Our Little Sister หนังญี่ปุ่นแนวดราม่าครอบครัว สร้างจากมังงะของอาจารย์ Akimi Yoshida เรื่อง Umimachi Diary (หรือ Diary of a Seaside Town) เจ้าของรางวัล Excellent Prize 2007 จากเทศกาล Japan Media Arts Festival โดยฉบับภาพยนตร์นี้…ได้รับการเขียนบทและกำกับโดย Kore-eda Hirokazu ผู้กำกับฯ ชื่อดังชาวญี่ปุ่นที่มีผลงาน Like Father, Like Son การันตีความสามารถ
เรื่องย่อ Our Little Sister
ในบ้านหลังเก่าหลังหนึ่งในเมืองคามะคุระซึ่งอยู่ติดกับชายทะเล สามพี่น้อง ซาจิ (Haruka Ayase), โยชิโนะ (Masami Nagasawa), และ จิกะ (Kaho) อาศัยอยู่ด้วยกันโดยลำพังมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ทิ้งพวกเธอไปหลังจากที่พ่อไปแต่งงานใหม่ ทั้งสามแทบไม่ได้เจอพ่อกับแม่อีกเลย จนกระทั่งวันหนึ่งที่ทั้งสามต้องไปงานศพของพ่อ
งานศพของพ่อเป็นจุดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของสาวๆ ที่นั่นพวกเธอได้รู้จักกับ ซึสึ อาซาโนะ (Suzu Hirose) น้องสาวต่างมารดา และได้ชวนน้องสาวคนเล็กกลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองคามะคุระ
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Our Little Sister
Our Little Sister นี่เป็นหนังญี่ปุ่นและหนังเอเชียเรื่องแรกในรอบหลายปีที่เราดูเลยก็ว่าได้ (ไม่นับหนังไทยบ้านเรา) เพราะปกติเราไม่ชอบดูหนังเอเชีย (ไม่ใช่อะไร… แค่มีปัญหาในการจำชื่อต่างๆ ในเรื่องซึ่งเป็นภาษาที่เราไม่คุ้นชินเฉยๆ) ตอนที่ทางค่ายสหมงคลฯ เชิญให้ไปดูรอบ premiere นี่ยังคิดเลยว่า จะไปดูดีมั้ย กลัวไม่ชอบ กลัวดูไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายก็ลองไปดู เพราะเห็นกระแสวิจารณ์จากต่างประเทศออกมาดี
เราคงเอา Our Little Sister ไปเปรียบเทียบกับหนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นไม่ได้ เพราะอย่างที่บอก เราไม่ค่อยมีประสบการณ์การดูหนังแดนปลาดิบ แถมยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีญี่ปุ่นเลยสักนิด แต่เท่าที่ได้ดู Our Little Sister เรื่องนี้ และเอาเท่าที่พอจำได้…. (เพราะดองรีวิวไว้เป็นวีคแล้วเพิ่งมาเขียน แฮ่~) เราชอบการเล่าเรื่องของเขานะ
มันทำให้คนที่ไม่เคยคิดไปประเทศญี่ปุ่นเลยอย่างเรา สนใจประเทศเขาและวัฒนธรรมเขามากขึ้น เพราะหนังทำให้เราได้รู้จักกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ในชนบทแห่งหนึ่งที่แสนจะเรียบง่าย และบรรยากาศยังกับหลุดมาจากสมัยโบราณ ภาพสีสวยยังกับใส่ฟิลเตอร์ฮิปสเตอร์ องค์ประกอบทุกอย่างก็ดู traditional มากๆ คือถ้าไม่เห็นฉากที่ตัวละครบางตัวอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์ และโทรศัพท์มือถือ (ที่เห็นเป็นบางครั้งบางคราว และไม่ได้สมาร์ตโฟนจ๋าแบบที่ Bangkokers นิยมใช้) เราก็คงคิดว่า นี่ไม่ใช่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน
ต้องชมเลยว่า หนังถ่ายทอดวัฒนธรรมญี่ปุ่นออกมาได้อย่างน่าสนใจ คนดูไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด การสอดแทรกวัฒนธรรมต่างๆ ของเขาค่อนข้างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการดองเหล้าบ๊วย การใส่ชุดยูคาตะ งานศพ จนไปถึงอาหารญี่ปุ่น ฯลฯ คนที่ชอบอะไรๆ เกี่ยวกับญี่ปุ่นอยู่แล้ว น่าจะอินมากกว่าเราพอสมควร
ในส่วนที่เป็นดราม่าครอบครัว อาจจะไม่ได้มีจุดพีคอะไร ไม่มีซีนที่กระชากอารมณ์หรือทำให้เราร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่เตรียมใจไว้ตอนแรก (ตอนแรกกะเข้าไปร้องไห้เต็มที่เลยนะ) แต่โดยภาพรวม หนังเขาเล่าเรื่องดี นิ่งๆ เรื่อยๆ แต่ละมุน กลมกล่อม และอบอุ่น คือมันก็ดราม่านะ แต่มันเป็นดราม่าที่ดูเรียล มันดูเป็นชีวิตจริง จริงๆ
ย้ำว่าอบอุ่นจริงๆ :D
เราเป็นลูกคนเดียว แต่เรากลับอินกับความเป็นพี่เป็นน้องของสาวๆ ทั้งสี่คนในเรื่อง พวกเธอทำให้เรารู้สึกว่าการมีพี่น้องอยู่เคียงข้างเป็นเรื่องมหัศจรรย์ แต่ละคนอาจจะเข้มแข็งกันคนละวัน อ่อนแอกันคนละเวลา และมีอุปนิสัยใจคอ รวมถึงความชอบความถนัดที่แตกต่างกัน ที่ทำให้มีขัดใจกันบ้างในบางครั้งบางครา แต่พวกเธอก็สามารถเรียนรู้ ปรับตัว ยอมรับ และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
อย่างฉากวัดส่วนสูง ฉากเก็บบ๊วย และฉากเล่นดอกไม้ไฟ เป็นฉากง่ายๆ แต่มีพลังต่อจิตใจมาก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงการยอมรับว่าซึสึเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพวกเธออย่างแท้จริง
ซึสึอาจจะดูปรับตัวเข้ากับครอบครัวใหม่และเพื่อนใหม่ได้เป็นอย่างดี แต่ลึกๆ แล้ว เธอก็มีบางอย่างเก็บซ่อนเอาไว้ในใจ เธอรู้สึกผิดต่อพี่สาวทั้งสามเสมอมา เพราะแม่ของเธอทำให้พ่อของพวกเธอทิ้งแม่และพวกเธอไป แล้วยิ่งพี่ๆ ดีกับเธอมากแค่ไหน เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ในใจมากขึ้นเท่านั้น
แต่ซาจิ, โยชิโนะ, และ จิกะ กลับไม่คิดอย่างนั้นเลยสักนิด พวกเธอมองว่ามันไม่ใช่ความผิดของซึสึเลย เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ซึสึยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ เธอไม่จำเป็นต้องมารับกรรมที่เธอไม่ได้ก่อ
การมาอยู่ของซึสึเองก็ไม่ได้ทำให้ครอบครัวของสามพี่น้องแย่ลงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ซึสึทำให้อะไรๆ ในบ้านดีขึ้น โดยที่ตัวเธอเองก็คงไม่รู้ตัว การมีอยู่ของซึสึทำให้ซาจิต้องตั้งคำถามกับตัวเองใหม่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มนั้นควรหยุดแค่นี้หรือเดินไปต่อ นอกจากนี้ การมีอยู่ของซึสึยังทำให้โยชิโนะกับจิกะ ซึ่งปกติจะเป็นสาวน้อยลัลล้า ได้โตขึ้นอีกขั้น โดยเฉพาะจิกะ ซึ่งเป็นน้องนุชสุดท้องมาทั้งชีวิต ก็ต้องโตขึ้น เพราะตอนนี้เธอมีน้องเล็กกว่าให้เธอคอยดูแลแล้ว
ส่วนการจากไปของพ่อตอนที่ทิ้งทุกคนไปแต่งงานใหม่ กับการจากไปของแม่ที่ทิ้งลูกๆ ให้อยู่กันเองโดยลำพัง อาจจะเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับพวกเธอในระยะแรกๆ โดยเฉพาะพี่สาวคนโตอย่างซาจิที่ชีวิตวัยเด็กที่พึงถูกขโมยไป ต้องรีบโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัยอันควร เพราะเธอต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาวทั้งสอง (เช่นเดียวกับซึสึที่ต้องทำอะไรเองตั้งแต่เด็กเช่นกัน) แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งเหล่านั้นมันก็ทำให้เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง และได้เรียนรู้อะไรมากกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน
มันคงจะจริงที่ว่า… การจากไป และการเข้ามา ของใครสักคน ล้วนมีความหมายและมีเหตุผลในตัวของมันเสมอ… สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ยอมรับซึ่งกันและกัน และมองโลกตามความเป็นจริง …นี่แหละชีวิต…
ป.ล. นักแสดงสาวทั้งสี่คน สวยและน่ารักทุกคนเลยยยยย ชอบบบบ
38 comments
เรื่องนี้ผมจัดไป 5 รอบบ ในโรง 2 ที่บ้าน 3 ชอบตัด บอกเลยเป็นหนังที่ผมยกให้อันดับ 2 รองจาก insdie out ปี 2015 10/10