รีวิว The Current War: สงครามกระแสไฟฟ้า สองขั้วอัจฉริยะ

“If you want to be remembered, it’s simple: Shoot a president. But if you prefer to have what I call a legacy, you leave the world a better place than you found it.”

Thomas Alva Edison เป็นนักประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องอย่างมากจนถึงปัจจุบัน แม้แต่เด็กที่ไม่รู้ประสีประสายังเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขา ถึงแม้จะมีคำบอกเล่าแง่ลบเกี่ยวกับเขาหรือผลงานของเขามาบ้าง แต่นั่นก็มิอาจลบชื่อของเขาออกจากสารบบการศึกษาและชีวิตประจำวันของพวกเราได้เลย

เราอาจจะได้ยินผลงานของเขามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลงานที่เขาคิดค้นเองหรือไม่ก็ตาม แต่ในหนัง The Current War นี้ จะเน้นเล่าการแย่งชิงความเป็นหนึ่งในสงครามกระแสไฟฟ้า ช่วงประมาณปี 1880 – 189x ระหว่าง ทีมไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ได้แก่ Edison ผู้โด่งดัง (Benedict Cumberbatch จาก Doctor Strange) กับเลขาฯ ของเขา Samuel Insull (Tom Holland จาก Spider-Man) VS. ทีมไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) อันได้แก่ มหาเศรษฐี George Westinghouse (Michael Shannon จาก The Shape of Water) กับอัจฉริยะจากต่างแดน Nikola Tesla (Nicholas Hoult จาก X-Men)

โดยเรื่องราวในหนังนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง (inspired by true stories) ดังนั้น มันไม่ใช่เรื่องจริงล้วน ๆ หากแต่มีมโนผสมด้วยนั่นเอง

สงคราม ณ ที่นี้ จริง ๆ เป็นการชิงไหวชิงพริบ และแย่งชิงพื้นที่สื่อในการโจมตีอีกฝ่าย แต่ไม่ได้เป็นสงครามรุนแรงหรือยิ่งใหญ่อะไร (อย่างน้อยก็ตามความรู้สึกของเราจากการรับรู้เรื่องราวเท่าที่เห็นในหนัง) ส่วนผลลัพธ์ของสงครามข้างต้น ใครแพ้ใครชนะ มันคาดเดาได้ไม่ยากตั้งแต่ยังไม่ต้องดูหนัง เพราะทุกวันนี้เราใช้ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งต้นทุนถูกกว่าและใช้งานจริงทั่วประเทศได้มากกว่า

แต่ในหนังก็จะให้ความสำคัญกับ Edison หรือ Benedict Cumberbatch เป็นหลัก คนดูจะเห็นใจและเป็นกำลังใจให้ Edison ในขณะที่ George Westinghouse หรือ Michael Shannon กับ Nikola Tesla หรือ Nicholas Hoult จะดูเหมือนเป็นตัวร้ายขี้โกง เพราะหนังช่วย Edison ชูโรงว่าระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งฟังดูน่ากลัวและไม่ดี๊ไม่ดี

อย่างไรก็ตาม ตามความคิดของเรา เราคิดว่า ถ้าเอาตามหลักแล้ว Tesla น่าจะเป็นคู่มวยกับ Edison เลย น่าจะเหมาะกว่าให้ Edison มาห้ำหั่นกับ Westinghouse แบบในหนัง เพราะ Westinghouse ดูมีวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจและร่ำรวยจริง แต่ก็ไม่ได้มีอัจฉริยภาพในด้านเดียวกับ Edison โดยตรงขนาดนั้นอะ ซึ่งในหนังเนี่ย Tesla ดูเป็นตัวประกอบไปเลย ดูแทบจะไร้ซึ่งความสามารถ เลขาฯ ของ Edison ยังเด่นกว่าและมีโอกาสแสดงศักยภาพให้คนดูได้เยอะกว่าซะอีก

แต่เดิม ฟุตเทจของหนังที่ใช้ฉายเมื่อสองปีก่อน ได้รับคำวิจารณ์เชิงลบหนักมากจากนักวิจารณ์ที่ TIFF ส่วนเวอร์ชั่นปัจจุบันที่กำลังจะฉายตามโรงภาพยนตร์ให้คนดูทั่วโลกรับชมเป็นเวอร์ชั่นที่มีการตัดต่อใหม่เล็กน้อย โดยส่วนตัว เราย่อมไม่เคยได้ดูเวอร์ชั่นเก่านั้น แต่สำหรับเวอร์ชั่นใหม่นี้ ก็ต้องบอกว่า มันก็ไม่ค่อยโอเคนะ นึกภาพไม่ออกเลยว่า อันเก่ามันยังจะดีน้อยกว่านี้อีกหรอ มันน่าเสียดายอยู่นะ เพราะประวัติศาสตร์กับอัตชีวประวัติบุคคลสำคัญเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก แถมดาราแต่ละคนก็ระดับแม่เหล็กทั้งนั้น

เราคิดว่า การตัดต่อ (ที่เขาว่าปรับปรุงละนะ) มันไม่โอเค คนทั่วไปที่ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเราตามเรื่องไม่ค่อยทัน ครั้นไอ้ส่วนที่ทันก็ใช่ว่าจะรู้เรื่อง มิติตัวละครก็นำเสนออย่างเบาบาง เหมือนจะใส่ความเป็นมนุษย์กับด้านครอบครัวให้ตัวละครด้วย แต่ก็ใส่มาอย่างผิวเผิน บางทีก็เกือบซึ้ง เกือบอินละ แต่การตัดต่อของหนังมันทำให้เราไปไม่ถึงจุดนั้นอย่างน่าเสียดาย

เอาเป็นว่า ถ้าใครหวังจะเข้าไปหาความรู้หรือทำความรู้จักกับนักวิทยาศาสตร์/นักประดิษฐ์เหล่านี้ เราคิดว่า Google หรือเปิด Wikipedia หาอ่านเอง น่าจะรู้เรื่องกว่า หรือถ้าเอาความสนุกด้วย เราแนะนำหนังสือการ์ตูนของนานมีบุ๊คส์ เราอ่านแต่เด็ก อันนั้นคือสนุกและได้ความรู้จริงกว่า

แต่ถ้าตั้งใจไปดูนักแสดงแน่นจอและเอาความรู้นิด ๆ หน่อย ๆ (ย้ำว่านิดหน่อย) ก็ไปดูได้เลย หนังอยู่ในระดับพอดูได้ ไม่ย่ำแย่ถึงขั้นเสียเวลา โดยส่วนตัวชอบการขยี้ที่ว่า Edison เน้นชื่อเสียงและผลงานมากกว่าเงินทอง เพราะมันจริง ทุกวันนี้เราทุกคนรู้จัก Edison แต่แทบไม่มีใครจดจำผู้ชนะอย่าง George Westinghouse ได้เลย

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 6.5/10