ความรักกับความสัมพันธ์คือคนละเรื่องเดียวกัน
และหนัง The Roses (ชื่อไทย: กุ-หลาบ) เป็นหนังความสัมพันธ์ ไม่ใช่หนังรัก
เรื่องย่อ The Roses
The Roses บอกเล่าเรื่องราวของคู่แต่งงาน Theo Rose (Benedict Cumberbatch จาก Doctor Strange) และ Ivy Rose (Olivia Colman จาก The Favourite) ที่ช่วงแรก ๆ ก็ดูรักกันดีและชีวิตคู่ก็เป็นไปด้วยดี จนกระทั่งชีวิตการงานอาชีพของทั้งคู่พลิกผัน
Theo จากสถาปนิกหนุ่มอนาคตไกลกลายเป็นสถาปนิกหนุ่มตกงาน และ Ivy กลายเป็นเชฟชื่อดังชั่วข้ามคืน พวกเขาจึงต้องสลับบทบาทหน้าที่ในบ้าน: Ivy เป็นฝ่ายหาเงินเข้าบ้าน ส่วน Theo ดูแลงานบ้านและเลี้ยงลูก
สักพัก วิญญาณ “ชายแท้” ในตัว Theo เริ่มทนไม่ได้ เขาอยากสวิตช์บทบาทกลับไปเป็นผู้นำครอบครัวอีกครั้ง แต่ Ivy เสนอเงินไม่อั้นให้เขาได้ออกแบบบ้านในฝันเพื่อสนองอีโก้ของตัวเอง
วิเคราะห์ วิจารณ์ The Roses
เราเสียดายและเสียใจที่ตัวเองได้มีโอกาสดู The Roses ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. 2025 แล้ว แต่ไม่มีเวลาและร่างกายก็ไม่เอื้ออำนวยให้รีบรีวิวหนังเรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้
พอได้กลับมาทบทวน เราคิดว่า The Roses คือหนึ่งในหนังที่พูดเรื่องความสัมพันธ์ได้อย่างฉลาดและเจ็บแสบที่สุดเรื่องหนึ่งในปีนี้ สอนความรักความสัมพันธ์ได้ดีมาก
บทภาพยนตร์เขียนมาอย่างดี คม ตลกร้าย และเต็มไปด้วยชั้นเชิงโดยผู้เขียนบท The Favourite และ Poor Things บวกกับพลังการแสดงของ Benedict Cumberbatch กับ Olivia Colman คือยิ่งทำให้แต่ละฉาก แต่ละมุกตลก มันขำโดยไม่ต้องพยายาม และเจ็บโดยไม่ต้องตะโกน
ความสัมพันธ์ที่ดีไม่ควรแลกมาด้วยการเสียตัวตน
โดยส่วนตัว ปัญหามันเริ่มจาก Theo เป็น beta-male loser ที่ไม่สามารถจัดการกับอารมณ์และอีโก้ชายแท้ของตัวเองได้ เขารับไม่ได้ที่ภรรยาประสบความสำเร็จมากกว่าทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ในขณะที่เขาล้มเหลวในชีวิตการงาน ทั้ง ๆ ที่ ในโลกนี้ มีผู้หญิงจำนวนมากยอมเสียสละ ลดละหน้าที่การงานหรือความก้าวหน้าทางอาชีพของตัวเองเพื่อครอบครัวหรือกระทั่งเพื่อสามีได้
แต่สุดท้าย ความสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องของคนสองคน ความยากลำบากหรือปัญหาที่เข้ามาคือบททดสอบและความรับผิดชอบของทั้งคู่ ถ้ามันจะพัง มันก็ควรเป็นความผิดของทั้งคู่ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
หรือถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกต่อกันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่รักแล้ว มันก็แค่ไม่รัก มันไม่ได้แปลว่าเกลียด เพราะ “รัก” กับ “เกลียด” มันไม่ใช่คำตรงกันข้ามกัน
และในความสัมพันธ์ที่ดี มันไม่ควรต้องมีใครต้องเสียสละตัวตน ความฝัน หรือคุณค่าในตัวเองเพื่อรักษาความสัมพันธ์ไว้ ต่อให้จะมีลูก มีบ้าน หรือมีพันธะอะไรร่วมกันหรือไม่ก็ตาม
เพราะความสัมพันธ์ที่กดทับกันและกันไว้ มันก็เหมือนแก้วที่ร้าว ก็คือแก้วที่รอเวลาแตก ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็คงเลิกหรือแยกทางกันอยู่ดี ซึ่งการเลิกกันหรือแยกทางกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความล้มเหลว
ถ้าต่างฝ่ายต่างรีบตกลงแยกย้ายกันด้วยความเข้าใจ พวกเขาก็อาจจะสูญเสียแค่ “ความสัมพันธ์นี้เท่านั้น” แต่บ่อยครั้ง หลายคู่ปล่อยคาราคาซัง ยื้อกันไว้ เพราะมีสิ่งที่ “ยึดติด” หรืออยากเคลมว่า “เป็นของตน” เช่น บ้าน สมบัติของนอกกาย ฯลฯ มันก็ยิ่งเสียเวลา อีกทั้งยิ่งทำลายตัวตนหรือส่วนอื่น ๆ ของชีวิตตัวเองไปเรื่อย ๆ
และท้ายที่สุด… เราทุกคนคู่ควรกับคนที่พร้อม “ขับรถพาเราไปหาหมอหรือทำคีโมที่โรงพยาบาล” คนที่พร้อมจะดูแลกันและกันในยามทุกข์ยามสุข ไม่ใช่คนที่นั่งนับว่าใครหาเงินเข้าบ้านได้มากกว่า
หากคุณกำลังตั้งคำถามกับชีวิตคู่ ถามตัวเองว่าเรายังรักกันอยู่ไหม ยังเป็น “ทีมเดียวกัน” อยู่หรือเปล่า หรือกำลังแข่งกันอยู่อย่างเงียบ ๆ หรือเป็นแก้วร้าวที่รอวันแตก— The Roses อาจไม่ใช่หนังที่จะให้คำตอบที่สวยงามดุจพรมทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่ให้ “ความจริง” ที่เราทุกคนควรได้เห็นก่อนจะสายเกินไป