ภาคที่แล้ว ใช้ชื่อว่า A Dog’s Purpose เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์นายท่านหมา Bailey (สุนัขทุกชาติและทุกภาคให้เสียงโดย Josh Gad ผู้พากย์เสียงเป็นสโนว์แมน Olaf ใน Frozen) กับ Ethan (Dennis Quaid) โดย Bailey ซึ่งอยู่กับ Ethan ตั้งแต่เด็ก ตายแล้วเกิดใหม่ ประมาณสามชาติ แล้วกลับมาหาและอยู่กับ Ethan ตอนแก่อีกครั้ง แต่ละขาติของหมากับคนทั้งหลาย เราก็จะเห็นเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนกันไป
ในภาคนี้ ใช้ชื่อว่า A Dog’s Journey เล่าเรื่องต่อจากภาคแรก ตอนที่ Bailey (ในร่าง St. Bernard) กลับมาอยู่บ้านไร่กับ Ethan และ Hannah ภรรยาของเขา (Marg Helgenberger) โดยมีสมาชิกเพิ่มมาคือ หลานสาวตัวน้อย CJ (Emma Volk) และลูกสะใภ้ Gloria (Betty Gilpin) ซึ่งต่อมาหอบ CJ หนีไปอยู่ที่อื่น
ก่อน Bailey ตายในชาตินี้ Ethan ได้ฝากฝัง Bailey ว่า ถ้าได้ไปเกิดใหม่ ขอให้ไปดูแลหลานรักแทนเขา ซึ่ง Bailey ก็ทำตามนั้น เขาเกิดใหม่มาเป็นหมาบีเกิ้ลตัวเมียชื่อ Molly ได้เจอกับ CJ ในวัย 11 ขวบ (Abby Ryder Fortson) CJ รับไปเลี้ยง และอยู่เป็นเพื่อนกันจน CJ เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น (Kathryn Prescott)

เช่นเดิมกับภาคที่แล้ว Bailey (ในร่างของบีเกิ้ล Molly) ก็อยู่กับ CJ ได้ถึงแค่ช่วงวัยรุ่นเท่านั้น แต่ภาคนี้ ไม่ต้องตายและไปอยู่กับคนอื่นหลายชาติกว่าจะได้กลับมาเจอ CJ อีกครั้ง โดยภาคนี้ Bailey ไปเกิดเป็นหมาของเจ้าของปั๊มน้ำมัน+ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาก็เลี้ยงแบบไม่ได้ให้ความรักความผูกพันอะไรมาก เน้นให้อาหารและที่พักที่นอนทั่ว ๆ ไป แล้วชาติต่อมา Bailey ก็เกิดใหม่เป็นหมายอร์คเชียร์เทอร์เรียตัวจิ๋วชื่อ Max และได้มาอยู่กับ CJ ในวัยทำงานที่นิวยอร์ก
รวม ๆ ภาคนี้ ไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไรมากมายจากภาคแรก ประเด็นสอดแทรกหรือข้อคิดใหม่ ๆ ก็แทบหาไม่เจอ หลัก ๆ เหมือนหนังเขาต้องการใส่เรื่องความรักสามเส้าและเฟรนด์โซนเข้ามาเยอะขึ้น
เช่นเดิมกับภาคแรก เจ้าหมา Bailey ยินดีให้เจ้ามนุษย์ของเขาลงเอย เลียหน้ากัน หรือคบกันแค่กับเพื่อน puppy love ในวัยเยาว์เท่านั้น เราจึงเดาได้ไม่ยากเลยว่า สุดท้าย Bailey จะต้องหาทางให้ CJ ลงเอยกับ Trent (Ian Chen และ Henry Lau แห่งวงซูเปอร์จูเนียร์เอ็ม) เพื่อนแถวบ้านในวัยเยาว์เท่านั้นเช่นกัน (ป.ล. พระเอกตอนหนุ่มหล่อมาก ดูจบแล้ว นี่เพิ่งรู้ว่านางเป็น K-Pop)

นอกจากนี้ ก็จะมีประเด็นความรัก-ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เช่น ระหว่าง CJ กับแม่ ซึ่งอย่างนึงที่เราเห็นด้วยก็คือ ชาวเหงาทุกคนต้องการความรักความอบอุ่นจากน้องหมา (หรือน้องแมว) ควรหาไว้ไปอยู่เป็นเพื่อนสักตัวสองตัว เพื่อให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อหรือก้าวข้ามผ่านวันที่โหดร้ายของชีวิตไปได้ และแต่ละครอบครัวก็น่าจะมีสัตว์เลี้ยงสักตัวไว้เป็นกาวใจ มันดีจริง ๆ นะ
ต้องบอกตามตรงว่า หนังแฟรนไชส์นี้มีหลายอย่างที่เราเกลียด เช่น หมาตัวเมียถูกพากย์เสียงด้วยเสียงผู้ชาย ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ หน้าตาเปลี่ยนไปแค่ไหน เพศเปลี่ยนอย่างไร มันก็ยังคงใช้เสียงเดิมที่คนเดิมพากย์, หมาที่ต้องเกิดสิบภพสิบชาติก็ยังต้องเกิดเป็นหมา ไม่เคยได้อัพเกรดหรือดาวน์เกรดให้ไปเกิดเป็นอย่างอื่น แถมยังเกิดใหม่เร็วเสียยิ่งกว่าตัวละครทั้งหลายในละครกลิ่นกาสะลอง ฯลฯ
แต่หากถามว่า ดูแล้วยิ้มมั้ย ก็ยิ้ม… ดูแล้วน้ำตาไหลมั้ย ก็ไหล… เพราะสุดท้ายยังไง ๆ มันก็มีหลายโมเมนต์ที่ทำให้ทาสหมา (หรือคนรักสัตว์ หรือคนเลี้ยงสัตว์) อย่างเรา ต้องคิดถึงนายท่านของตัวเองและก็ใจเหลวเป๋วอยู่ดี ลงเอยที่เกลียดหนังไม่ลง
ป.ล. หมาภาคนี้ตัวเล็กลงเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7/10
106 comments
Comments are closed.