่มคนที่ยากจนมาก ๆ จะอยู่ใน Seam เช่นครอบครัว Katniss กับ Gale เป็นต้น
-
ระบบ tesserae นี้ แสดงถึงความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมกันในสังคมอย่างหนึ่ง กล่าวคือ พวกในเมืองที่พอมีอันจะกินนิดนึง จะได้เปรียบกว่าคนยากจนที่มักจำเป็นต้องใส่ชื่อตัวเองเพิ่มลงไปในโหลเพื่อแลกข้าว ดังนั้น ยิ่งคนคนนั้นจนมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความน่าจะเป็นที่จะโดนแจ็กพอตมากเท่านั้น
-
อีกแง่หนึ่งคือ tesserae อาจเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของ Capitol (เมืองหลวงของประเทศ Panem) ที่มีเจตนาแฝงให้คนในแต่ละเขตแบ่งแยกกันเอง เพราะสุดท้ายแล้ว การแบ่งแยกเป็นสองฝักสองฝ่ายนี้ ผลประโยชน์สูงสุดก็ย่อมตกไปแก่กลุ่มคนชาว Capitol หรือ President Snow นั่นเอง
-
อย่างไรก็ตาม Katniss ได้มารู้ภายหลังว่า Peeta ไม่ได้กินดีอยู่ดีอย่างที่เธอเคยคิด ถึงแม้ Peeta จะโตมาในร้านเบเกอรี่ แต่เขาก็ได้กินแต่ขนมปังค้างคืน ขนมปังแข็ง ๆ แห้ง ๆ หรือของเหลือที่ไม่มีคนซื้อเหมือนกัน
3. Salute
-
สัญลักษณ์ Salute ที่การเอาสามนิ้วกลางของมือซ้ายมาแตะปากแล้วชูขึ้น มักใช้แสดงแด่คนที่เรารักหรือเคารพ มีความหมายว่า “ขอบคุณนะ ชื่นชมนะ หรือลาก่อนนะ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เก่าแก่ และเดิมแทบจะไม่ค่อยมีคนใช้กันใน District 12 เว้นแต่ใช้ในงานศพ (เช่น Katniss ที่ชูสามนิ้วขึ้นหลังฝังศพ Rue)
-
เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้ว การชูสามนิ้วไม่ใช่สัญลักษณ์ที่แสดงการต่อต้าน การก่อกบฏ หรือการล้มล้างรัฐบาลอย่างที่หลายคนเข้าใจและเอาไปใช้ในชีวิตจริงแต่อย่างใด (สัญลักษณ์ของการกบฏจริง ๆ ของในเรื่อง คือนก Mockingjay หรือตัว Katniss เองต่างหาก)
4. Love Triangle
- ก่อนหน้านี้ Katniss ตั้งใจไว้ว่า ชาตินี้เธอจะไม่มีครอบครัว จะไม่มีลูก เพราะทนไม่ได้ที่จะต้องมาดูลูกเข้าพิธี Reaping หรือไปแข่ง The Hunger Games
-
ฉากแฟลชแบ็คที่คนดูได้เห็น Peeta โยนขนมปังให้ Katniss นั้น ในหนังสือเล่าเบื้องหลังอยู่ว่า ตอนนั้นพ่อของ Katniss เพิ่งตายจากเหตุการณ์ลิฟต์ในเหมืองระเบิด แม่ของ Katniss ก็ช็อคจนไม่ทำการทำงาน ทำให้ Katniss ต้องเอาเสื้อผ้าเก่าของ Primrose (น้องสาว) ไปขาย แต่ก็ขายไม่ได้ จึงอดอยาก จนวันหนึ่ง Katniss ไปนั่งตากฝน คลุกโคลน และคุ้ยขยะหลังร้านเบเกอรี่ แม่ใจยักษ์ของ Peeta เห็นเข้า ก็ไล่เธอเป็นหมูเป็นหมา แต่ Peeta ซึ่งแอบรัก Katniss มาตั้งแต่ 5 ขวบ ก็แอบช่วยเธอ โดยการจงใจอบขนมปังให้ไหม้ พอแม่ Peeta เห็นของขายเสียหาย ก็ด่า ตี และสั่งให้ Peeta เอาขนมปังไหม้ ๆ ไปโยนให้หมูกิน Peeta จึงได้เอาขนมปังไหม้ ๆ สองก้อนนั้นมาโยนให้ Katniss ท่ามกลางสายฝน ซึ่งตอนแรก Katniss ก็ไม่รู้ว่า Peeta ตั้งใจทำแบบนั้นเพื่อช่วยเธอ แต่เธอก็ซาบซึ้งเสมอมา เพียงแต่ไม่รู้ที่ผ่านมาจะขอบคุณเขายังไง เธอเรียกขนมปังก้อนนั้นว่า “The bread that gave her hope”
-
ส่วนความรู้สึกที่ Katniss มีต่อ Gale ก็คลุมเครือ ลึก ๆ นางก็เธอรู้สึกดีกับ Gale มาก ด้วยเพราะความผูกพันตามประสาคนโตและลำบากมาด้วยกัน แล้ว Gale เองก็ดีต่อครอบครัวของเธอมาโดยตลอด ในหนังสือ เธอได้พูดถึง Gale ไว้ว่า “Gale gave her a sense of security she’d lacked since her father’s death,
-
ในหนังสือ Katniss บรรยายถึง Gale อีกว่า “Gale and her were thrown together by a mutual need to survive.” ในขณะที่เธอบรรยายถึง Peeta ว่า “Peeta and her know that the other’s survival means our own death.” ซึ่งประโยคนี้นี่เอง ส่งผลมาจนถึงภาคสรุปของไตรภาคนี้ด้วยว่า สุดท้าย Katniss จะเลือกใคร
-
โดยสรุปเรื่องรักสามเส้า จากข้อมูลเฉพาะเนื้อหาภาคแรกนี้ เราคิดว่า Katniss แค่รู้สึกผูกพันกับ Gale และรักเขาแบบเพื่อนหรือพี่ชายเท่านั้น แต่เธอรู้สึกพิเศษกับ Peeta แล้ว เพียงแค่เธอไม่รู้ตัวหรือหลอกตัวเองเสมอมา
5. Mockingjay Pin
-
ในหนัง เราจะเห็นว่า ก่อนจะออกเดินทางไป Capitol คนที่มาส่ง Katniss ที่รถไฟ มีแค่แม่, Primrose, และ Gale แต่ในหนังสือ ยังมีพ่อของ Peeta และ Madge (เพื่อนของ Katniss ซึ่งเป็นลูกสาวของ Mayor ของ District 12) มาส่ง Katniss ด้วย
-
พ่อของ Peeta ไม่ได้พูดอะไรกับ Katniss มาก แค่เอาคุกกี้มาให้ แล้วภายหลัง Katniss ได้มารู้จาก Peeta ว่า พ่อของ Peeta เคยชอบแม่ของ Katniss มาก่อน แต่ตอนนั้นแม่เลือกพ่อของ Katniss ที่เป็นคนงานเหมือง เพราะพ่อของ Katniss ร้องเพลงไพเราะชนิดที่นกทุกตัวในป่าต้องหยุดฟัง (ห้ะ?!?!)
-
ส่วน Madge คือเพื่อนของ Katniss และเป็นคนที่… หากว่ากันตามท้องเรื่องในหนังสือจริง ๆ แล้ว Madge นี่แหละที่เป็นคนเอาเข็มกลัด Mockingjay มาให้ Katniss ไว้เป็นเครื่องเตือนใจระลึกถึงบ้านระหว่างไปแข่ง ไม่ใช่จู่ ๆ Katniss เดินไปเจอเองใน Hob หรือตลาดมืดอย่างที่ในหนังเขาว่า (โดยในภาคต่อมา หนังสือจะบอกมากขึ้นว่า ทำไม Madge เอาเข็มกลัดมาให้ Katniss และ Madge ได้มันมาจากไหน)
6. Johanna Mason
-
Johnna Mason อดีตแชมป์จาก District 7 ที่มีบทบาทในหนังภาค Catching Fire และ Mockingjay ถูกกล่าวถึงในหนังสือมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว โดยในหนังสือบอกว่า เธอชนะการแข่งขันในปีของเธอได้โดยแทคติกที่เหลือเชื่อ กล่าวคือ ตอนแรกเธอเสแสร้งแกล้งทำตัวเป็นผู้หญิงอ่อนแอ ขี้แย และขี้ขลาด ทำให้ tributes คนอื่น ๆ ตายใจและไม่มีใครมายุ่ง เพราะคิดว่าเธอคงไร้พิษภัยและเดี๋ยวก็ตายของมันไปเอง แต่พอเอาเจ้าจริง ตอนที่เกมเหลือคนน้อย ๆ แล้วเท่านั้นแหละ เจ๊ก็แผลงฤทธิ์ กลายเป็นหญิงแกร่งที่ใช้ขวานฆ่าคนแหลกลาญอย่างชาญฉลาดและบ้าบิ่น และก็ชนะเลิศในที่สุด #ปรบมือ (เขต 7 เป็นเขตอุตสาหกรรมป่าไม้ เธอจึงจับขวานเป็นตั้งแต่ก่อนจะคลานเป็นเสียอีก)
7. PANEM EDUCATION & CAREERS
-
ในหนัง เราอาจจะไม่เห็นเด็ก ๆ ได้เรียนหนังสือ แต่ในหนังสือ คนเขียนเขาเขียนประเด็น schooling ด้วยว่า เด็ก ๆ ในเขต 12 จะได้เรียนวิชาพวก basic reading และ math ที่เกี่ยวกับเหมืองเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นเขตที่ทำ Coal Mine (ส่วนประชากรเขต 13 ที่ (ณ ตอนนั้นถูกเชื่อว่า) ถูกทำลายไปแล้ว เคยทำ Graphite Mine) นอกจากนี้ยังมีวิชา History of Panem ด้วย ซึ่ง Katniss ไม่สนใจวิชาพวกนี้หรอก เพราะมันไม่ได้ช่วยเสกอาหารมาไว้บนโต๊ะกินข้าวได้ อีกอย่างแม้ชื่อวิชาจะบอกว่าเป็นประวัติศาสตร์ประเทศ Panem แต่เนื้อหาข้างในเน้นเชิดชูชาว Capitol มากกว่า (ประมาณว่า Capitol เขียนเอาดีเข้าตัวและยัดเยียดข้อมูลปลอม ๆ ให้เด็ก ๆ ทั้งประเทศเรียน (เหมือนประวัติศาสตร์ประเทศอะไรแถวนี้ก็ไม่รู้))
-
ประเทศ Panem แบ่งเขตการปกครองเป็น 12 เขต โดยเขต 1-12 ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ถูกเรียกว่า Appalachia ส่วน Capital ซึ่งเป็นเมืองหลวง ถูกสร้างในพื้นที่ที่เคยถูกเรียกว่า the Rockies
8. Mockingjay BirdS
-
ในช่วงท้ายของหนังภาคแรก เราได้เห็นสัตว์ลักษณะคล้ายเสือ หรือ Mutts ซึ่งเป็นสัตว์กลายพันธุ์หรือสัตว์ตัดต่อพันธุกรรม
-
ในหนังสือ เราจะได้รู้ว่า ชาว Capitol ชอบเลี้ยง Mutts ไว้อยู่แล้วหลายสปีชีส์ เดิมหนึ่งในนั้นก็มีนก Jabberjay ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์ของ Mockingjay ด้วย เพราะ Jabberjay มีความสามารถจดจำและเลียนเสียงมนุษย์ได้ทั้งบทสนทนา สมัยสงคราม พวก Capitol จึงเลี้ยงและส่งนก Jabberjay ไปสอดแนมกลุ่มกบฏ แต่พอพวกกบฏรู้ทันแผนการนี้ กบฏก็แกล้งให้นก Jabberjay จำข้อมูลเท็จไปบอกชาว Capitol ตั้งแต่นั้นมา เจ้านก Jabberjay ก็เลยไร้ค่า ถูกตัดหางปล่อยป่า เพราะถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความอัปยศอดสูของชาว Capitol แล้วต่อมานก Jabberjay ตัวผู้ที่ถูกปล่อยป่าก็ไปผสมพันธุ์กับนก Mockingbird เพศเมีย แล้วออกลูกมาเป็น Mockingjay
-
Mockingjay ซึ่งป็นนกพันธุ์ทาง เกิดจากการผสมกันระหว่างพ่อ Jabberjay กับแม่ Mockingbird แต่ไม่สามารถเลียนเสียงเป็นคำ ๆ แบบที่พ่อของมันทำได้ ทำได้แค่พอเลียนเสียงผิวปาก เสียง Vocal Sound ของคนทุกโทน และเสียงเพลงทั่วไป
-
ในหนังสือเล่าด้วยว่า Katniss รู้ว่าพ่อของเธอ ซึ่งเป็นคนชอบร้องเพลง ก็หลงใหลนก Mockingjay มาก ดังนั้น พอเธอมีเข็มกลัด Mockingjay ติดตัว เธอก็รู้สึกอุ่นใจเหมือนมีพ่อมาคอย protect อยู่ตลอดเวลา ก่อนจะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในภายหลัง
9. THE Capitol Fashion
-
อย่างที่เราเห็นในหนัง ชาว Capitol แต่งตัว แต่งหน้า และทำผมเว่อร์วัง สีสันฉูดฉาด ทุกอย่างดูเยอะ ดูล้น ดูโอเวอร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า (ในหนังสือ Katniss บรรยายว่า hideous fashions) แถมสำเนียงการพูดก็ต้องพูดแบบ very high pitch จบท้ายประโยคต้องขึ้นเสียงสูง ทั้งที่ไม่ใช่ประโยคคำถาม เวลาพูดก็ไม่ง้างขากรรไกร ไหนจะชอบออกเสียงสระแปลก ๆ เสียงฟ่อ ๆ แล้วก็ตอนออกเสียง s อีก ฯลฯ ยกเว้น Cinna ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ของ Katniss เขาค่อนข้างแตกต่างจากชาว Capitol คนอื่น เขาดู normal และ natural ทั้งเมคอัพและคอสตูม หน้าก็ไม่ผ่านมีดหมอ เสียงก็ไม่สูงปรี๊ดด้วย
-
โดยส่วนตัว เราคิดว่า การที่ผู้เขียนใส่คาแรกเตอร์ให้ชาว Capitol หลุดโลกและไกลจากความเป็นจริงขนาดนี้ อาจเพราะเขาพยายามจะสื่อว่า สมัยนี้คนเมืองส่วนใหญ่ก็เริ่มจะห่างไกลจากความเป็นคนเข้าไปทุกที ๆ ก็เป็นได้
-
นอกจากนี้ คนใน Capitol จะวิตกจริตกับรูปลักษณ์ภายนอกมาก หน้าก็ต้องศัลยกรรม ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองดูเด็กและดูผอม จะเหี่ยวหรือมีตีนกาแม้แต่น้อยไม่ได้ ตรงกันข้ามกับคนใน District 12 ที่ยกย่องคนหน้าแก่ ถือว่าการอยู่ได้ยันแก่ยันเฒ่านั้นเป็น Life Achievement อย่างหนึ่ง จะมีแต่คนขอถามเคล็ดลับว่า ทำยังไงถึงจะ survive ได้จนถึงอายุปูนนั้น เพราะคนส่วนใหญ่ในเขตนั้นมักตายเร็วกัน
10. THE Private Session
-
อย่างที่รู้กัน Katniss เป็น professional ด้านการยิงธนู แต่ใน Private Session ตอนที่ Katniss ยิงธนูครั้งแรก เธอยิงพลาดเป้าไปหลายหลา เพราะธนูของ Capitol ทำจากวัสดุอย่างดี น้ำหนักต่างจากธนูบ้าน ๆ ที่เธอคุ้นเคย เธอจึงลองยิงตู้ม ๆ ไปหลายดอกจนชินมือแล้วลองยิงเข้าเป้าอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เธอก็ยิงแม่นเข้าเป้าเป๊ะ ๆ ทุกดอกเลย แต่พอตอนที่เธอยิงเข้าเป้าแล้ว กลับไม่มี Gamemakers คนไหนเห็นหรือสนใจดูเลย เพราะแต่ละคนมัวแต่ปาร์ตี้เมามาย สนใจแต่หมูหันอันโอชาบนโต๊ะ ทำให้ Katniss ฉุนมากที่ถูก “upstaged by a dead pig” ก็เลยยิงธนูไปที่แอปเปิ้ลในปากหมูหันตามที่เราได้เห็นในหนัง
11. Anonymous Sponsors
-
หลังจาก Katniss ฝังศพ Rue เธอก็ได้รับสปอนเซอร์เป็นขนมปังจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่ด้วยความรู้ที่ Peeta เคยสอนเธอมาก่อนว่า ขนมปังจากแต่ละเขตจะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันตามเอกลักษณ์ประจำเขต ทำให้ Katniss เดาได้เองว่า ขนมปังนี้เป็นสปอนเซอร์จาก District 11 ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรมและเป็นเขตภูมิลำเนาของ Rue
-
Katniss รักและเอ็นดู Rue ไม่ใช่เพราะ Rue ดีกับเธอเท่านั้น แต่เพราะ Rue อายุประมาณ Primrose น้องสาวของเธอ ทุกครั้งที่เธอเห็น Rue เธอจะนึกถึงน้องสาวของเธอ
12. Mutts
-
ในช่วงไฟนอลของการแข่งขัน ผู้เข้าชิงทั้งสาม ได้แก่ Katniss, Peeta, และ Cato ต้องปะทะกับเสือเป็นฝูง เสือเหล่านั้นคือสัตว์กลายพันธุ์ของ Capitol หรือ Mutts ซึ่ง ตามที่เกริ่นไปในข้อ 8.
-
ในหนังสือ Katniss เห็นในนัยน์ตาของ Mutts (เสือ) ทั้งหลายเหล่านั้นแล้วรู้ทันทีเลยว่า Mutts พวกนี้ถูกสร้างขึ้น มาจาก tributes ทั้ง 21 คนที่ตายไปแล้ว (โหดร้ายยิ่งนัก)
-
ในฉากนี้เอง ทำให้ Peeta ในหนังสือต้องสูญเสียขาข้างหนึ่ง และต้องใส่ขาเทียมตั้งแต่นั้นมา ซึ่งในหนัง ไม่มีฉาก Peeta เสียขา ทุกภาคต่อมา เราจะเห็น Peeta ยังเดินเหินเยี่ยงมนุษย์ปกติเลย ไม่พิการ ไม่ชักช้า ถึงแม้ขาจะสั้นไปสักหน่อยก็ตาม (อุ๊บส์!)
READ MORE:
115 comments