เห็นได้ชัดว่าทีม ไทบ้านฯ มีชัดเจนในความเป็นตัวของตัวเอง การแสดงและการถ่ายทอดเรื่องราวก็จริงใจ พวกเขาจึงมีฐานแฟนแน่นหนามากขึ้นทุกวัน ๆ ประกอบกับ สัปเหร่อ หนัง spin-off ล่าสุดของจักรวาล เป็นหนังที่ผสมผสาน 3 รสชาติ Top 3 ที่เป็นนิยมของคนไทย นั่นก็คือ “หนังรัก หนังผี หนังตลก” จึงไม่แปลกใจเลยที่วันนี้รายได้ของหนัง สัปเหร่อ กำลังทะยานมุ่งสู่ 300 ล้านบาทแล้ว!
สำหรับคนที่มีความรู้ ความเข้าใจ และความผูกพันกับวัฒนธรรมอีสานแทบเป็นศูนย์ และกับไทบ้านฯ แทบติดลบอย่างเรา ก็ต้องขอชื่นชมที่ไทบ้านฯ ต้อนรับคนดูหน้าใหม่อย่างประนีประนอมตามสไตล์คนไทย ตัวละครแต่ละตัวก็ดูเป็นมิตร เข้าถึงง่าย และมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน ทำให้เราสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวและเข้าใจความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครได้ไม่ยาก
ตัวละครหลักในเรื่องคือ เจิด เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบนิติฯ กลับมาบ้านเกิดระหว่างรอเตรียมสอบทนาย และได้มาช่วยงานสัปเหร่อของพ่อที่กำลังป่วย ซึ่งอาชีพสัปเหร่อของพ่อถือเป็นจุดศูนย์กลางและตัวส่งสารที่สำคัญของหนังในการถ่ายทอดเรื่องราววัฒนธรรมและความเชื่อของคนอีสาน เกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา ตั้งแต่พุทธ คริสต์ และอิสลาม ซึ่งหนังสามารถเล่าให้คนรุ่นใหม่ที่เริ่มห่างไกลจากศาสนาหรือความเชื่อโบราณแล้วได้เข้าถึงและเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้โดยที่ไม่รู้สึกถูกบีบบังคับหรือยัดเยียด
อีกหนึ่งตัวละครหลักคือ เซียง ชายหนุ่มที่ยังยึดติดและปล่อยวางจาก ใบข้าว หญิงคนรักเก่าที่ตายทั้งกลมไม่ได้ ในขณะที่คนทั้งตำบลต่างเห็นและถูกผีใบข้าวตามหลอกหลอน จนต้องร้องขอให้รีบทำพิธีเผา แต่เซียง… ซึ่งอยากเจอใบข้าวจะเป็นจะตาย… กลับไม่ได้เจอเธอสักที เขาจึงพยายามค้นหาและทำทุกวิถีทางที่จะได้เห็นและพูดคุยกับเธออีกครั้งจนเข้าขั้นหมกมุ่น รวมถึงการถอดจิตทะลุมัลติเวิร์สไปหาใบข้าวในอีกมิติหนึ่ง
โดยส่วนตัว เราชอบประเด็นหลักที่หนังต้องการจะสื่ออย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการปล่อยวางกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วหรือจากไปแล้วในอดีต กับการโฟกัสกับสิ่งที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความตายหรือการจากลา ซึ่งเป็นเรื่องสากล ที่เราเชื่อว่าทุกคนต่างเคยมีประสบการณ์ร่วม
แต่พอหนังมีความพยายามที่จะเป็นทั้งหนังรัก หนังผี และหนังตลกตามสูตร มันจึงทำให้หนังยังมีความขรุขระ และขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้าง เช่น ในหลายซีน มุกตลกก็มาตัดอารมณ์หรือผิดที่ผิดทางอยู่บ้าง การเชื่อมโยงระหว่าง main plot กับ sub plot ก็ยังไม่สมูธเท่าที่ควร รวมถึงการยิงสารอย่างตรง ๆ ซื่อ ๆ ก็ยังไม่ใช่จริตของเราสักเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจว่า มันก็เป็นวิธีที่ทำงานได้ดีกับคนไทยส่วนใหญ่และคนดูกลุ่มเป้าหมายของเขา
ถ้าให้เรารีวิวจากใจจริง เช่นเดียวกับที่หนังจริงใจกับคนดู เราก็ต้องขอพูดตรง ๆ ว่า สำหรับเรา สัปเหร่อ อาจเป็นหนังที่ overrated ไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นหนังที่ไม่ดี ถึงแม้หนังจะไม่ใช่แนวของเรา แต่เราก็เต็มใจอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนและเชียร์ให้คนไทยไปดูหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เพราะมันมีคุณค่าในฐานะแผ่นฟิล์มที่เป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนอีสานเท่านั้น แต่นี่ยังเป็นแนวหนังทางเลือกที่อาจจะเป็นทางรอดของอุตสาหกรรมหนังไทยในอนาคตหากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่และพัฒนาต่อ ๆ ไป