หนังสือ Talk Like TED ของ Carmine Gallo สอน 9 เทคนิคการพูด public speaking ได้กระชับ เข้าใจง่าย และนำไปใช้งานได้จริงทันที ไม่ว่าจะเป็นการพูดบนเวที การพรีเซนต์งาน การเสนอขายสินค้า-บริการ หรือการทำคอนเทนต์วิดีโอออนไลน์
ปกติเราเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดการสื่อสารผ่านการพูดและการนำเสนอ แต่ตั้งแต่บทนำ ผู้เขียนช่วยปรับมายด์เซ็ตให้เราเข้าใจในความสำคัญของสกิลนี้มากขึ้น โดยการบอกว่า ไอเดียใดใดของเราอาจเปลี่ยนเรา เปลี่ยนคนรอบข้าง หรือเปลี่ยนโลกได้ แต่ถ้าเราไม่นำเสนอไม่ดี สื่อสารไม่เป็น ไอเดียนั้นก็ไร้ค่า
📌 พิกัดหนังสือ Talk Like TED (แปลไทย) >> https://s.shopee.co.th/7AV1sMda1G
ผู้เขียนบอกว่า พรีเซนเทชั่นที่ดีต้องมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ emotional, novel, และ memorable หนังสือของเขาจึงแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทตามองค์ประกอบนั้น พาร์ทละ 3 เทคนิค รวม 9 เทคนิค
- Unleash the Master Within: ทำตามแพสชั่น มีแพสชั่นและเชื่อในสิ่งที่พูด
- Master the Art of Storytelling: ใส่เรื่องเล่าที่ personal และ emotional
- Have a Conversation: พูดให้เหมือนบทสนทนาปกติ ฝึกฝนบ่อย ๆ จนคล่องและเป็นธรรมชาติ โฟกัสคำและน้ำเสียงที่เลือกใช้ จนถึงท่าทางหรือ body language
- Teach Something New: ตกผู้ฟังด้วยข้อมูลใหม่ ๆ วิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ที่เป็นประโยชน์กับพวกเขา หรือนำเสนอเรื่องเดิมในรูปแบบใหม่
- Deliver Jaw-Dropping Moments: สร้างโมเมนต์ที่ว้าว เซอร์ไพร์ส อิมแพค น่าจดจำ กระตุ้นอารมณ์-ความรู้สึกของผู้ฟังด้วยภาพ เรื่องเล่า เดโม แขกพิเศษ หรือเฮดไลน์ ซึ่งเฮดไลน์คือสิ่งสำคัญ ต้องชัดเจน จำง่าย น่าแชร์ และช่วยให้ผู้ฟังเห็นภาพรวมก่อนดีเทล
- Lighten up: อย่าจริงจังเกินไป ควรทำให้ผู้ฟังยิ้ม หัวเราะ หรือมี positive feelings ด้วย อาจจะเป็นมุกตลก เรื่องเล่า ภาพ วิดีโอ ฯลฯ
- Stick to the 18-Min Rule: พูดกระชับ ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป ไม่นอกเรื่อง ไม่เยอะสิ่ง โฟกัสแค่ 1 main idea ที่อยากให้ผู้ฟังได้รู้หรือ take away และทำให้สิ่งสำคัญอันนั้นมันย่อยง่าย แบ่งเป็น 3 key messages โดยแต่ละเมสเซจก็มี supporting ideas เช่น สถิติ หรือตัวอย่าง อีกที
- Paint a Mental Picture with Multi-Sensory Experiences: ผู้ฟังจะจดจำ “ฟีลลิ่ง” ได้ดีกว่าเนื้อหา ดังนั้นเชื่อมโยงกับประสาทสัมผัสของพวกเขา (sight, sound, touch, taste, smell โดยเฉพาะ sight, sound, touch) โดยการเน้น storytelling มากกว่า lecturing เน้นใช้ภาพแทน texts หรือ bullet points ใช้หนึ่งพอยต์หรือหนึ่งคำต่อหนึ่งสไลด์
- Stay in Your Lane: หาทางของตัวเองให้เจอ พร้อมเหตุผลว่าทำไมจึงหลงใหลในทางนั้น อย่าเป็นคนอื่น จงเป็นตัวเอง พูดจากใจ จากตัวตนที่แท้จริง
ข้างต้นคือการสรุปเทคนิคหลัก ๆ เท่านั้น ในหนังสือ Talk Like TED ผู้เขียนมีการอธิบายจากเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือวิจัย และยกตัวอย่าง TED Talks ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริงมาชำแหละให้เห็นภาพและเข้าใจมากขึ้นด้วย ใครอยากมั่นใจในการพูดมากขึ้น พัฒนา public speaking skill ให้เก่งขึ้น ขายหรือนำเสนองานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แนะนำให้ซื้อมาอ่านเลย
📌 พิกัดหนังสือ Talk Like TED (แปลไทย)
>> https://s.shopee.co.th/7AV1sMda1G