Eye in the Sky ไม่ใช่หนังเกี่ยวกับ สงครามหรือ terrorism เรื่องแรกที่เราเคยดู แต่ตอนนี้มันได้กลายมาเป็นหนังสงครามหรือ terrorism ที่เราชอบที่สุด ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ Handmade Distribution ค่ายเล็ก ๆ ที่นำเข้าหนังดี ๆ อย่างนี้มาให้พวกเราได้ดู (หนังเรื่องหน้า ชวนหนูไปดูรอบสื่อได้นะ แฮ่~)
เรื่องย่อ Eye in the Sky
Colonel Katherine Powell (Helen Mirren จาก The Queen, The Hundred-Foot Journey, Trumbo) ได้รับรายงานจากสายว่า พบแกนนำตัวท็อปของกลุ่มผู้ก่อการร้าย Al-Shabaab ที่เธอตามล่ามาเป็นเวลากว่า 6 ปี กบดานอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ในประเทศเคนย่า
Spy ท้องถิ่น (Barkhad Abdi จาก Captain Phillips) พบว่าในเซฟเฮ้าส์มีอาวุธระเบิดจำนวนมาก Katherine จึงเปลี่ยนจากแผนการจับกุมเป็นสั่งให้ Steve Watts (Aaron Paul จาก Need for Speed) นักบินบังคับโดรนที่ LA เตรียมยิงมิสไซล์โดยทันที
ทั้งนี้เธอต้องขอคำอนุมัติการยิงมิสไซล์จากนักการเมืองระดับสูง โดยมี Lt. General Frank Benson (บทบาทสุดท้ายของ Alan Rickman หรือ ศจ. สเนป จาก Harry Potter) ซึ่งอยู่ที่ Whitehall กับคนเหล่านั้น ช่วยประสานงานและเร่งการตัดสินใจให้
แต่การตัดสินใจไม่ง่ายอย่างที่คิด ไม่ใช่แค่มีผู้ก่อการร้ายจำนวนหนึ่งสัญชาติอังกฤษและอเมริกันด้วยเท่านั้น หากยังรวมถึงประเด็นอันละเอียดอ่อนที่ว่า จุดที่พวกเขาจะยิงนั้นมันดันตั้งอยู่ในละแวกชุมชน ที่มีคนบริสุทธิ์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงเด็กหญิงที่ไม่รู้ประสีประสาอย่าง Alia (Aisha Takow)
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Eye in the Sky
Eye in the Sky เป็นหนังที่ลุ้นระทึก เครียด กดดัน บีบหัวใจ และสมจริง จนหายใจไม่ทั่วท้องตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้อง การตัดต่อ ซาวนด์ประกอบ ไดอะล็อก และการแสดงของเหล่านักแสดงนำทุกคนในเรื่องสามารถสื่อสาร ถ่ายทอด และสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูอย่างดีเยี่ยมไร้ที่ติ
ในส่วนของเนื้อเรื่อง ถึงแม้จะไม่ใช่คอหนังสงครามหรืออินกับประเด็นเรื่องก่อการร้าย ก็ดูได้สนุก ดูไม่ยาก และไม่น่าเบื่อเลยสักวินาที เพราะหนังเน้นเคี่ยวไปที่ประเด็นความเป็นมนุษย์ ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ และการตัดสิน(ใจ) ที่มีปัจจัยหลายอย่างมาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะไม่เป็น แบ็คกราวนด์ บุคลิกภาพ หรือประสบการณ์ของคนแต่ละอาชีพ รวมถึงการเสี่ยงแลกกับชีวิตของผู้ไร้เดียงสา
พูดให้เห็นภาพคือ ตัวละครหลักในเรื่องแบ่งออกเป็นหลายใหญ่ ๆ ได้แก่ กลุ่มทหาร กลุ่มนักการเมือง กลุ่มนักบิน กลุ่มสปาย ซึ่งกำลังร่วมกันตัดสินและกำหนดชะตากรรมของคนกลุ่มก่อการร้ายกับกลุ่มชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ไอ้กลุ่มนักบินกับสปายอาจทำอะไรได้ไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็… ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ ไม่ว่าจะหนักใจหรือสบายใจ ก็ต้องทำตามบัญชาของเจ้านายเท่านั้น แต่พวกมีอำนาจอย่างทหารระดับนายพลกับนักการเมืองระดับสูง ๆ นี่สิ มีอำนาจในการตัดสินใจหรือร่วมตัดสินใจ แต่ด้วยมุมมอง อุดมการณ์ นโยบาย การมองโลก และการผ่านโลก ที่แตกต่างกัน ระหว่างความเป็นทหารกับนักการเมือง ทำให้เกิดความเห็นต่างกัน ความซับซ้อน ความละเอียดอ่อน ในการตัดสินใจ
แต่ท่ามกลางความเครียด ยังมีความน่าขัน… เราจะเห็นได้ว่า พวกเขาต่างไม่กล้าใช้อำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด บ้างก็กลัวกฎหมาย บ้างก็กลัวขัดแย้งทางการทูต บ้างก็กลัวมีคนเอาไปปล่อย YouTube เขาก็เลยได้แต่โยนไปให้คนระดับสูงกว่าตัดสินใจ เช่น U.K. foreign secretary ซึ่งกำลังทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ กับ the U.S. secretary of state ซึ่งกำลังตีปิงปองอยู่ปักกิ่ง
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าไม่นับ Helen Mirren กับ Alan Rickman ซึ่งเป็นทหารใหญ่ในเรื่อง ก็ไม่มีใครหรือนักการเมืองหน้าไหนอยากมือเปื้อนเลือด เพราะไม่มีใครอยากแบกรับความเสี่ยงและความรับผิดชอบกับความเสียหายหรือความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะชีวิตของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ตอนนี้กำลังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขา
ณ ขณะที่ดูหนังเรื่องนี้ บางคนอาจจะคิดว่า Helen Mirren กับ Alan Rickman ใจร้ายใจดำ มุ่งแต่จะฆ่าผู้ก่อการร้ายนั่นให้ได้โดยไม่คำนึงถึงชีวิตคนอื่น แต่ถ้าหากเราได้ดูจนจบ เราจะเห็นว่าเขาทั้งสองก็มีมุมของความเป็นมนุษย์ เวลาอยู่กับครอบครัวเขาก็มีบทบาทไม่ต่างจากเรา แต่ในการทำงาน เราเข้าใจว่า เราอยู่คนละบทบาท เราอาจจะคิดหรือทำอะไรไม่เหมือนกันไปบ้าง แต่ทุกคนย่อมมีเหตุผลของเขา
ลองสมมติว่าเป็นตัวคุณเอง ไปอยู่ในช่วงนาทีสำคัญ ต้องตัดสินใจว่าจะยิงบ้านผู้ก่อการร้ายทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเด็กบริสุทธิ์ตรงนั้นมีโอกาสตายมากกว่า 50% – ถ้าคุณไปเป็น Helen Mirren กับ Alan Rickman คุณจะยิงหรือไม่ยิง? ถ้าคุณเป็นรัฐมนตรี คุณจะยิงหรือไม่ยิง? ถ้าคุณเป็นนักบิน คุณจะยิงหรือไม่ยิง? ถ้าคุณเป็นญาติกับเด็กคนนั้น คุณจะยิงหรือไม่ยิง?
ความคิดหรือมุมมองแต่ละคนอาจแตกต่างกันด้วยบุคลิกภาพส่วนตัว ประสบการณ์ หรือหน้าที่การงาน ซึ่งมันไม่มีถูก ไม่มีผิดหรอก คนเราให้คุณค่ากับแต่ละอย่างไม่เท่ากัน ดังนั้น เราจึงไม่ควรจะไปด่วนตัดสินเขาว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขาเป็นคนโหดร้าย หากเรายังไม่ได้ผ่านชีวิตกับเขามาทุกฝีก้าว
อย่างเช่นที่ Alan Rickman ได้กล่าวเอาไว้ในหนังเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขาเรื่องนี้ว่า “Never tell a soldier that he does not know the cost of war.”
Eye in the Sky คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8.5/10 ดีมาก แนะนำให้ดู แต่เข้าฉายที่ SFW ที่เดียวเท่านั้น คือรอบและโรงน้อยมาก ถ้าจะดู ต้องรีบดู!
108 comments