รีวิว The Visit : เยี่ยมคุณตาคุณยายเฟิร์สต์ไทม์

The Visit เป็นผลงานกำกับและเขียนบทเรื่องล่าสุดของเจ้าพ่อหนัง Thriller Manoj Shyamalan หรือ M. Night Shyamalan จาก The Sixth Sense, Signs, Unbreakable, The Village

เรื่องย่อ The Visit

สองศรีพี่น้อง Becca (Olivia DeJonge) และ Tyler (Ed Oxenbould) ไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่ Philadelphia, Pennsylvania ครั้งแรกในชีวิต เพื่อให้คุณแม่ยังสาว (Kathryn Hahn จาก The Secret Life of Walter Mitty) ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกับแฟนหนุ่มคนใหม่

แต่ปัญหาคือ ตามประสาคนแก่ คุณตา (Peter McRobbie จาก Lincoln) และคุณยาย (Deanna Dunagan จาก Have a Little Faith) ของทั้งสองมีอาการท่าทีแปลกๆ ในตอนกลางวัน และโดยเฉพาะคุณยายที่จะแปลกยิ่งกว่าในช่วงเวลากลางคืน จึงมีกฏเหล็กในบ้านว่า ห้ามเด็กๆ ออกจากห้องนอนหลังสามทุ่มครึ่งเป็นอันขาด!

Read More: Sundown Syndrome

รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ The Visit

หลังจากเคยได้เข้าชิงออสการ์และได้รับรางวัลมากมายจากผลงาน The Sixth Sense ผู้กำกับชาวอินเดีย M. Night Shyamalan ก็แทบไม่มีผลงานชิ้นไหนโดดเด้งขึ้นมาอีกเลย มิหนำซ้ำแทบทุกเรื่องในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะเป็น After Earth, The Last Airbender, The Happening, Lady in the Water ล้วนถูกเข้าชิงและได้รับรางวัล Razzie Awards หรือรางวัลยอดแย่มาทุกๆ เรื่อง

สำหรับ The Visit เรื่องนี้ ถึงแม้จะเป็นหนังฟอร์มเล็กลงไปมากเมื่อเทียบกับผลงานเรื่องแรกๆ ของเขา แต่ก็ถือเป็นผลงานใหม่ที่ไม่ได้แย่เมื่อเทียบกับเรื่องหลังๆ ของเขา ดังนั้น เราคิดว่าปีนี้เขาคงไม่ต้องถูกเสนอชื่อไปเวที Raspberry นั้นอีก และคงจะสามารถกลับมาพอลืมตาอ้าปากในวงการภาพยนตร์ได้อีกครั้ง เร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เราจะบอกว่า The Visit นั้นไม่ได้เลวร้าย แต่เราก็ไม่ได้ชื่นชมว่ามันเป็นหนังดีหรือหนังสนุก เรื่องราวไม่มีอะไรมาก การดำเนินเรื่องส่วนใหญ่ย่ำอยู่กับที่ ระหว่างทางไม่ได้หลอนหรือน่ากลัวอะไรมากมาย แต่ก็พอมีบรรยากาศหรือปมชวนสงสัยให้คิดตามอยู่บ้าง จึงไม่ถึงกับน่าเบื่อมาก (แต่ก็น่าเบื่อบางช่วงอยู่ดี) และช่วงองก์สุดท้ายพีคหน่อย เพราะมีพล็อตทวิสต์เช่นเดียวกับ The Sixth Sense แต่ก็ไม่ใช่การหักมุมที่เดายากหรือน่าเซอร์ไพรส์เท่าไหร่

นอกจากนี้ ถ้าใครคิดจะไปดู ต้องทำใจล่วงหน้าก่อนว่าหนังเขาใช้เทคนิคการถ่ายภาพแบบ found footage หรือ handheld (ซึ่งเราคิดว่าแอบ fail นิดหน่อย) นั่นแปลว่า เราจะต้องทนเวียนหัวกับการสั่นสะเทือนจากการถือกล้องวิ่งไปวิ่งมาของเด็กๆ ในเรื่อง แต่ยังดีที่ส่วนใหญ่เด็กๆ เขาตั้งกล้องวางกับโต๊ะหรือตู้มากกว่าถ่ายเดินไปเดินมา ก็เลยไม่ได้ทำให้ปวดหัวมากอย่างหนัง found footage หลายเรื่องที่เคยดู เช่น Cloverfield

เช่นเดียวกับหนังหลายเรื่องของ M. Night Shyamalan ที่ชอบใช้ Philadelphia, Pennsylvania เมืองที่เขาเติบโตมา เป็นโลเกชั่นหลักของเรื่อง และสอดแทรกดราม่าครอบครัวแตกแยกเข้ามาเป็นประเด็นหรือส่วนหนึ่งในเนื้อหาหนัง

ใน The Visit แม่ของ Becca กับ Tyler หนีตามผู้ชาย (พ่อของเด็กๆ) ออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 19 เพราะพ่อแม่ (ตายายของเด็กๆ นั่นแหละ) ไม่เห็นด้วย แล้วพอเด็กๆ โตขึ้น พ่อก็มาทิ้งพวกเขาแล้วไปอยู่กับกิ๊กใหม่อีก

โดยทั้งหมดนี้เป็น “ปมครอบครัว” ที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจของทุกๆ ตัวละครในเรื่องนี้ อย่างเช่น Tyler ที่กลายเป็นเด็กกลัวเชื้อโรคขึ้นสมอง, Becca ที่ไม่ชอบส่องกระจก, หรือแม่ของเด็กๆ ที่ต้องพยายาม pretend ว่า happy ตลอดเวลา เพื่อลืมความโศกเศร้า

จะเห็นได้ว่า ใน The Visit นี้ ไม่ได้มีแค่คุณตากับคุณยายเท่านั้นที่เป็นโรคทางจิต ทุกคนล้วนแต่มีปัญหาทางจิต แต่แค่อายุยังน้อย อาการจึงไม่รุนแรงมากและยังพอรักษาได้ง่ายกว่าคนแก่คนชรา โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ยังเล็ก และมีพรสวรรค์ (เช่น Becca ที่ชอบกำกับหนัง และ Tyler ที่ชอบแต่งเนื้อเพลงแร็พโย่ว) ที่เด่นชัดกว่าและสามารถช่วยกลบฝังปมด้อยในจิตใจของพวกเขาได้

ตอนดูหนัง เราอาจจะมองว่าการแสดงอาการของตัวละครในเรื่องเป็นอะไรที่ “น่ากลัว” และ “ตลก” ในเวลาเดียวกัน แต่เราเชื่อว่า ถ้าใครเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ ก็คงตลกไม่ออกกันทุกราย โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ใครๆ ก็เสี่ยงต่อการเป็นผู้ป่วยด้วยกันทั้งสิ้น เพราะความเครียดหรือความล้มเหลวจากการงานหรือสถาบันครอบครัว แล้ว Mental Disorder เป็นปัญหาที่อันตราย และมีแต่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับ “ยาวิเศษ” ที่ถูกที่ควร

The Visit เป็นหนังเล่นแนว Thriller ประเภทปมทางจิตและครอบครัว แต่สำหรับเรา สำหรับหนัง genre นี้ ยังไม่มีอะไรมาสู้ Babadook ที่เราเพิ่งดูเมื่อปีที่แล้วได้ ดังนั้นในความรู้สึกของเรา The Visit จึงถือเป็นหนัง Thriller ทั่วไป กลางๆ ไม่ถึงกับเป็นผลงานคืนฟอร์มของผู้กำกับ ซึ่งจะไปดูก็ได้ แต่ถ้าไม่ดู…ก็ไม่รู้สึกว่าพลาดอะไรไป

คะแนนตามความชอบส่วนตัวให้ 6.5/10 (มากกว่า Sinister 2 นิดนึง) คือมันก็ไม่ดีไม่แย่ แต่พอหนังจบ…กลับบ้านแล้ว…ก็ไม่มีอะไรจากหนังที่น่าจดจำอีกเลย

The Visit ฉายแล้ว 22 ต.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์