Tye Sheridan เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เราตัดสินใจมาดู Voyagers ทั้งที่พอรู้อยู่ก่อนแล้วว่ากระแสวิจารณ์ของหนังออกมากไม่ค่อยสู้ดีนัก และก็อาจจะเป็นความโชคดีที่เราชอบหนังแนว YA และดิสโธเปียอยู่แล้ว (ผู้กำกับ Voyagers เอง ก็เคยกำกับ Divergent มาก่อน) เราจึงดูหนังเรื่องนี้ได้เรื่อย ๆ อย่างไม่รู้สึกทรมานหรือรำคาญมากนัก
Voyagers เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เป็นเรื่องของกลุ่มเด็ก 30 คน ที่เกิดและโตมาในแล็บ เพื่อทำภารกิจพิเศษของมนุษยชาติโดยเฉพาะ พวกเขาถูกส่งเดินทางข้ามอวกาศ และคาดหวังให้เป็นรุ่นบุกเบิกสำหรับการตั้งรกรากบนดาวดวงใหม่ ผู้ใหญ่คนเดียวที่ไปกับพวกเขาคือ Richard (Colin Farrell จาก Fantastic Beasts and Where to Find Them และ The Lobster) ผู้เป็นเสมือนทั้งพ่อ ครู พี่เลี้ยง และผู้พิทักษ์ของพวกเด็ก ๆ
เพื่อควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม เด็ก ๆ ต้องดื่มน้ำสีฟ้าทุกวัน Christopher (Tye Sheridan จาก Ready Player One) เป็นคนแรกที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับสารนั้น เขากับ Zac (Fionn Whitehead จาก Dunkirk) คู่หูของเขา เริ่มไม่กินน้ำสีฟ้า และพวกเขาก็ค่อย ๆ ปลดปล่อยสัญชาตญาณดิบของตัวเองออกมา และเริ่มมีความต้องการทางเพศต่อผู้หญิงคนเดียวกัน นั่นคือ Sela (Lily-Rose Depp จาก The King)
“Which is better: to have rules and agree or to run wild and fight?”
Voyagers เป็นหนังที่มีคอนเซ็ปต์ที่ดีเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ เช่น What makes haman human? และการชูประเด็น Nature vs. Nurture การเลี้ยงดูเด็ก จนถึงภาวะผู้นำ กฎกติกาในการอยู่ร่วมกันในสังคม และระบบการเมืองการปกครองผู้คน แต่เล่าเรื่องง่ายเกินไป คาดเดาได้ง่าย ไปไม่สุดสักทาง และตัวสตอรี่เองก็มีปัญหาหลายประการ
เริ่มตั้งแต่การตั้งใจให้สองตัวเอกเป็นขั้วตรงข้ามขาวดำมากเกินไป จนขาดมิติและพัฒนาการ ฝั่งพระเอกก็คือดี มีความคิด เคารพกฎ และคิดถึงส่วนรวม ส่วนอีกฝั่งคือร้ายสุดขั่วชั่วสุดขีดไปเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คาแรกเตอร์เผด็จการดุจได้ยีนฮิตเลอร์ผสมกับสตาลินมานี้ ส่งให้ Fionn Whitehead ซึ่งแสดงได้วอนหนามทุเรียนสุด ๆ กลายเป็น MVP ของเรื่องนี้ และแทบกลบราศีของนักแสดงรุ่นพี่อย่าง Tye Sheridan ไปโดยปริยาย
การมีอยู่ของลูกสาว Johnny Depp ก็ดูไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ นอกจากมีไว้ให้เพื่อนรักสองคนแตกหักกันตามฉบับรักสามเส้า เป็นพร็อพประกอบฉากของพระเอก และเป็นผู้ให้กำเนิดทายาทรุ่นสองต่อไป แม้ว่าจะปูแบ็คกราวนด์มาให้นางเป็นถึงหัวหน้าทีมแพทย์ แต่ระหว่างทาง ก็ไม่ได้ใช้ศักยภาพหรือความรู้ตรงนั้นเลย
ส่วนเด็ก ๆ อีก 27 คนที่เหลือ มีคนที่พอจะมีซีนอยู่อีก 5-6 คน หนึ่งในนั้นมี Isaac Hempstead Wright หรือ Bran Stark จาก Game of Thrones ที่ตอนแรกเหมือนจะมีอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ช่วงกลางเรื่องที่เขาโกลาหลกันก็เหมือนจมหายไปเลย
โดยสรุป Voyagers เป็นหนังไซไฟอวกาศที่เริ่มต้นด้วยแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์และธรรมชาติของมนุษย์ แต่เรื่องยังไม่ดีและไม่มีความน่าจดจำ แต่ทีมแคสต์ก็ดึงดูดให้มองข้ามเนื้อเรื่องและทนดูจนจบได้
Nobody chooses what they’re born into. But you have to find a way to live your life. You gotta decide what kind of person you want to be. You gotta try to be good.
