KWANMANIE
  • Home
  • Courses
    • All Courses
    • Essay Course for Admissions
    • Private Essay Course
    • SOP & Essay Editing Service
  • Films
    • Movie Reviews
    • Series
  • Books
    • Nonfiction
      • Self Improvement Books
      • Relationship Books
    • Fiction
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Productivity
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • Study
    • How to Write a Statement of Purpose (SOP)
    • English Writing
    • General
  • About Me
    • Where to Find Me
Follow
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Pinterest
  • YouTube
Social Links
Instagram 5K Follow
Twitter 11K Follow
Facebook 10K Like
YouTube 7K Subscribe
TikTok
KWANMANIE
Follow
Follow
Like
Subscribe
KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Films
    • Movie Reviews
    • Series
  • Books
    • Nonfiction
    • Fiction
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Productivity
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • Study
  • About Me
    • Where to Find Me
  • Self Improvement Books
  • Relationship Books
  • Films
  • Movie Reviews

รีวิว Babylon: บาบีลอน ตะลอน (อีกครั้ง) กับกาลครั้งหนึ่ง ณ ลาลาแลนด์

  • January 21, 2023
  • kwanmanie
Total
0
Shares
0
0
0

Babylon ผลงานกำกับล่าสุดของ Damien Chazelle (จาก Whiplash, La La Land, และ First Man) เป็นจดหมายรักถึงภาพยนตร์และจดหมายชังถึงฮอลลีวู้ด

หนังเริ่มต้นที่ช่วงขาขึ้นของฮอลลีวู้ด ปี 1926 และสิ้นสุดที่ปี 1952 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่านมากมายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะช่วงคาบเกี่ยวระหว่างหนังเงียบกับหนังเสียง ซึ่งในโลกความเป็นจริง ก็มีนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังของหนังเงียบหลายคนก็ไม่สามารถปรับตัวได้ ไม่เหมาะ และไม่ได้ไปต่อในยุคหนังเสียง หรือพูดง่าย ๆ ว่า “หมดยุค”

หนังเริ่มต้นด้วยความฝันของคนหนุ่มสาวใน LA ที่อยากจะเป็นดาว คล้าย ๆ กับ La La Land แต่จะเน้นชี้มากกว่าว่า ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องจีรัง ทุกคนมีช่วงเวลาของตัวเอง วงการบันเทิงฮอลลีวู้ดก็เหมือนวงจรอุบาทว์ มีเหล้ายาปาร์ตี้ มีด้านมืดด้านสว่าง และก็มีเกิดมีดับ มีรุ่งมีร่วง เป็นไปตามยุคสมัย คล้าย ๆ กับยุคของสื่อสิ่งพิมพ์กับสื่อดิจิตัล หรือยุคของ YouTube กับยุคของ TikTok หรือยุคของโรงภาพยนตร์กับสตรีมมิ่ง

 “You don’t become a star. You either are one or you ain’t.”

ในวงการมายา บางทีแค่ความสามารถหรือความมุ่งมั่นก็อาจไม่นำพาไปสู่ประสบความสำเร็จได้เสมอไป แน่นอนว่า ความพยายามสร้างโอกาสให้ตัวเองก็คือการเริ่มต้นที่สำคัญ แต่สุดท้ายมันก็ต้องมีพึ่งจังหวะ มีโชค หรือมี Timing ด้วย (ยังไม่นับเรื่องคอนเน็กชั่น หรืออะไรต่าง ๆ นั่นอีก) เช่นเดียวกับนางเอกในเรื่องนี้ที่ได้เป็นดาราเพราะไปอยู่ถูกที่ถูกเวลา (แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะเธอพยายามดั้นด้นเข้าไปในที่แห่งนั้นแต่แรกด้วยก็ด้วย)

อย่างไรก็ดี หนังยกย่องหนังด้วยกันด้วยว่า หนังเป็นความบันเทิงที่ทลายกำแพงชนชั้น ทุกครัวเรือนสามารถเข้าถึง และหนังก็จุดประกายความฝันให้คนดูได้ จนถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตเด็กยากจนให้เป็นเศรษฐีได้จากรูปร่างหน้าตาและความสามารถได้ (ถ้าคุณเกิดมาเป็นดาว) ตรงกันข้ามกับละครบรอดเวย์หรือโอเปร่าที่เป็นความบันเทิงของไฮโซหรือคนชั้นสูงเท่านั้น

Babylon เล่าเรื่องราวฮอลลีวู้ดในยุค 1920s-1930s ผ่านมุมมองของตัวละครหลัก ได้แก่ ซูเปอร์สตาร์ค่าตัวแพงอันดับหนึ่งของวงการอย่าง Jack Conrad (Brad Pitt ผู้ชนะออสการ์จาก Once Upon a Time in Hollywood), ดาวรุ่งหญิงจากโคลนตมที่เชื่อว่าตนเกิดมาเป็นดาว Nellie LaRoy (Margot Robbie ผู้เข้าชิงออสการ์จาก I, Tonya), ผู้อพยพชาวเม็กซิกันที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งสำคัญ Manuel “Manny” Torres (Diego Calva ดาวรุ่งจาก Narcos: Mexico), และก็ยังมี Elinor St John (Jean Smart) นักข่าวที่มีอิทธิพล (หรืออาจเปรียบเปรยเป็นแมลงสาบ) ในวงการฮอลลีวู้ดอีกด้วย

นอกจากนี้ Damien Chazelle ยังเพิ่มบทบาทให้คนชายขอบของฮอลลีวู้ด เช่น คนผิวสี และ homosexual โดยมีตัวละครสมทบที่ช่วยสะท้อนความเรียลของวงการได้อีก ตั้งแต่ Lady Fay Zhu (Li Jun Li) ที่เสมือนเป็นตัวแทนของ Anna May Wong ที่ในชีวิตจริงคือ นักแสดงอเมริกันเชื้อสายจีนคนแรกของฮอลลีวู้ดที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และ Sidney Palmer (Jovan Adepo) นักดนตรีแจ๊ซเชื้อสายแอฟริกัน

“But in a hundred years when you and I are long gone, anytime someone threads a frame of yours through a sprocket, you’ll be alive again.”

ความดีงามคือ หนังพาคนดูไปเยี่ยมชมเบื้องหลังของฮอลลีวู้ดยุคนั้นแบบย่อยง่าย ซึ่งไม่ได้หาดูได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อะไรสำหรับคนที่ดูหนังมาพอสมควร และอีกอย่างคือ พอมีตัวละครเยอะ มีเรื่องราวมากมาย มันเลยกลายเป็นความมะรุมมะตุ้ม อีรุงตุงนัง (นี่เป็นหนังที่ “ล้นที่สุด” ของผู้กำกับคนนี้ก็ว่าได้) ซึ่งแรก ๆ มันก็ขำและเจ๋งดี แต่พอดูไปสักพัก เราเริ่มรู้สึกเหนื่อย มันเริ่มเยอะไป ยาวไป ไม่สมูธ และไม่จำเป็น ประหนึ่ง Damien Chazelle ต้องการเลคเชอร์ History of 1920s Hollywood ในเวลา 3 ชั่วโมงกว่า ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อ

kwanmanie
8/10
Total Score

The Good

  • Strong cast
  • History of 1920s Hollywood

The Bad

  • Too long & too much

Share this:

  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)

Related

Total
0
Shares
Share 0
Tweet 0
Related Topics
  • babylon
  • brad pitt
  • damien chazelle
  • margot robbie
kwanmanie

Movie Blogger | Essay Tutor

Trending Posts
  • สรุปหนังสือ MANIFEST: 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา
    สรุปหนังสือ MANIFEST: 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา
  • รีวิว The Covenant: ทหารเมกัน ล่ามอัฟกัน และตาลีบัน
    รีวิว The Covenant: ทหารเมกัน ล่ามอัฟกัน และตาลีบัน
  • รีวิว 28 Years Later: 28 ปีให้หลัง ซอมบี้ XวE ใหญ่กว่าเดิม
    รีวิว 28 Years Later: 28 ปีให้หลัง ซอมบี้ XวE ใหญ่กว่าเดิม
  • รีวิวการ์ตูนอะนิเมะญี่ปุ่น Your Name: หลับตาฝันถึงชื่อเธอ
    รีวิวการ์ตูนอะนิเมะญี่ปุ่น Your Name: หลับตาฝันถึงชื่อเธอ
  • Chanel Boy แท้ vs. Chanel Boy ปลอม
    Chanel Boy แท้ vs. Chanel Boy ปลอม
Follow Me
  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
Contact
Bangkok, Thailand
LINE ID: @kwanmanie
kwanmanieisworking@gmail.com
ABOUT KWANMANIE

ขวัญ จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นบล็อกเกอร์ ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ ซื้อกระเป๋า เลี้ยงแมว เลี้ยงต้นไม้ และเป็นติวเตอร์ เน้นสอน Essay Writing

KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Films
  • Books
  • Lifestyle & Perspective
  • Study
  • About Me
Movie Blogger | Essay Tutor

Input your search keywords and press Enter.