“I sailed half the world to find you,”
เราก็ดูหนังลอยทะเลและหนังแนว survior มาไม่น้อยแล้วเหมือนกัน ตอนแรกเลยคิดนะว่าหนังเรื่อง Adrift มันจะมีอะไรแปลกใหม่หรือน่าสนใจไปกว่านี้ได้อีก ยิ่งเป็นหนังสร้างจากเรื่องจริง ก็คงไม่น่าจะมีอะไรหวือหวาแฟนตาซี และจากเท่าที่ดูในเทรลเลอร์ก็ไม่ค่อยเห็นมีอะไรนอกจากสองนักแสดงนำ เราจึงไปดูเรื่องนี้แบบไม่คาดหวังอะไรมาก
Adrift กำกับโดย Baltasar Kormákur (จาก Everest) หนังดัดแปลงจากเรื่องจริงของ Tami Oldham ผู้เขียนหนังสือ Red Sky in Mourning: A True Story of Love, Loss and Survival at Sea จากประสบการณ์จริงของเธอสมัยปี 1980s ที่เรือของเธอเจอคลื่นพายุซัดและเธอต้องลอยทะเลอยู่เป็นแรมเดือน
หนังเปิดเรื่องมาตามที่เราเห็นในเทรลเลอร์ คือ Tami (Shailene Woodley จาก Divergent, The Fault in Our Stars) ฟื้นขึ้นมาหลังเรือโดนคลื่นพายุซัดคว่ำ และ Richard (Sam Claflin จาก The Hunger Games, Me Before You) คู่หมั้นของเธอ หายไป
หนังไม่ได้เน้นไปในเรื่องของการเอาตัวรอดอะไรเท่าไหร่ ถ้าให้จัด genre นี่คิดว่าน่าจะอยู่ในหมวดหนังรักเสียมากกว่า แต่เนื่องจากหนังเล่าเรื่องตัดสลับไปมาระหว่าง 1) หลังเรือโดนคลื่นพายุแล้ว กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างเดินทางไป California กับ 2) ตอนที่สองนักเดินทางโคจรมาเจอกันครั้งแรกที่ Tahiti มันจึงไปไม่สุดสักทางระหว่างแนว thriller (หรือ survior) และรัก romantic
ตอนดูก็คิดมาตลอดว่า การเล่าเรื่องสลับไปสลับมาแบบนี้ หนังเขาจะพาเราไปจบหรือเอาเรื่องมาป๊ะกันอยู่ที่ตรงไหน ก็กังวลแทนว่าจะแป้กหรือเปล่า เพราะเคยเจอหนังที่ทำแบบนี้แล้วมันดู pointless แต่ทว่า พอเขาพามาถึงจุดไคลแมกซ์นั้นปุ๊บ เออ… ดีแฮะ เราชอบที่เขาเลือกเล่าเรื่องแบบนี้ และมันควรจะเล่าแบบนี้ เพราะถ้าเล่าเรื่องแบบเป็นเส้นตรง หนังมันจะน่าเบื่อและไม่มีอะไรเลย ส่วนบทสรุปของเรื่อง… ไม่ได้แปลกใหม่อะไร พอเดาได้ไม่ยาก แต่ถ้าเลือกจะมาที่ความรัก ก็ถือว่าเขาทำได้โอเค มันอาจจะไม่สุด แต่ก็ถือว่าไม่น่าผิดหวัง
คนที่แบกหนังไว้ทั้งเรื่องจริง ๆ คือ Shailene Woodley ซึ่งเป็นนางเอกที่เรื่องนี้ทุ่มสุดตัว ไม่ห่วงสวย และโชว์เนื้อหนังมังสาเยอะมาก แถมยังแสดงได้ดีกว่าผลงานเก่า ๆ ของเธออย่างชัดเจน อีกทั้งเรื่องนี้เธอยังเป็น producer ด้วยเองอีกต่างหาก ส่วน Sam Claflin ช่วงที่เรือล่มไปแล้ว เขาไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนอกจากนอนเฉย ๆ ชนิดที่เอาใครมาเล่นก็ยังได้ แต่ช่วงที่ยังอยู่บนบก เขาก็ยังคงเป็น prince charming เหมือนเดิม โดยรวมแล้ว ทั้งสองคนก็แบกหนังได้เอาอยู่
สุดท้ายแล้ว คนที่ไม่ได้อินกับพาร์ทความรักหรือชินชาแล้วกับหนังลอยคอประมาณนี้แล้วแบบเรา จะได้อะไรบ้างจากหนังเรื่องนี้? อย่างน้อยที่สุด เราคิดว่า เราได้แรงบันดาลใจจากผู้หญิงคนนี้… ผู้หญิงที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์พร้อม ผู้หญิงที่มีคุณแม่ยังสาว ผู้หญิงที่กล้าตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง ผู้หญิงที่กล้าออกมาท่องโลกกว้างตัวคนเดียวทั้งที่มีเงินติดตัวเพียงผ่านไปวัน ๆ ผู้หญิงที่สามารถครองสติและเอาตัวรอดจากการลอยทะเลแรมเดือนได้… และเราก็ได้เข้าใจว่า ผู้หญิงคนนึงสามารถผ่านสถานการณ์อันเลวร้ายมาได้เพราะมีอะไรผลักดันและในขณะเดียวกัน… ก็ยึดเหนี่ยวจิตใจ…
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10
57 comments
Comments are closed.