รีวิว Valerian and the City of a Thousand Planets

Valerian and the City of a Thousand Planets เป็นผลงานล่าสุดของ Luc Besson (ผู้กำกับ Lucy และ The Fifth Element) ที่ใช้ทุนสร้างสูงถึง $180 ล้าน (จัดว่าสูงที่สุดสำหรับหนังนอกฮอลลีวู้ด) โดยสร้างจากนิยายภาพของฝรั่งเศสเรื่อง Valérian et Laureline (1967 – 2010) ของ Pierre Christin และ Jean-Claude Mézières ซึ่งเป็นหนังสือเล่มโปรดแต่วัยเยาว์ของตัวผู้กำกับเอง และยังเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของ George Lucas ในการทำ Star Wars ด้วย

พอยต์ของหนังตามจริงก็ควรตามชื่อ title เลย กล่าวคือ โลเกชั่นหลักอยู่ในเมือง Alpha ในดาวที่มีกว่าพันพิภพ มีสปีชีส์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขกว่า 800 ล้านสปีชีส์ ดังนั้น หนังก็จะแฝงประเด็น multicultutalism แต่นั่นก็เบาบางนัก เพราะหนังไม่ขยี้ ไม่ขายจุดนี้ หนังขายงานภาพสวย ขายงานแอ็คชั่นไซไฟ ขายงานเซ็กซี่ของนางเอก และ (พยายาม) ขาย love interest ของสองพระนาง

ฉากเปิดของหนัง Valerian เริ่มต้นที่วันโลกาวินาศของดาว Mul ซึ่งเป็นดาวที่สวยงามดั่งสรวงสวรรค์ของชาว Pearls (ซึ่งรูปลักษณ์คล้าย Avatar) จากนั้นก็วาร์ปมาหาคู่หูดูโอ Major Valerian (Dane DeHaan จาก The Amazing Spider-Man 2 และ Life) กับ Sergeant Laureline (นางแบบสาวฮอต Cara Delevingne จาก Suicide Squad และ Paper Towns) ซึ่งเป็นตัวละครเอกของเรื่อง

ภารกิจแรกของ Valerian กับ Laureline คือไปช่วงชิงของกลางอย่างหนึ่งมาจากพ่อค้าเถื่อนในตลาดบิ๊กมาร์เก็ต ซีนนี้เป็นซีนที่เราว่ามันสนุกที่สุดของหนังเรื่องนี้ มีหลายสิ่งตื่นตาตื่นใจ เสมือนเรากำลังเดินอยู่ใน Diagon Alley (Harry Potter)

ส่วนซีนอื่น ๆ ในหนัง นอกเหนือจากฉากตลาดแล้ว เราค่อนไปทางเฉย ๆ คือดูได้เพลิน ๆ … อ่อ … แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องบอกก่อนด้วยว่า ตัวเราเองเป็นคนที่ไม่ค่อยอินกับหนังไซไฟอวกาศเท่าไหร่มาแต่ไหนแต่ไร (เผ่าพันธุ์อะไรยั้วเยี้ยะไปหมด) แม้แต่ Star Wars ที่คนชอบเยอะ ๆ เราดูแล้วเราก็ไม่รู้สึกอะไร ดังนั้น ที่เราบอกว่า “เฉย ๆ” กับ Valerian มันก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่สนุกสำหรับคนอื่นนะ

อย่างไรก็ตาม ฉากบู๊ ฉากแอ็คชั่น เขาทำออกมาได้ดีหมด สมราคาผู้กำกับใหญ่อย่าง Luc Besson และก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Valerian เป็นหนังไซไฟอวกาศที่ภาพสวยล้ำเหนือจินตนาการ งานซีจีเนียนละเอียด แต่ถ้าพูดถึงในส่วนของงานสามมิติ มันก็ไม่ได้ Wow! ขนาดนั้น เราว่าไม่ว่าจะดูโรงระบบธรรมดาหรือระบบ 3D ฟีลลิ่งมันก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมาก

ตัวนักแสดงเองก็เป็นสิ่งที่เจริญหูเจริญตาเช่นเดียวกับงาน visual โดยส่วนตัวเราชอบ Dane DeHaan กับ Cara Delevingne เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมาดูเรื่องนี้ก็ยิ่งชอบ พวกเขาน่ารัก มีมุมตลก มีเสน่ห์ และเป็นแม่เหล็กสำคัญของหนัง

เคมีของความโรแมนติกกุ๊กกิ๊กอาจแปลก ๆ อยู่บ้าง ไม่ชอบซับพล็อตเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของสองคนนี้ มีความน่าลำไยเบา ๆ (หรือเราจำภาพ Cara แบบแมน ๆ ไปแล้วก็ไม่รู้) ธีมความรักชนะทุกสิ่งค่อนข้างเชยแล้วสำหรับเรา (แต่พอเข้าใจว่านิยายมันก็เขียนมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว) แต่อย่างไรก็ดี เคมีในความเป็นคู่หู เราว่าพวกเขาเข้าขากันได้ดี ชอบตรงนี้

แต่ถ้าตัดความพิศวาสที่เรามีออกไป ก็ขอพูดตรง ๆ นิดนึงว่า ถ้า Dane DeHaan แบกหนังคนเดียวก็อาจเอาไม่อยู่ เอาจริงคาแรกเตอร์ของ Valerian มันน่าจะประมาณ Han Solo แบบที่ Harrison Ford เคยแสดงไว้ตอนหนุ่ม ๆ แล้ว Dane DeHaan เขายังดูไม่แพรวพราวถึงเลเวลนั้น

สำหรับเรา หนังเรื่องนี้รอดเพราะ Cara Delevingne เอาจริง ๆ ในหนังก็เหมือนบทจะเด่นกว่าพระเอกซึ่งเป็นเจ้าของชื่อไตเติ้ลเรื่องเสียด้วยซ้ำ แฟนคลับนางคนไหนผิดหวังกับบทง่อย ๆ ของนางจาก Suicide Squad หรือเซ็งกับความบทไม่เยอะของนางใน Paper Towns มาดูเรื่องนี้แล้วจะไม่ผิดหวังในตัวนาง จัดว่าสวยปัง โดยเรื่องนี้เราจะได้เห็นนางเป็นทั้งนักแสดงและนางแบบพร้อม ๆ กัน

นักแสดงสมทบที่ไม่พูดถึงไม่ได้ (เพราะคนสนใจเยอะ) ก็คือสองนักร้องดัง Kris Wu กับ Rihanna

คนแรกเล่นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐคนหนึ่ง วัน ๆ เดินกดปุ่มไปมาอยู่ในห้องปฏิบัติการ ได้มีบทจริงจังนิดหน่อย 2 นาทีในช่วงท้าย แต่ทั้งหมดก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อยู่ดีว่าอาตี๋คนนี้เล่นหนังได้จริง ๆ หรือไม่อย่างไร

ส่วนคนที่สองนี่ฉากเปิดเหมือน MV หรือนาโนคอนเสิร์ตขนาดย่อมส่วนตัวของนางเอง เหมือนมาเล่นแต่งตัวสนองนี้ด ซึ่งแฟนเพลงของนางอาจจะชอบในจริตของนางตรงนี้ แต่ถ้าคนดูหนังทั่วไปเกือบทุกคนคงจะพูดเหมือนเราว่า บทนางเหมือนจะมีอะไรแต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร บอกได้เลยว่าเสียดายของ ยังดีที่เราได้เห็นคุณค่าในตัวบทของนางในฐานะของคนที่เป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่ “ไม่มีตัวตน” ในสังคม multicultutalism แห่งนี้

โดยสรุป Valerian and the City of a Thousand Planets เป็นหนังที่ดูได้เพื่อความบันเทิง ฉากแรก ๆ สนุกถึงขั้นสนุกมาก แต่ฉากหลัง ๆ ค่อย ๆ ดร็อปลงเรื่อย ๆ แล้วหนังมันยาวไง (2 ช.ม. 17 นาที) จริง ๆ มันน่าจะกระชับได้อีก แต่โดยรวมก็ไม่ถึงกับแย่ ดูได้เรื่อย ๆ เพราะงานภาพของเขาสวยงามตระการตาดาวล้านดวง สกอร์เพลงก็เพราะดี เป็นหนังไซไฟที่งดงามมากจริง ๆ ฉากแอ็คชั่นต่าง ๆ ก็ทำสนุกพอใช้ได้ มีมุกตลกน่ารัก ๆ สอดแทรกเป็นช่วง ๆ และดาราก็มีเสน่ห์ดึงดูดได้อยู่ โดยเฉพาะ Cara Delevingne

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7/10

เข้าฉาย 20 ก.ค. 2017 ในโรงภาพยนตร์