ตอนที่หนัง M3gan ภาคแรกเข้าฉายเมื่อต้นปี 2023 เอไออย่าง ChatGPT ยังไม่ “ฉลาด” เท่าทุกวันนี้ (โดยเฉพาะภาษาไทย) แต่หนังก็สามารถเล่าประเด็น parenting ในยุคเทคโนโลยีได้อย่างหลักแหลม และเราก็ถือว่า หนัง “มาก่อนกาล” ประมาณหนึ่ง เพราะทุกวันนี้ เด็กหลายคนรู้สึกสบายใจที่จะคุยหรือขอคำปรึกษากับ ChatGPT มากกว่าคุยกับพ่อแม่แล้วจริง ๆ
เราชื่นชอบ M3gan ภาคแรกในฐานะหนังสยองขวัญที่พล็อตไม่กลวง แต่ M3gan 2.0 (2025) ที่ควรจะ “อัปเกรด” กลับทำให้เรารู้สึกเหมือน “ดาวน์เกรด” หรือถอยหลังกลับไปยุค The Terminator และยังไม่นับที่พยายามจับหุ่นยนต์พี่เลี้ยงเด็กไปเป็นสายลับทำภารกิจเว่อร์วังสไตล์ Mission Impossible อีกต่างหาก
ทำไมหุ่น M3gan ถูกอัปเกรดให้ล้ำขึ้น
แต่ตัวหนังดันดาวน์เกรดให้ต่ำลง?
ทำไมหุ่น M3gan ถูกอัปเกรดให้ล้ำขึ้น แต่ตัวหนังดันดาวน์เกรดให้ต่ำลง?
- อาจเพราะ M3gan เป็น “ผู้ใหญ่” ขึ้น และมี “moral code” มากขึ้น ชีวิตเลยสนุกน้อยลง เหมือนมนุษย์เรา?
- อาจเพราะหนังพยายาม “เล่นใหญ่” ขึ้น ยาวขึ้น พล็อตรุงรังขึ้น จนสุดท้าย “คุมสเกลไม่อยู่” เหมือนมนุษย์ที่พยายามคอนโทรล AI หรือใดใดที่เกินตัว แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ด้วยข้อจำกัดของตัวเอง
เข้าใจว่าการทำให้หนังแมสขึ้น มีฉากแอ็กชันมากขึ้น มีมุกตลกมากขึ้น (โดยเฉพาะ ซับไทยที่แปลได้จริตกะเทยมากแม่) หรือการอัด pop culture references ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่ว่ามันไม่สนุก แต่เราก็อดเสียดายไม่ได้ที่หนังภาคนี้ หลงลืม “ตัวตน” หรือ “คุณค่าที่แท้จริง” ที่เคยทำให้เขาแจ้งเกิดและประสบความสำเร็จในภาคแรก
ถ้าในอนาคต เขามีโอกาสสร้าง M3GAN 3.0 เราก็หวังว่าเขาจะ รีโปรแกรมกลับไปตั้งหลักที่ 1.0 หรือแม้แต่ย้อนกลับไปสำรวจรากโค้ด 0110 หรือ binary root ที่ทำให้ M3gan ไม่ใช่แค่ล้ำขึ้นหรือโตขึ้น แต่พัฒนา “ไปข้างหน้า” และสร้างโลกใหม่ของตัวเองได้อย่างแท้จริง