รีวิว Red Sparrow: สายลับหญิงร้อนพิฆาต

“You sent me to whore school,”

ใครมีภาพจำของสาว Jennifer Lawrence แบบสาวบู๊แบบใน The Hunger Games หรือ X-Men แล้วคาดหวังจะเห็นเธอในมาดสายลับนักบู๊ใน Red Sparrow อีก ก็คงจะผิดหวัง แต่หากคาดหวังจะเห็นเธอในมาดสายลับสาวสวยที่ใช้กึ๋นและความเซ็กซี่เป็นอาวุธ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ในเรื่องนี้ เธอ (ซึ่งเป็นอเมริกันผมบลอนด์) ต้องรับบทเป็นสาวรัสเซียผมไม่บลอนด์ ชื่อ Dominika Egorova แรกเริ่มเธอเป็นนักเต้นในโรงละครโอเปร่า ทำงานหาเงินเลี้ยงดูรักษาแม่ (Joely Richardson) ที่กำลังป่วย แต่ต่อมาเกิดอุบัติเหตุทำให้กลับไปเต้นแบบเดิมไม่ได้อีก

อาของเธอ (Matthias Schoenaerts จาก The Danish Girl) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย จึงส่งเธอไปโรงเรียนเตรียมสายลับ Sparrow กับ Matron (Charlotte Rampling จาก 45 Years) เพื่อมาทำงานเป็นสปายรับใช้ชาติ ที่ Sparrow สอนให้เป็น Spy โดยเน้นใช้ Sex หรือความยั่วยวนเป็นอาวุธ และการทะลวงจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม (ซึ่งส่วนใหญ่ของผู้ชายมักจะเป็นเรื่องความต้องการทางเพศ)

ฝั่งอเมริกา ก็มีสายลับ CIA คือ Nate Nash (Joel Edgerton จาก The Gift) ที่ Dominika ต้องไปวัดกึ๋นด้วย แต่ต่อมาทั้งสองก็มีความรู้สึกต่อกัน ซึ่งแน่นอนว่าขัดต่อหน้าที่การงานและความรับผิดชอบของชาติ (อย่างไรก็ตาม เราค่อนข้างรู้สึกว่าสองคนนี้เคมียังไม่ค่อยเข้ากันนัก แต่ความสามารถดีทั้งคู่)

หนังแบ่ง 3 ช่วงหลัก ๆ คือ ช่วงที่นางเอกยังไม่มาเป็น Sparrow, ช่วงที่อยู่ในโรงเรียน, และช่วงที่ออกมาทำงานจริงและเจอกับพระเอก โดยส่วนตัวชอบช่วงที่อยู่ในโรงเรียน เพราะเหมือนได้เรียนรู้การมองคน การหาจุดอ่อนหรือความต้องการของคนไปด้วย

บทของ Dominika ค่อนข้างซับซ้อนและมีความสับสนใจตัวเอง อีกทั้งมีทั้งความเข้มแข็งและอ่อนแอพร้อม ๆ กัน แต่ Jennifer Lawrence ก็แสดงออกมาได้ดีสมราคาออสการ์ แถมเรื่องนี้เธอยังทุ่มทุนเปลือยจริง เพื่อให้เข้าถึงบทสายลับ feminist ที่ต้องยอมรับใช้ชาติอย่างไม่เต็มใจ (เพื่อแม่) และพยายามต่อสู้เพื่อเลือกทางเดินของเธอเอง

Dominika เป็นคนที่ค่อนข้างกล้าคิด มีความหัวเสรีและก้าวหน้า หลายอย่างที่เธอคิดและทำจึงดูไม่ได้รับการสนับสนุนในรัสเซียซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ โดยส่วนตัวเราไม่รู้ว่าประเทศรัสเซียจำกัดสิทธิและเสรีภาพของคนในประเทศขนาดไหน เท่าที่เห็นในหนังก็ค่อนข้างน่ากลัวพอตัว แต่ไม่ว่าจะจริงไม่จริง เราว่าคนทำหนังเรื่องนี้ต้องเกลียดรัสเซียอยู่พอตัวเหมือนกัน (555+) เพราะเรื่องนี้รัสเซียดูเป็นตัวร้ายมาก ส่วนอเมริกาก็…ก็ดี…

เนื้อเรื่อง โดยเฉพาะตัว Dominika คาดเดาทางได้ยาก แต่น่าเสียดายที่โดยรวมหนังยังทำได้ไม่ค่อยน่าติดตามสักเท่าไหร่ ในช่วงบทสรุป มันจึงไม่ได้จบสวยหรือน่าจดจำอย่างที่มันควรจะเป็น ทั้งทั้งที่จริง ๆ แล้ว ตอนจบมันโอเคเลยนะ

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10