หนังชื่อยาวที่สุดแห่งปี Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children ของ Tim Burton (ผู้กำกับ Sweeney Todd, Alice in Wonderland, Charlie and the Chocolate Factory ฯลฯ) สร้างจากนิยาย YA ชื่อเดียวกัน ของ Random Riggs
เรื่องย่อ Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children
Jake (Asa Butterfield จาก Hugo, Ender’s Game, X+Y) เดินทางไปเกาะ Wales กับพ่อของเขา (Chris O’Dowd จาก Thor) เพื่อไปสถานสงเคราะห์เด็กพิเศษที่ปู่ Abe (Terence Stamp จาก Star Wars) ของเขาเติบโตมาตามคำสั่งเสียก่อนที่ปู่จะเสียชีวิตอย่างปริศนา ที่สถานสงเคราะห์ Jake ได้พบกับเด็กพิเศษตามคำบอกเล่าของปู่ ตั้งแต่…
- Emma ผู้ควบคุมอากาศและลอยได้ (Ella Purnell จาก Kick-Ass 2)
- Enoch ผู้บังคับหุ่นเชิดได้ด้วยหัวใจ (Finlay MacMillan)
- Olive ผู้เสกไฟได้ (Lauren McCrostie)
- Millard มนุษย์ล่องหน (Cameron King)
- Bronwyn สาวน้อยจอมพลัง (Pixie Davies)
- Fiona ผู้ควบคุมพืช (Georgia Pemberton)
- Claire เด็กที่มีปากขนาดใหญ่ที่ด้านหลังหัว (Raffiella Chapman)
- Huge มนุษย์ผึ้ง (Milo Parker)
- Horace เด็กผู้ฉายนิมิตทั้งความฝันและอนาคตได้ (Hayden Keeler-Stone)
- และฝาแฝด ผู้ต้องคลุมหัวตลอดเวลา (Joseph Odwell & Thomas Odwell)
ซึ่งที่นี่เอง Jake ได้พบว่า ทุกคนคือเพื่อน ๆ ของปู่ของเขาที่วนลูปอยู่ที่นี่ ไม่แก่ ไม่ตาย มาตั้งแต่ 3 ก.ย. 1943 ด้วยพลังของ Miss Peregrine (Eva Green จาก 300: Rise of an Empire) ครูใหญ่ของบ้านเด็กพิเศษแห่งนี้
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children
เราไม่เคยอ่านและไม่เคยรู้จักนิยายต้นฉบับ Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children มาก่อน แต่ชื่นชม Tim Burton ที่เนรมิตโลกแฟนตาซีจากตัวหนังสือปลายปากกาของ Random Riggs ได้ออกมาสวยเกินจินตนาการอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะบ้านหรือเครื่องแต่งกายสไตล์วิกตอเรียนของเด็กประหลาด เด็กประหลาดแต่ละคนก็ได้รับการกระจายบทมากน้อยอย่างเหมาะสม โดยได้มีโอกาสโชว์พลังและความน่ารักตั้งแต่ยังไม่ถึงช่วงไคลแมกซ์หรือช่วงที่ต้องต่อสู้กับตัวร้าย (โดยส่วนตัวประทับใจหนูจิ๋วจอมพลังสุดละ lol)
หนังแบ่งเป็นสามช่วง ช่วงแรกคือช่วงก่อนที่ Jake จะเดินทางมายังบ้านเด็กประหลาด ซึ่งช่วงนี้แอบเนือย ๆ ปูเรื่องยืดไปหน่อย หนังเริ่มมาสนุกขึ้นมาเอาช่วงที่สอง คือช่วงที่ Jake เข้ามาในบ้าน ดูชีวิตประจำวันอันวนลูปและได้รู้จักกับเพื่อน ๆ ที่มีพลังแตกต่างกัน ซึ่งดูได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ และช่วงสุดท้ายคือช่วงที่เด็ก ๆ ต้องสู้กับพวก Bad Peculiar ซึ่งก็ทำฉากแอ็คชั่นได้ดีในสไตล์หนังเด็กของ Tim Burton
เนื่องจากเด็กประหลาดในเรื่องมีพรสวรรค์อย่างมนุษย์กลายพันธุ์ ขณะดู Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children มันจึงให้ความรู้สึกที่ว่าเหมือนเรากำลังดู X-Men เวอร์ชั่นเด็กอยู่ เพิ่มเติมคือโลกของ Miss Peregrine (Eva Green) นั้นมีการย้อนเวลาหรือวนลูปเวลาทุกวัน ๆ มาตั้งแต่ปี 1943 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เราเชื่อว่ามันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คนเขียนหนังสือเลือกให้วันที่บ้านเด็กประหลาดต้องวนลูปอยู่ที่นี่ตลอดกาลเป็นวันที่นาซีทิ้งระเบิดลงที่เกาะแห่งนี้ (3 ก.ย. 1943) และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขาเรียกอสูรกายตัวร้ายที่ไล่ล่าเด็กประหลาดว่าพวก “Hollowgast” ซึ่งคล้องกับคำว่า Holocaust หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า ปู่ของ Jake และเด็กประหลาดทุกคนในบ้าน Miss Peregrine เป็นสัญลักษณ์ของชาวยิว
Samuel L. Jackson รับบทเป็นหัวหน้าตัวร้ายอีกครั้ง แต่คาแรกเตอร์ของเขาจึงอาจไม่ถึงกับเป็น Hitler ซะทีเดียว เพราะ Tim Burton ให้โอกาสเขาได้แสดงความเพี้ยนสุด ๆ ตามสไตล์ของเขาทั้งสองคน ดังนั้นช่วงองก์สุดท้าย เราจะได้ตลกกับ “ความ Samuel L. Jackson“ จนลืมไปเลยว่าจริง ๆ แล้วพลังของ Barron ตัวละครตัวนี้นั้นแข็งแกร่งไม่ธรรมดา
ส่วนตัวละคร Miss Peregrine ก็เหมือนครูใหญ่ เหมือนขุ่นแม่ ที่ต้องการปกป้องลูก ๆ ให้ปลอดภัยที่สุดราวกับไข่ในหิน ซึ่ง Eva Green ก็แสดงได้สง่าและมีจริต ส่วนตัวละคร Jake เหมือนมาสอนให้เด็ก ๆ ใช้พลังอย่างฉลาดและกล้าหาญ ซึ่งทำให้เด็ก ๆ รู้ว่าบางครั้งความกล้าหาญ (bravery) ก็สำคัญกว่าความปลอดภัย (safety) ซึ่งเราเฉย ๆ กับ Asa Butterfield ในเรื่องนี้ (ทั้ง ๆ ที่ปกติเราชอบน้องนะ) รู้สึกบทมันเด็กเกินไปสำหรับน้องอย่างบอกไม่ถูก
การเล่าเรื่องอาจจะไม่สมูธ แต่ไม่ถึงกับทำให้ดูไม่สนุก แต่เราแค่รู้สึกว่า หนังมันน่าจะสนุกมากยิ่งขึ้นนะถ้าเขาไม่รีบเล่ารีบตัดจนเกินไป ซึ่งคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนอย่างเราอาจจะไม่ได้เข้าใจดีเทลบางอย่างทะลุปรุโปร่ง คือโอเค จะบอกว่ามันดูรู้เรื่องมันก็ดูรู้เรื่องแหละ แต่ที่เป็นปัญหาหนักสุดคือตอนจบหรือบทสรุปนี่แหละ ดูรวบรัดตัดตอนจนเริ่มเละเทะอย่างน่าเสียดาย… คือถ้าตั้งใจทำดี ๆ หรือขยายจุดนี้ให้หนังยาวขึ้นอีกสัก 10-15 นาที คงมีคนดูหลายคนอินกับตอนจบมากกว่านี้
โดยสรุป Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children เป็นหนังที่เด็ก ๆ น่าจะชอบ ส่วนผู้ใหญ่ต้องกะไปดูเอาเพลิน ๆ เหมาะกับแฟน Tim Burton, แฟนหนังสือ, หรือคนที่ชอบดูพลังเว่อร์วังแบบ X-Men หรือพ่อมดแม่มด สำหรับเรา เราโอเคเลยนะ ไม่ดีไม่แย่จะติดใจก็แค่ตอนจบอย่างเดียวนั่นแหละที่ไม่โอเค โดยรวมก็ดูสนุกได้เพลิน ๆ คิดว่าดีกว่าหนัง Tim Burton หลายเรื่องช่วงหลังมานี้
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7.5/10
Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children เข้าฉาย 29 ก.ย. 2016 ในโรงภาพยนตร์
48 comments