KWANMANIE
  • Home
  • Courses
    • All Courses
    • Essay Course for Admissions
    • Private Essay Course
    • SOP & Essay Editing Service
  • Movies
    • Reviews
    • Previews & Trivia
  • Study
    • How to Write a Statement of Purpose (SOP)
    • English Writing
    • General
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • About Me
    • Where to Find Me
Follow
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Pinterest
  • YouTube
Social Links
Instagram 5K Follow
Twitter 11K Follow
Facebook 10K Like
YouTube 7K Subscribe
TikTok
KWANMANIE
Follow
Follow
Like
Subscribe
KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Movies
    • Reviews
    • Previews & Trivia
  • Study
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • About Me
    • Where to Find Me
  • Movies
  • Reviews

รีวิว Promising Young Woman: สาวซ่าส์ล่าบัญชีแค้น

  • April 25, 2021
  • kwanmanie
Total
0
Shares
0
0
0

“Can you guess what every woman’s worst nightmare is?”

Promising Young Woman เข้าชิงออสการ์ 5 สาขา ได้แก่ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, กำกับยอดเยี่ยม, บทดั้งเดิมยอดเยี่ยม, และตัดต่อยอดเยี่ยม

หนังเล่าเรื่องของ Cassandra หรือ Cassie (Carey Mulligan ผู้เข้าชิงออสการ์จาก An Education) ที่ยังไม่สามารถ move on จากการสูญเสียเพื่อนรักอย่าง Nina ไป เธอลาออกจากคณะแพทย์และมาทำงานเป็นลูกจ้างร้านกาแฟ แต่ในบางราตรี เธอก็แปลงร่างเป็นสาวแซ่บแกล้งเมา รอตะครุบเหยื่อสุภาพบุรุษที่หวังดีแต่ฉวยโอกาสลวนลามและข่มขืนผู้หญิงที่เมาไม่ได้สติในผับบาร์อย่างเธอ

วันหนึ่ง Cassie ได้เจอกับคุณหมอ Ryan (Bo Burnham จาก The Big Sick) เพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนแพทย์ ทำให้เธอได้ทราบข่าวคราวของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่เคยทำลายชีวิตของ Nina ว่า คนเหล่านั้นกำลังมีชีวิตที่ดี ทั้งชีวิตครอบครัวและฐานะหน้าที่การงาน เธอจึงเริ่มปฏิบัติการล้างแค้นคนเหล่านั้นเป็นรายคน ตั้งแต่ Al Monroe (Chris Lowell จาก The Help) ผู้ที่ทำลายชีวิต Nina โดยตรง, ​Madison (Alison Brie จาก The Post) เพื่อนสาวผู้ ignorant, คณบดีที่เข้าข้าง Al เพิ่งเพราะเขาเป็นนักศึกษาชายอนาคตไกล, ผู้พิพากษา (?) ผู้ตัดสินให้ Al ได้รอดพ้นผิด ฯลฯ

หนังค่อย ๆ แง้มเรื่องราวในอดีตออกมาทีละเปลาะ ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Nina โดยไม่ต้องใช้ภาพแฟลชแบ็กถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นเลยแม้แต่น้อย คนดูก็สามารถปะติดปะต่อเรื่องได้เอง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จินตนาการยากอะไร เพราะทุกวันนี้เราต่างคุ้นเคยกับ male privilege, patriarchy (สังคมชายเป็นใหญ่), victim blaming, rape culture, จนไปถึงความอยุติธรรมของศาลหรือกฎหมายกันอยู่แล้ว เช่น ผู้หญิงแต่งตัวโป๊บ้างล่ะ ผู้หญิงปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้เมาในที่อโคจรเองบ้างล่ะ ฯลฯ ใช่… นี่คือหนัง feminist เรื่องหนึ่งในยุค #MeToo และ Time’s Up movements

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนที่กระทำผิดกลัวที่จะได้รับผลกรรม กลัวหมดอนาคต กลัวชีวิตพัง แต่ไม่สนว่าตัวเองได้พังชีวิตคนอื่นไปแล้วเท่าไหร่… เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สังคมก็ยังเข้าข้างคนทำผิด ช่วยปิดบังความผิด และไม่ลงโทษคนผิดอย่างที่ควรจะเป็น เพียงเพราะคิดว่าชีวิตหรืออนาคตของจำเลยยังมีค่า ทั้งที่ทุกคนเกิดมาควรมีค่าเท่ากัน ใช่… มันไม่แฟร์ และมันก็เป็นเรื่องน่ากลัวที่เราไม่รู้เลยว่าผู้ชายที่เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา การศึกษา สถานะทางสังคม และภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูดี ดูเหมือนจะ “nice” นั้น เนื้อแท้ของเขาจะเป็นอย่างไร หรือ nice guy ของเราอาจจะเคยเป็น monster ของคนอื่นมาก่อนก็ได้

ทุกคนเคยทำผิดพลาด อาจจะเพราะตอนนั้นยังเด็กจึงไม่คิดหน้าคิดหลัง อาจเพราะความคึกคะนอง อาจเพราะความมัวเมาไม่ได้สติ หรือจะเพราะอะไรก็ตามแต่ แต่ที่สำคัญ คนที่ทำผิดต้องรู้สึกสำนึกผิด รับผิดชอบ และยอมรับในผลกรรมและบทลงโทษในสิ่งที่ทำผิดทำพลาดนั้น ไม่ใช่ว่ายังใช้ชีวิตปัจจุบันอย่างปกติสุขได้โดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการกระทำของตนเองในอดีตเลยแม้แต่น้อย

อย่างในเรื่องนี้เอง Cassandra ก็ไม่ได้แค้นฝังหุ่นถึงขนาดจะต้องฆ่าแกงคนเหล่านั้นให้ตายตามกันไป หรือต้องลงโทษโดยการทำลายชีวิตของพวกเขาให้พังครืนอะไรขนาดนั้น สิ่งที่เธอต้องการก็คือความแฟร์ คำขอโทษ และความสำนึกผิดจากใจจริง ถ้าพวกเขารู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ เธอก็พร้อมจะให้อภัย เพราะเธอก็เชื่อเช่นกันว่า ทุกคนผิดพลาดกันได้ เปลี่ยนแปลงกันได้ หรืออาจมีเหตุผลของตัวเอง ซึ่งตรงนี้ เราคิดว่าเป็นพอยต์ที่ดี เพราะในสังคมสมัยนี้ เรามักจะเจอแต่การเหยียบซ้ำ การไม่ให้โอกาส และการทำลายอย่างไม่รู้จบ

สิ่งหนึ่งที่เราชอบในหนังเรื่องนี้คือ เราไม่รู้ว่าหนังจะพาเราไปแลนด์ดิ้งหรือจบที่ตรงไหน และเล่นกับความรู้สึกของคนดูเพื่อให้เข้าใจความใจแหลกสลายของ Cassandra แต่ละคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบในบทสรุปต่าง ๆ กัน บางทีเราเองก็อยากให้เธอ move on หรือปล่อยวางก่อนที่จะถลำลึกไปมากกว่านี้ อยากให้ใช้ชีวิตแบบปกติ แต่มาคิดอีกที ในมุมมองของเธอ ถ้าเราเป็น Cassandra มันก็คงยากที่จะใช้ชีวิตแบบปกติสุขได้ถ้ามันยังค้างคาอยู่อย่างนี้ อืม… หนังก็วัดศีลธรรมหรือเลเวล ignorance ในใจเราได้ประมาณหนึ่งเลยนะ

เราอาจจะไม่ถูกใจตอนจบเสียทั้งหมด แต่มันก็คือชีวิตของเธอ และปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือตอนจบที่ดีที่สุดแล้วสำหรับ Cassandra เอง

Share this:

  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
Total
0
Shares
Share 0
Tweet 0
kwanmanie

Movie Blogger | Essay Tutor

Trending Posts
  • รีวิว Bridgerton: บริดเจอร์ตัน วังวนรัก เกมไฮโซ
    รีวิว Bridgerton: บริดเจอร์ตัน วังวนรัก เกมไฮโซ
  • รีวิว 18 Again ซีรีส์เกาหลี รีเมคจาก 17 Again
    รีวิว 18 Again ซีรีส์เกาหลี รีเมคจาก 17 Again
  • รีวิว Everything  Everywhere All at Once: ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส
    รีวิว Everything Everywhere All at Once: ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส
  • Chanel Boy แท้ vs. Chanel Boy ปลอม
    Chanel Boy แท้ vs. Chanel Boy ปลอม
  • ถ้าจะโง่ ก็จงโง่แบบ "Forrest Gump"
    ถ้าจะโง่ ก็จงโง่แบบ "Forrest Gump"
Follow Me
  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
Contact
Bangkok, Thailand
LINE ID: @kwanmanie
contact@kwanmanie.com
ABOUT KWANMANIE

ขวัญ จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นบล็อกเกอร์ ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ ซื้อกระเป๋า เลี้ยงแมว เลี้ยงต้นไม้ และเป็นติวเตอร์ เน้นสอน Essay Writing

KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Movies
  • Study
  • Lifestyle & Perspective
  • About Me
Movie Blogger | Essay Tutor

Input your search keywords and press Enter.