ถ้าใครกำลังมองหาหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้เพื่อความฝัน ณ ตอนนี้ เราแนะนำว่า The Idol (Ya Tayr el Tayer) เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ Mohammad Assaf นักร้องหนุ่มคนแรกจาก “กาซ่า ปาเลสไตน์” ที่ได้มาประกวดและได้เป็น “Arab Idol” (ปี 2013)
นั่นหมายความว่า หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดการสู้ชีวิตบนเส้นทางความฝันของ Mohammad Assaf ที่เกิดและโตมาใน “กาซ่า ปาเลสไตน์” ดินแดนแห่งสงครามและความแตกแยก ซึ่งสภาพแวดล้อมที่ไม่มีอะไรอำนวยให้เขาได้เป็นนักร้องเลยสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสังคม วัฒนธรรม หรือฐานะทางเศรษฐกิจ แต่สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จ
ส่วนหนึ่งที่เขาประสบความสำเร็จอาจเป็นเพราะโชคช่วย แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ขึ้นอยู่กับตัวเขาหรือเขาสร้างมันขึ้นมาเอง เช่น ความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเอง การหมั่นเพียรฝึกฝนร้องเพลง ที่สำคัญคือ อย่าให้อุปสรรคใดใดมาทำให้เราต้องหยุดเชื่อในความฝัน ฯลฯ ทั้งนี้กำลังใจที่ดีจากครอบครัว เพื่อน และคนรักก็เป็นสิ่งสำคัญที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเราให้มุ่งมั่นไปสู่ความสำเร็จ
ดังนั้น ยิ่งเราดูแล้ว เรายิ่งรู้สึกว่า เราเกิดมาโชคดีมีพื้นฐานชีวิตดีกว่า Mohammad เขาตั้งเยอะ ทำไมเราไม่เชื่อมั่นในตัวเองอย่างเขาบ้าง! หรือเพราะเราคิดว่าชีวิตเราสบายอยู่แล้ว เราจึงไม่ค่อยขวนขวายที่จะทำอะไรเพื่อความฝันหรือเพื่ออะไรที่ยิ่งใหญ่!
นอกจากประเด็นเรื่องความฝันหรือความพยายามแล้ว หนัง The Idol ยังมีประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจสอดแทรกอยู่ด้วย เช่น พี่สาวของ Mohammad มีความ feminist มาก นางเหมือนเป็นตัวแทนของเด็กผู้หญิงในสังคมนั้น วัฒนธรรมนั้น ที่ได้รับการปฏิบัติและโอกาสในการยืนในสังคมไม่เท่าเทียมกับเพศชาย เราชอบนางนะ แอบจดจำนางชัดกว่าจดจำพระเอกเสียอีก
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ความคาดหวังของคนในสังคมต่อไอดอลคนหนึ่ง ที่เราฟัง Mohammad พูดแล้วถึงกับสะอึก กล่าวคือ คนอื่นๆ อยากจะประกวดเพื่ออะไรนั้นไม่รู้ แต่สำหรับ Mohammad แล้ว เขาแค่อยากทำตามความฝันของเขากับพี่สาว อยากทำในสิ่งที่เขารัก และอยากให้คนทั้งโลกได้ยินเสียงหรือเห็นตัวตนของชาวกาซ่าบ้างก็เท่านั้น ไม่ได้คาดหวังอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นเลย
อย่างไรก็ดี ต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นสัญลั
และอีกหนึ่งสิ่งที่เราชื่นชอบในหนังเรื่องนี้คือ เรื่องภาพ เราว่าหนังเขาถ่ายภาพสวยเลยนะ คือโลเกชั่นอย่างนั้น แต่เขาถ่ายออกมาให้สวยงามน่าไปได้ นี่เราชื่นชมเลยนะ แล้วมันจะมีซีนที่พระเอกร้องเพลงท่ามกลางแบ็คกราวนด์ที่ไม่น่ายลของกาซ่าเองนี่แหละ เราว่ามันน่าประทับใจมากที่เสียงของเขาทำให้ที่แห่งนั้นดูสวยงามน่าอยู่ขึ้นมาได้ ขนลุกเลยจริงๆ (ถึงแม้จะฟังภาษาอาหรับไม่ออกก็เถอะ)
แต่สิ่งที่ไม่ชอบคือ บางซีนดูออกมาเป็น presentation ไปหน่อย และบางไดอะล็อกก็ดูปรุงแต่งให้สวยหรูหรือ inspirational อย่างจงใจมากเกินไปนิด แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ร้ายแรงขนาดดูแล้วอึดอัดอะไร โดยรวมดูแล้วก็ยังอินอยู่ดี เล่าเรื่องโอเค ปูเรื่องเยอะ แต่ดูแล้วไม่น่าเบื่อเลย
โดยสรุป The Idol คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10 จัดเป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้คนทุกคนในการทำความฝันของตนเองให้เป็
The Idol 28 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
ป.ล. รู้สึกว่า Mohammad Assaf ตัวจริงหล่อกว่าคนที่เล่นเป็นเขาในหนังอีกนะเออ
45 comments
เรื่องนี้น่าดูมากครับ เสียดายทำไม house rca ถึงไม่เอามาลง