รีวิว Den of Thieves: แก๊งโจรอัจฉริยะ ปล้นเหนือเมฆ

ถ้าไม่นับ I, Tonya ที่เข้าฉายรอบพิเศษไปก่อนแล้ว สัปดาห์นี้ไม่มีหนังน่าดูสำหรับเราเลยสักเรื่อง ที่พอจะเห็นว่าฆ่าเวลาได้อยู่บ้างก็มีหนังแอ็คชั่นเรื่อง Den of Thieves (ส่วน Fifty Shades Freed ตัดไปได้เลย ไม่ต้องพูดถึง เพราะเราดูภาคแรกแล้วก็ไม่คิดจะดูภาคสองต่อ ดังนั้น ภาคสามน่ะเรอะ… อย่าหวังเลย)

Den of Thieves เกิดขึ้นใน LA เมืองที่มีการปล้นธนาคารเกิดขึ้นถี่มาก โดยเน้นเล่าที่กลุ่มแก๊งโจรอัจฉริยะ นำโดย Ray Merrimen (Pablo Schreiber จาก Orange Is the New Black), Enson Levoux (50 Cent), และ Donnie (O’Shea Jackson Jr. จาก Straight Outta Compton) กับการไล่ล่าชิงไหวชิงพริบกับกลุ่ม Sheriff นำโดย ‘Big Nick’ O’Brien (Gerard Butler จาก 300)

ด้วยความที่หน้าหนังเป็นหนังแอ็คชั่นอาชญากรรมแนวไล่ล่า-ปล้นแบงค์ เราก็ต้องคาดหวังความบันเทิงหรือมัน(ส์)กระหึ่มบ้างเป็นธรรมดา แต่ปรากฏเข้าไปแล้ว หนังไม่ได้บู๊สนั่นหรือทริลเลอร์หนักอะไรมากมายอย่างที่โปรโมตในเทรลเลอร์ (แต่เทรลเลอร์ตัดมาสนุกกว่านั่งดูหนังเต็มเรื่องอย่างมากถึงมากที่สุด)

และการชิงไหวชิงพริบระหว่างตำรวจกับแก๊งอาชญากรมันก็ไม่ได้ Wow! ขนาดนั้นถึงแม้บทจะพยายามอย่างชัดเจนที่จะเป็นบทที่ฉลาดหรืออย่างน้อยก็พยายามจะมีอะไร หนังปล้นธนาคารเรื่อง Logan Lucky ที่เพิ่งดูไม่นานมานี้ ยังทำดีกว่ามากชนิดเทียบไม่ติด ความสนุกที่ดูเรื่องนั้นในวันนั้นยังคงสดใหม่มาถึงวันนี้

หนังก็เวิ่นเว้อกว่าที่ควรจะเป็นสำหรับหนังแนวนี้ (2 ชั่วโมง 20 นาที ทั้งที่ควรจะยาวไม่เกินแค่ 2 ชั่วโมง) จริง ๆ ยาวก็ไม่เท่าไหร่ บู๊ไม่เยอะนั่นก็ยิ่งไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นที่หนังมันไม่สนุกและน่าเบื่อคือมันเล่าเรื่องไม่สนุกและน่าเบื่อเองมากกว่า

สิ่งที่ขัดใจที่สุดคือการพยายามดราม่าครอบครัว แต่ทำมาขาด ๆ เกิน ๆ และไม่เห็นความจำเป็นต่อเส้นเรื่องแต่อย่างใด เข้าใจเบื้องต้นว่าเค้าคงอยากให้ตัวละครมีมิติ มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น หรือให้คนดูได้เห็นมุมชีวิตอีกมุมหนึ่งของคนเป็นโจรเป็นตำรวจ คือเราชอบตรงความพยายามนี้นะ แต่ถ้าทำมาแล้วมันไม่ดี มันไม่สุด ผูกปมไว้ง่ายแต่คลายอย่างลวก เราว่าไม่มีมันเสียเลยอาจจะดีกว่า

ยังดีที่ช่วงไฟนอลซีนช่วงท้ายกู้วิกฤตและฉุดเกรดขึ้นให้ไม่สอบตก เราต้องยอมรับว่าฉากแอ็คชั่นไล่ล่าและการปล้นช่วงช้ายทำได้โอเคเลยทีเดียว (ถ้าไม่หลับหรือลุกเดินออกไปตั้งแต่กลางเรื่องซะก่อน) จนนี่ก็คิดว่า ถ้าผู้กำกับและคนเขียนบทเรื่องนี้ (เออ ก็คนเดียวกันนี่หว่า Christian Gudegast) เล่นแต่เรื่องพวกนี้ ไม่ต้องใส่ดราม่าครอบครัวใดใดเลย หนังมันคงจะดีกว่านี้เยอะ!

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 6/10 (บวกคะแนนพิเศษให้ความหล่อของหัวหน้ากองโจรแล้ว)