KWANMANIE
  • Home
  • Courses
    • All Courses
    • Essay Course for Admissions
    • Private Essay Course
    • SOP & Essay Editing Service
  • Films
    • Movie Reviews
    • Series
  • Books
    • Nonfiction
      • Self Improvement Books
      • Relationship Books
    • Fiction
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Productivity
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • Study
    • How to Write a Statement of Purpose (SOP)
    • English Writing
    • General
  • About Me
    • Where to Find Me
Follow
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Pinterest
  • YouTube
Social Links
Instagram 5K Follow
Twitter 11K Follow
Facebook 10K Like
YouTube 7K Subscribe
TikTok
KWANMANIE
Follow
Follow
Like
Subscribe
KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Films
    • Movie Reviews
    • Series
  • Books
    • Nonfiction
    • Fiction
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Productivity
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • Study
  • About Me
    • Where to Find Me
  • Self Improvement Books
  • Relationship Books
  • Films
  • Movie Reviews

รีวิว Wonder: อ็อกกี้ เด็กชายมหัศจรรย์

  • December 6, 2017
  • kwanmanie
Total
1
Shares
1
0
0

“When given a choice between being right and being kind, choose kind,”

ภาพยนตร์เรื่อง Wonder ที่เรารอคอยมานานนี้ กำกับโดย Stephen Chbosky ผู้ซึ่งสร้างหนังจากหนังสือนิยายที่ตัวเขาเองเขียนเอง (ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาคือ เป็นผู้เขียนและผู้กำกับเรื่อง The Perks of Being a Wallflower อีกทั้งยังเขียนบท Beauty and the Beast ฉบับภาพยนตร์คนแสดงล่าสุดด้วย)

Wonder มีเด็กชายวัย 10 ขวบ Auggie Pullman (Jacob Tremblay จาก Room) เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง เขาเหมือนเด็กทั่วไปที่ชอบเล่นเกม กินไอติม และบ้า Star Wars แต่เขาเพียงหน้าตาไม่เหมือนคนอื่นตั้งแต่กำเนิดด้วยความผิดปกติทางยีน ทำให้ Isabel (Julia Roberts จาก Notting Hill) กับ Nate (Owen Wilson จาก Midnight in Paris) ผู้เป็นแม่และพ่อของเขา ต้องประคบประหงมเขาเป็นพิเศษ

แต่เล็กจนโต Auggie ต้องเป็นเด็กโฮมสคูล โดยมีแม่เป็นคนสอน แต่พอจะขึ้น ป.5 แม่กับพ่อก็ตัดสินใจส่งเขาเข้าโรงเรียน เขาต้องโดน bullied โดยเด็กบ้านรวย Julian (Bryce Gheisar จาก A Dog’s Purpose) มิหนำซ้ำที่รร.ยังไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาเพราะมองเขาเป็นโรค เป็นตัวประหลาด แต่ครูใหญ่ Mr. Tushman (Mandy Patinkin จาก Homeland) ได้ให้เด็กนร.ทุน Jack Will (Noah Jupe จาก Suburbicon) คอยมาอยู่เป็นเพื่อนเขา

Auggie ประสบปัญหาที่โรงเรียน จนพ่อแม่ต้องวิ่งเต้นเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาละเลยความสำคัญของ Via (Izabela Vidovic จาก Homefront) ลูกสาวคนโตยิ่งขึ้นไปอีก (จากที่ปกติก็ค่อนข้างละเลยอยู่แล้ว) เปิดเทอมมา Via มีปัญหากับเพื่อนสนิทอย่าง Miranda (Danielle Rose Russell จาก Pandemic) แต่ก็ไม่ได้เอาปัญหานี้มาเล่าให้ใครที่บ้านฟัง เธอตัดสินใจเข้าชมรมการแสดงกับ Justin (Nadji Jeter จาก The 5th Wave) เพื่อนใหม่ของเธอ

การตัดสินใจส่ง Auggie เข้าเรียนที่ a traditional school เป็นการตัดสินใจที่ดีของพ่อแม่ของเขา เพราะถ้าอยากให้ Auggie เป็นเด็กปกติ ก็ต้องเลี้ยงเขาอย่างเด็กปกติให้ได้ สุดท้าย Auggie ไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อยหรือมีปัญหาในชีวิต หากแต่คนที่หน้าตาปกติคนอื่น ก็ล้วนต้องการความใส่ใจดูแลไม่แพ้กัน อย่างเช่น Via หรือกระทั่งหมาแก่ในบ้าน

การเล่าเรื่องของ Wonder ไม่ได้เล่าจากมุมของ Auggie แต่เพียงคนเดียว แต่ยังเล่าจากมุมมองของเด็ก ๆ คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบวงโคจรของ Auggie ด้วย ได้แก่ Via, Miranda, และ Jack Will (เสียดายที่ไม่มีจากมุมของ Julian ซึ่งเป็นตัวละครที่เราแอบเกลียดและแอบสงสารในตัวเขาพร้อม ๆ กัน)

เด็ก ๆ ทั้งหลายเรียนรู้ เติบโต และเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กับ Auggie จากการมาเยือนหรือการมีอยู่ของ Auggie ดั่งเช่นทฤษฎีการหักเหของแสง (Refraction) ที่ว่า “การหักเหของแสงเกิดจากการที่แสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นต่างกันเป็นผลทำให้ทิศทางของแสงเปลี่ยนแปลงไปด้วย” กล่าวคือ Auggie เปรียบเสมือนตัวกลางที่ทำให้แสงหรือคนอื่น ๆ เปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนทิศทางนั่นเอง

ถึงแม้หนังเน้นเล่าจากมุมมองของเด็ก ๆ ไม่ได้เล่าจากมุมผู้ใหญ่เลย แต่เราก็เห็นความสำคัญของผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการเติบโตของเด็ก เช่น Julian เด็กที่เกิดมาเพรียบพร้อมทั้งเงินทองและความมีรูปเป็นทรัพย์ แต่กลับมีนิสัยไม่ดี ชอบ bully และดูถูกคนอื่น ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ในขณะที่ Auggie ซึ่งเป็นเด็กที่ใคร ๆ ก็มองว่าอัปลักษณ์ เขากลับเติบโตมาเป็นเด็กดี น่ารัก และฉลาดเฉลียว เพราะพื้นฐานครอบครัวของเขาเลี้ยงดูด้วยความรัก ความอบอุ่น และความเข้าใจ

นอกจากสถาบันครอบครัวแล้ว สถาบันการศึกษาก็มีส่วนช่วย เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเด็กวัยเรียนก็อยู่ที่โรงเรียนมากกว่าที่บ้าน Auggie โชคดีที่มีครูใหญ่ที่ดีมาก ครูประจำชั้นก็ดี ครูสอนวิทยาศาสตร์…วิชาที่เขาชอบที่สุด…ก็ดี อย่าง Julian เนี่ย ถึงแม้เขาจะมีพ่อแม่ที่สอนไม่ดี แต่เขายังพอมีส่วนดีอยู่ลึก ๆ ที่ได้จากครูเหล่านี้ที่โรงเรียน หากเขาไม่ได้เรียนที่รร.นี้กับครูเหล่านี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะโตไปเป็นคนอย่างไรได้อีก

สังคมรอบข้าง โดยเฉพาะเพื่อน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้คนคนนึงอยากมีชีวิตต่อไป หรืออย่างน้อยก็อยากไปโรงเรียน และไม่รู้ว่าผู้เขียนตั้งใจหรือเปล่า ตัวละครที่เป็นแรงผลักดันเบื้องหลังของตัวละครหลักล้วนแต่เป็นคนผิวสี ตั้งแต่ครูประจำชั้น Mr. Browne (Daveed Diggs) และ Summer (Millie Davi) เพื่อนร่วมชั้นของ Auggie รวมถึง Justin เพื่อนใหม่ที่ชมรมการแสดงของ Via

ประเด็นสำคัญของเรื่องมีหลายประเด็น แต่หลัก ๆ สำคัญเราคือการยอมรับในตัวเอง และยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน โดยเฉพาะเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ง่าย ๆ ถึงแม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้ หรือจะมีบางอย่างที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายแล้ว เราก็เป็นคนเหมือนกัน นอกจากนี้เราไม่จำเป็นต้องพยายามเป็นคนอื่นเพื่อให้ใครมายอมรับ (เช่น Jack ที่ต้องพยายามเป็นเด็กไม่ดีในบางครั้ง เพื่อที่จะได้มีที่นั่งในแก๊งเด็กผู้ชาย) แต่ก็นั่นแหละ อย่างแรกเลยคือ เราก็ต้องยอมรับตัวเองให้ได้ก่อนที่จะให้ใครมายอมรับเรา

โดยสรุป หนังเรื่องนี้เป็นหนัง coming-of-age ที่เราชอบและคิดว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบปี นักแสดงเด็กและผู้ใหญ่ทุกคนก็แสดงดีหมดเลย หนังมีคำคมและข้อคิดมากมายที่เราประทับใจ ชอบจนอยากจะกลับเข้าไปดูในโรงอีกครั้งเพื่อซึบซับ เก็บรายละเอียด หรือจดจำ quote เหล่านั้นอีกสักหน่อย ฟีลลิ่งต่าง ๆ ทุกวินาทีของหนัง ไม่ว่าจะสุขทุกข์ฮาเศร้า เราก็อยากเข้าไปสัมผัสและรู้สึกมันอีกครั้ง เพราะมันดีต่อใจ ดูแล้วอิ่มมาก ฟีลกู้ดและแฮปปี้มากจริง ๆ (ยังนึกไม่ออกจริง ๆ นะว่าใครบ้างที่ดูแล้วจะไม่หลงรักหนังเรื่องนี้และเด็ก ๆ เหล่านี้)

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 9/10 ฉายจริง 7 ธ.ค. 2017

Share this:

  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)

Related

Total
1
Shares
Share 1
Tweet 0
kwanmanie

Movie Blogger | Essay Tutor

27 comments

Comments navigation

Newer comments
  1. Pingback: best truck decals
  2. Pingback: review video
  3. Pingback: poker99
  4. Pingback: thethao tructuyen
  5. Pingback: w88
  6. Pingback: http://www.cialisis.org/
  7. Pingback: qiuqiu99
  8. Pingback: fowling las vegas
  9. Pingback: Klik Dokter
  10. Pingback: Savannah

Comments navigation

Newer comments

Comments are closed.

Trending Posts
  • รีวิว Snow White: สโนไวท์ 2025
    รีวิว Snow White: สโนไวท์ 2025
  • Homepage
    Homepage
  • รีวิวการ์ตูนอะนิเมะญี่ปุ่น Your Name: หลับตาฝันถึงชื่อเธอ
    รีวิวการ์ตูนอะนิเมะญี่ปุ่น Your Name: หลับตาฝันถึงชื่อเธอ
  • สรุปหนังสือ MANIFEST: 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา
    สรุปหนังสือ MANIFEST: 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา
  • รีวิว The Covenant: ทหารเมกัน ล่ามอัฟกัน และตาลีบัน
    รีวิว The Covenant: ทหารเมกัน ล่ามอัฟกัน และตาลีบัน
Follow Me
  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
Contact
Bangkok, Thailand
LINE ID: @kwanmanie
kwanmanieisworking@gmail.com
ABOUT KWANMANIE

ขวัญ จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นบล็อกเกอร์ ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ ซื้อกระเป๋า เลี้ยงแมว เลี้ยงต้นไม้ และเป็นติวเตอร์ เน้นสอน Essay Writing

KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Films
  • Books
  • Lifestyle & Perspective
  • Study
  • About Me
Movie Blogger | Essay Tutor

Input your search keywords and press Enter.