Zootopia เป็นแอนิเมชั่นที่ดีที่สุดในศตวรรษ (หรือที่ในหนัง ใช้คำว่า “Zootennial“) ตอบโจทย์ทั้งความบันเทิง สนุก สร้างสรรค์ และเนื้อหาทรงคุณค่า เป็นหนังที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ควรดู เพื่อปลูกฝังชุดความคิดและทัศนคติเชิงบวกในการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างในสังคม (ในหนัง ใช้คำว่า “Zoogether”)
ถึงแม้ Zootopia 2 จะห่างจากภาคแรกเกือบ 10 ปี แต่หนังก็ทำออกมาคุ้มค่าสมการรอคอย เดิมที่เราชอบ world building ของสังคมสัตว์ Zootopia อยู่แล้ว ภาคนี้เขาก็ขยายพื้นที่ พาคนดูไปดูของเล่นใหม่ ๆ และเห็นโซนที่ยังไม่เคยเห็นในภาคก่อน ในส่วนของคาแรกเตอร์ของสัตว์ ทั้งสัตว์เดิมและสัตว์ใหม่ ก็มีการต่อยอด ทั้งหมดยังคงความสร้างสรรค์ สดใหม่ ตื่นตาตื่นใจ และน่ารักมาก ๆ ๆ ๆ อยู่ นอกจากนี้ เรายังชอบการเล่นคำหรือครีเอทคำเฉพาะของเขา เช่น คำว่า Zootennial และ Zoogether ที่ล้อมาจากคำว่า “Centennial” กับ “Together” ตามลำดับ
แก่นสาระสำคัญของหนังยังคงเดิม คือย้ำประเด็นความแตกต่างหลากหลาย (diversity), การเหมารวม (stereotyping), การแบ่งแยก (discrimination), จนถึงชนชั้นทางสังคม (social class) ซึ่งเป็นเรื่องที่จริง ๆ คือยิ่งใหญ่ ซับซ้อน แต่หนังทั้งสองภาคทำออกมาได้ย่อยง่าย เข้าใจง่าย และที่สำคัญคือ ครบรส ฉากแอ็คชั่นไล่ล่าก็ตื่นเต้น มุกตลกก็ตลกน่ารัก สนุกมากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว)
ในตอนจบของภาคที่แล้ว กระต่ายและจิ้งจอก อย่าง Judy Hopps (Ginnifer Goodwin) กับ Nick Wilde (Jason Bateman) พิสูจน์ตัวเองจนได้รับการยอมรับให้เป็นตำรวจได้แล้ว สังคมดูเหมือนจะลดกำแพงของการจำกัดบทบาททางสังคมลง แต่ถึงกระนั้น ในภาคนี้ พวกเขาก็ยังต้องพยายามหนักมากที่จะทำให้เพื่อน ๆ ตำรวจเช่น ควาย เสือ แรด ฮิปโป ม้าลาย รวมถึงสารวัตร Bogo (Idris Elba) เชื่อมั่นและยอมรับในความสามารถอย่างแท้จริง นอกจากนี้ นิสัยที่แตกต่างกันสุดขั้วของคู่หูดูโอ้ Hopps & Wilde ยังเป็นอุปสรรคในการทำงานเป็นทีม และสร้างปัญหาตะกุกตะกักอยู่พอสมควร
ในภาคแรก ผู้ล่า (predators) บางกลุ่ม เช่น จิ้งจอก ถูกตีตราเหมารวมว่า เจ้าเล่ห์ หัวรุนแรง หรือควบคุมยาก ส่วนภาคนี้ ตัวร้ายของสังคมคือ สัตว์เลื้อยคลาน โดยเฉพาะงู ที่เป็นชนกลุ่มน้อยที่ถูกสังคมกลัว รังเกียจ ต่อต้าน หรือ discriminate โดยตัวละครหลักที่เพิ่มมาในภาคนี้คือ Gary De’Snake (Ke Huy Quan) ที่ต้องการเข้ามาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของบรรพบุรุษว่าถูกต้นตระกูล Lynxley บ้านแมวผู้มีอิทธิพลปล่อย fake news ว่า งูเป็นสัตว์ร้าย… อสรพิษ… ส่วนใครคิดถึงเจ้าสล็อธ ภาคนี้น้องก็ยังแวะมาสร้างสีสันอยู่เช่นกัน
ในฉากท้ายเครดิต ซึ่งถึงแม้จะออกมาในวินาทีสุดท้าย แต่ก็รู้สึกคุ้มค่าในการนั่งรอชม เพราะเป็นฉากท้ายเครดิตที่มีความน่ารักและส่งต่อไปยังภาค 3 ในอนาคต นอกจากนี้ การได้นั่งดูเครดิตหรือชื่อของทีมเบื้องหลังการสร้างแต่ละฝ่าย ๆ บนหน้าจอ และเห็นชื่อของคนที่ดูมาจากหลากหลายเชื้อชาติจริง ๆ ก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจที่หนังเรื่องนี้สนับสนุนความหลากหลายอย่างแท้จริง