Legend สร้างจากเรื่องจริงยุค 1960s ของแก๊งมาเฟียในตำนานแห่ง London ที่นำโดยสองพี่น้องแฝดนรก Kray twins (รับบทโดย Tom Hardy & Tom Hardy) โดยเล่าจากมุมมองของ Frances Kray (Emily Browning) ซึ่งในเรื่องเป็นภรรยาของ Reggie Kray ผู้เป็นแฝดพี่
SEE MORE: The Kray twins: unseen pictures of Ronnie and Reggie
เรื่องย่อ Legend
หนังเล่าเรื่องในช่วงปี 1960s สมัยที่ Kray twins; Ronnie & Reggie (Tom Hardy จาก Mad Max, The Revenant, The Dark Knight Rises) รุ่งเรือง เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่คุม the East End of London
แฝดพี่ Reggie Kray แต่งงานกับ Frances Kray (Emily Browning จาก God Help the Girl, Sucker Punch) ส่วนแฝดน้อง Ronnie Kray ป่วยทางจิตอ่อนๆ และเป็น bisexual เขามี Mad Teddy Smith (Taron Egerton จาก Kingsman: The Secret Service) ลูกน้องมือขวาคนสนิทเป็นคู่ขา
สองพี่น้องเป็นที่หมายหัวของทางตำรวจในหลายๆ คดี Frances เองก็อยากให้สามีเลิกเป็นมาเฟียและทำอาชีพที่สุจริต แต่ Reggie ดูสนุกกับการเป็นมาเฟียและรัก Ronnie น้องชายในไส้เหนือสิ่งอื่นใดจนยากที่จะลดละเลิกอาชีพนี้ได้
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Legend
Legend เป็นหนังมาเฟียที่ไม่ใช่หนังบู๊บรรลัยเมือง แต่ฉากบู๊หรือฉากทริลเลอร์เท่าที่มีในเรื่องก็ดิบโหดเลือดสาดอย่างรุนแรงพอสมควร แต่ไม่ว่าจะคาดหวังกับความเป็นหนังบู๊หรือไม่ก็ตาม หนังเรื่องนี้เป็นหนังมาเฟียที่ดูสนุก เขาเล่าเรื่องสนุก จัดองค์ประกอบภาพสวย ดนตรีประกอบก็มันดี ไม่น่าเบื่อ มีอะไรเหนือความคาดหมายมาเซอร์ไพรส์อยู่เนืองๆ
ที่สำคัญมันต่างจากหนังมาเฟียทั่วไปตรงที่มีกิมมิคอยู่ที่มันเป็นฝาแฝดกัน เล่าเรื่องจากมุมมองของเมียมาเฟีย และการแสดงของ Tom Hardy ก็เป๊ะเนียนเว่อร์ทั้งตอนเป็น Reggie และ Ronnie เรียกได้ว่า แค่เข้าไปดู Tom Hardy เล่นเป็นสองตัวละครนี่ก็คุ้มแล้ว แถมยังคุ้มคูณสองตรงที่มีหนุ่มหล่อ Taron Egerton พระเอกกวนตีนกรุบกริบจาก Kingsman: The Secret Service มาเป็นมือขวาแฝดนรกด้วยอีก แล้วแต่ละซีนนางแดกซีนมากค่ะ
โดยภาพรวม Legend เหมือนหนัง “ชีวิต” มาเฟียคู่หนึ่งที่มีครบทุกรสชาติ ทั้งแอ็คชั่นทริลเลอร์โหดเลือดสาด ดราม่าครอบครัว รักหวานรักขม และความตลกของมุกต่างๆ ในเรื่อง ซึ่งแต่ละมุกก็ตลกร้าย เสียดสีเจ็บแสบใช่หยอก
ทั้งนี้หนังมี Hate Speech มากมายที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม แต่อย่างไรก็ดี Hate Speech ในหนัง เขาไม่ได้สักแต่ว่าใส่มาให้ตัวละครพูดแค่เพื่อให้ดูเท่ เก๋า หรือดูได้อารมณ์ห่ามๆ เท่านั้น กล่าวคือ ในระหว่างการชมหนังเรื่องนี้ เราจะได้ฟัง Hate Speech มากมาย ที่คนนู้นก็ด่าคนโน้น คนนี้ก็เหยียดคนนั้น หรือ “ตัดสิน” กันและกันตลอดเวลา
การตัดสินคนอื่นเป็นหนึ่งในพอยต์สำคัญของหนัง เราจะได้เห็นตัวละครแต่ละตัวตัดสินคนอื่นจากมุมเพียงด้านใดด้านหนึ่งของคนนั้น ทั้งที่คนเราก็มีบุคลิกหรือบทบาทกันมากกว่าหนึ่งด้าน และมีเหตุผลในทุกๆ การกระทำ เช่น แม่พระเอกที่ตัดสินนางเอกเพียงเพราะชงชาไม่ได้ หรือแม่นางเอกที่ตัดสินพระเอกเพียงเพราะเขาเป็นมาเฟีย
ขณะที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งตัดสินใคร ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ มันเหมือนเขากำลังชี้นิ้วชี้หนึ่งนิ้วไปที่คนที่เขากำลังตัดสิน แล้วนิ้วอีกสี่นิ้ว (โป้ง กลาง นาง ก้อย) มันหันชี้ไปทางตัวเขาเอง
พูดง่ายๆ ว่า เวลาเราตัดสินใคร มันก็สะท้อนตัวตนหรือย้อนกลับเข้ามาโดนตัวเองกันทั้งหมดนั่นแหละ เพราะสุดท้ายท้ายสุดแล้ว ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร เราจะเป็นใคร เขาจะต่างกับเราสักแค่ไหน แต่ทุกคนก็ล้วนมีสิ่งที่ “เหมือนกัน” มากกว่า “แตกต่างกัน” เช่นเดียวกับฝาแฝด Kray ที่ไม่ว่าจะมีความแตกต่างกันสักแค่ไหน สุดท้าย “เลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ”
ซึ่งในความคิดของเรา เราว่าแทนที่จะ judge ใครเพราะสิ่งที่เขาเป็นหรือสิ่งที่เขาทำ เราควรจะ respect differences เหล่านั้น แล้ว embrace similarities แทน และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ จริงๆ แล้ว เราอาจจะไม่มีสิทธิไปตัดสินใครเลยเสียด้วยซ้ำ ถ้าเรายังรู้จักเขาไม่ครบทุกด้าน
Legend เข้าฉาย 18 ก.พ. 2016 คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10
73 comments