รีวิว Rambo 5: Last Blood

เราไม่เคยดู Rambo เลย แต่รู้ว่า Rambo เคยประสบความสำเร็จมากตั้งแต่เรายังไม่เกิด เรามามีโอกาสได้ดูก็ภาคสุดท้ายหรือภาค 5 นี้เลย แต่ก็ดูรู้เรื่อง เหมือนดูหนังแอ็คชั่นสมัยนี้ทั่วไปที่พระเอกเป็นอดีตทหาร หรือหนังแอ็คชั่นฆ่าล้างแค้นที่พระเอกเคยเป็นนักฆ่ามาก่อน เช่น John Wick หรือ Taken

John Rambo (Sylvester Stallone) วางมือและใช้ชีวิตทำไร่เลี้ยงม้าอยู่กับครอบครัวเหมือนชาวบ้านปกติทั่วไป เขามีหลานสาว Gabrielle (Yvette Monreal) เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ และมียายของ Gabrielle (Adriana Barraza) อยู่เป็นเพื่อน แต่แล้ววันนึงความสุขสงบก็สิ้นสุดลงเมื่อ Gabrielle ถูกแก๊งมาเฟียค้ายาค้าประเวณีจับตัวไปอยู่ในซ่องที่เม็กซิโก ทำให้เขาต้องขุดสกิลเก่าออกมาปัดฝุ่นและข้ามชายแดนตามไปเช็คบิลสองพี่น้อง Martinez (Óscar Jaenada และ Sergio Peris-Mencheta) อย่างถอนรากถอนโคน โดยมีนักข่าวสาวท้องถิ่น (Paz Vega) คอยช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ

ในส่วนของบท ตามประสาหนังแอ็คชั่น ก็จะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก แต่เราชอบที่เค้าก็พยายามทำให้ดูแบบมีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป และมีน้ำหนักในระดับหนึ่ง การเล่าเรื่องก็โอเค ถึงแม้จะเรื่อย ๆ แต่ก็มีความน่าติดตามและน่าเอาใจช่วยคู่ลุงกับหลานในเรื่อง

ถ้าเทียบกับ John Wick หรือหนังแอ็คชั่นสมัยนี้หลาย ๆ เรื่อง ก็ต้องบอกว่า Rambo: Last Blood ไม่ได้เดือดระอุหรือบู๊กระจายจนระลึกแบบไม่ได้หายใจอะไรแบบนั้น ตรงกันข้าม ส่วนใหญ่หนังค่อนข้างไปทางดราม่าดาร์ก ๆ ซะเกือบทั้งเรื่องเสียด้วยซ้ำ เหมือนมาตีแผ่วงการค้ามนุษย์และสังคมเสื่อมโทรมของเมืองเม็กซิโก กว่าจะมาบู๊แบบจัดหนักจัดเต็มและโหดเลือดสาดจริง ๆ ก็ช่วงเฮือกสุดท้าย

ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจได้ เพราะป๋า Sylvester Stallone ปีนี้ก็อายุปาไป 73 ปีแล้ว คืออายุเท่าปู่ย่าตายายแล้ว แต่ถึงกระนั้นป๋าก็ยังดูแข็งแรงและฟิตปึ๋งอยู่นะ แต่ถ้าให้ไปห้อยโหนตีลังกาแบบหนุ่ม ๆ หรือสมัยป๋าแกหนุ่ม ๆ ก็คงไม่ไหว ดังนั้น John Rambo ในวัยหลังเกษียณนี้ จึงไปเอาดีด้านความเก๋าเกม กลยุทธกับดัก และการต่อสู้แบบประชิดตัวสไตล์ Old School แทน ซึ่งแต่ละอย่างที่ป๋าแกทำก็โหดจนต้องเอามือปิดตากันเลยทีเดียว เรียกว่า “แก่แต่เก๋า” ที่แท้ทรู

ชอบฉากแถมช่วงสุดท้าย ที่ทำให้เราอยากจะไปหา Rambo ภาคเก่า ๆ มาดูบ้างสักหน่อย และก็ให้ฟีลลิ่งการปิดตำนานเกือบ 40 ปีของ Rambo อย่างเพียงพอและพอเพียง

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10