จากเรื่องผีสุดฮอตที่เล่าขาน ทั้งบน Pantip และ The Ghost Radio ของคุณ กิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ ลูกชายของเจ้าของเรื่อง รวมถึง นิยายขายดี “ธี่หยด… แว่วเสียงครวญคลั่ง” ของ กฤตานนท์ (นามปากกาของคุณ กิตติศักดิ์) สู่ภาพยนตร์ “ธี่หยด” ผลงานการกำกับของ ทวีวัฒน์ วันทา (จาก ทองสุก 13) อย่างสมศักดิ์ศรี “หนังไทยเรื่องแรกที่ฉายในโรง IMAX เต็มรูปแบบ”
ตำนาน ธี่หยด เกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2515 ครอบครัวนี้ประกอบไปด้วย ยักษ์ (ณเดชน์ คูกิมิยะะ) ทหารที่ปลดประจำการมาช่วยพ่อและแม่ (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ และ เฟรช-อริศรา) ทำงานไร่ที่บ้าน ยักษ์มีน้อง 5 คน ได้แก่ ยศ (จูเนียร์-กาจบัณฑิต), ยอด (เฟรนด์-พีระกฤตย์), หยาด (เดนิส เจลีลชา คัปปุน), แย้ม (มิ้ม-รัตนวดี) และ ยี่ (นีน่า-ณัฐชา) จากนั้นก็อย่างที่หลายคนรู้กันอยู่แล้ว แย้ม มีอาการป่วยประหลาด และเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เหมือนถูกผีเข้า!
จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่คุณ กิตติศักดิ์ เล่าต่อจากคุณแม่ของเขาอีกที หนังจึงกึ่งเล่าจากมุมมองของตัวละคร หยาด (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) แต่ในขณะเดียวกัน หนังก็ต้องการขาย “Star Power” ของ ณเดชน์ คูกิมิยะ ทำให้หนังก็ต้องชูตัวละคร ยักษ์ พี่ชายคนโตของบ้าน เป็นตัวเด่น เป็นตัวเดินเรื่องและเป็นศูนย์กลางของเรื่อง

การ rely on หรือโคจรรอบตัว ณเดชน์ มากเกินไปถือเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของหนังในเวลาเดียวกัน อย่างแรกเลย “เรื่องเล่า” หรือ “ตำนาน” มันมีความขลังน้อยลง คนดูต้องตามแรงขับเคลื่อนของตัวละคร ยักษ์ มากกว่าผีหรือตัวละครอื่น ๆ อย่างเช่น คนเล่าเรื่อง (หยาด) หรือคนถูกสิง (แย้ม) แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
จุดอ่อนที่สำคัญของหนังคือ ตัวละครยังขาด ๆ เกิน ๆ ปมความสัมพันธ์ของครอบครัว เช่น ความตึงระหว่าง ยักษ์กับยศ หรือระหว่าง พ่อกับลูก ๆ ที่มี potential มากพอที่จะเป็นจุดแข็งของหนังได้ก็ไม่ได้ถูกใช้งานหรือมีพัฒนาการอย่างที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ยังไม่นับที่ต้องพยายามแคสต์นักแสดงที่มาเล่นเป็นน้อง ๆ ของ ณเดชน์ ให้มีความติด “ฝรั่ง” คล้าย ณเดชน์ มากกว่าจะคล้ายพ่อคล้ายแม่ ซึ่งเหมือนควรจะมีเชื้อสาย “จีน” (สังเกตจากหน้าพ่อ และสรรพนาม “เฮีย” / “เจ้” ที่เด็ก ๆ ในเรื่องเรียกกัน)
อย่างไรก็ดี หนังฉลาดที่ไม่ได้มาเน้นขายความหลอนหรือสยองตามรอยนิยายหรือเรื่องเล่าแบบเต็มร้อย แต่เลือกเพิ่มดีกรีความแอ็คชั่นและความบ้าคลั่งเข้ามา เออ… ผีมึงโหดนักใช่มั้ย กูเขียนให้ ยักษ์ บ้าเลือดกว่า กลายเป็นคนกับผีสู้กันตาต่อตาฟันต่อฟัน และมีหมอผีอาคมมาช่วยด้วยนิดหน่อย โดยหนังใช้จุดแข็งของความ cinematic เข้ามาใช้อย่างคุ้มค่าจัดหนัก โดยซาวนด์นี่ถือเป็นจุดเด่นของหนังมาก ๆ อย่างตอนที่มีเสียงผีกระซิบเป็นเสียงเหมือนบทสวดมนต์นี่ซาวนด์ก้องกังวานจนชวนขนลุกเหมือนตัวเองกำลังถูกสะกดจิตตามไปด้วยจริง ๆ (นี่ขนาดเราไม่ได้ดูในโรง IMAX นะเนี่ย) มันเลยยิ่งทำให้ช่วงที่เครื่องติดแล้ว โคตรลุ้น โคตรตื่นเต้น และสนุกจนเราไม่อยากให้จบ
ถ้าไม่ติดว่าหนังต้องพยายามเทบทให้ ณเดชน์ มากเกินไป เราเชื่อว่า หนังอาจจะทำได้สุดกว่านี้ได้อีก แต่ถึงกระนั้น ธี่หยด ก็ยังเป็น “หนังไทย” ที่มีความเป็นสากล เรายกให้ “สอบผ่านฉลุย” เรื่องหนึ่งแห่งปี และสำหรับมาตรฐาน “หนังผี” เรายิ่งกล้าเชียร์เลยว่า นี่เป็นหนังผีที่ดูสนุกที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบปี และสู้กับหนังผีฝรั่งได้สบายมาก โดยส่วนตัว เราชอบมากกว่าหนังหลาย ๆ เรื่อง หลาย ๆ ภาคในจักรวาล The Conjuring เสียอีก
ป.ล. ขอขอบคุณค่ายหนังที่แจกหนังสือการ์ตูน “ปฐมบท” ของตำนานธี่หยดก่อนเข้าชมหนังในรอบสื่อ ทำให้เราเข้าใจผีและที่มาที่ไปของเรื่องมากขึ้นด้วยค่ะ