Aquaman ของ James Wan เป็นหนังเดี่ยวของฮีโร่ DC ที่กอบกู้จักรวาล DC ไว้ได้เมื่อปี 2018 แต่การสร้าง Aquaman 2 ให้ได้ผลตอบรับดีอย่างภาคแรกนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง เพราะเขาถูกรุมเร้าทั้ง COVID-19, ข่าวฉาวคดี Amber Heard นางเอกของเรื่อง ที่มีกระแสให้เปลี่ยนตัวหรือตัดเธอออกจากหนัง, และยังไม่รวมชื่อเสียจากบุคลากรอื่น ๆ จากหนังเรื่องอื่นในค่ายเดียวกันด้วยอีก
ไม่รู้ Elon Musk มีส่วนช่วยประคองทาง financial ของหนังด้วยหรือไม่ เพราะถึงแม้หนังจะพยายามลดหรือตัดทอนบทบาท Mera ของ Amber Heard แล้วไปเน้นความสัมพันธ์ระหว่าง Arthur a.k.a. Aquaman (Jason Momoa จาก Game of Thrones) กับ King Orm (Patrick Wilson จาก The Conjuring) น้องชายของเขาแทน แต่ Mera ก็ยังอยู่ดีตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ในฐานะราชินีแห่ง Atlantis และแม่ของเจ้าชายน้อย Arthur Jr. เพียงแต่ไม่ค่อยได้โชว์พลังวิเศษของเธอเท่าภาคแรก (เทรลเลอร์หนังหลอกให้เราคิดว่า ในหนังนางจะบทน้อยกว่านี้ lol) ถ้าเป็นบางเรื่องหรือบางค่าย Amber Heard ไม่น่าได้อยู่ต่อแล้ว
พูดถึงตรงนี้ก็เสียดายพลังโหด ๆ ของ Mera เหมือนกัน แล้วพอหนังยังครึ่ง ๆ กลาง ๆ ระหว่างจะให้ Amber Heard อยู่หรือไป ฉากแอ็คชั่นจึงไม่ได้จัดเต็มเท่าภาคแรก ฉากแอ็คชั่นไคลแมกซ์ก็ยังไม่ epic เท่าภาคแรก แต่โดยรวมก็ยังอยู่ในระดับที่ดูเพลินถ้าไม่ใช้สมองมากและดูภาค 3D สวย ๆ
พอหนังไม่ได้โฟกัสที่ความรักของ Arthur กับ Mera (ซึ่งภาคนี้เป็น King & Queen แล้ว) หรือคู่พ่อแม่ของ Arthur อย่าง Tom Curry (Temuera Morrison จาก Star Wars) กับควีน Atlanna (Nicole Kidman จาก The Hours) แล้วไปขายขำคู่สองพี่น้องแบบ Loki & Thor แทน ความอิมแพ็คมันก็เลยดร็อปลงจากภาคแรก และรู้สึกว่า หนังมันไม่มีอะไรใหม่ และไม่รู้สึกครีเอทแต่รู้สึกคลิเช่แทน อย่างไรก็ดี เราสัมผัสได้ว่า Jason Momoa ดูสนุกและเป็นตัวเองกับบท Aquaman มากกว่าภาคแรก และ Patrick Wilson ก็หล่อขึ้นมาก มันก็เลยยังมีความเพลิน ๆ มาถึงคนดูอยู่บ้าง
ถึงแม้สเกลทางอารมณ์และความสัมพันธ์ตัวละครจะอ่อนลง โดยเฉพาะบทของ Mera ที่ขาด ๆ เกิน ๆ และการไม่กลับมาของ Willem Dafoe ในบทอาจารย์ Vulko แต่ประเด็น Global Warming หรือ Climate Change ที่เปิดมาตั้งแต่ภาคแรกก็ยังได้รับการเน้นย้ำอยู่ โดยมี David Kane a.k.a. Black Manta (Yahya Abdul-Mateen II จาก Baywatch) ตัวร้ายจากภาคเก่ากลับมา ตามที่เราเห็นจากฉาก mid-credit ของภาคแรกว่า เขาได้ไปอยู่กับ Dr. Stephen Shin (Randall Park จาก Ant-Man and the Wasp) นักวิทยาศาสตร์ผู้คลั่งไคล้ Atlantis
โดยสรุป Aquaman and the Lost Kingdom มีข้อจำกัดหลายประการ จึงเป็นภาคต่อที่ดร็อปลง ไม่มีอะไรใหม่ ไม่ได้น่าขึ้นหิ้งหนังเดี่ยวฮีโร่ที่ปังอย่างภาคแรก แต่ถึงกระนั้น สกิลการทำหนังของ James Wan, ความอารมณ์ดีของ Jason Momoa, ความหล่อของ Patrick Wilson, และความสวยงามของภาพ 3D (ถ้าคุณดูหนังในโรง IMAX 3D) ก็พอจะประคองหนังให้ดูเพลิน ๆ หรือพอเอาบันเทิงฆ่าเวลาไปได้
