พรีวิว Equals: ฝ่ากฎล้ำโลกห้ามรัก

Equals กำกับโดย Drake Doremus (จาก Like Crazy และ Breathe In) เขียนบทโดย Nathan Parker (จาก Moon) อำนวยการสร้างโดยเจ้าพ่อหนังไซไฟ Ridley Scott (The Martian, Prometheus, Alien ฯลฯ) ซึ่งล่าสุดภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลสิงโตทองคำหรือ Golden Lion, Green Drop Award, และได้รับรางวัล Soundtrack Stars Award ใน Venice Film Festival

“คุณว่าความรักในโลกอนาคตจะเป็นอย่างไร?”

เรื่องย่อ Equals

ในโลกยูโทเปีย (โลกอุดมคติในอนาคต) มนุษย์ถูกดัดแปลง gene จนกลายเป็นคนไร้อารมณ์ (คล้าย ๆ กับเรื่อง The Giver เลยอะ!) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามและความขัดแย้งที่เคยทำลายมนุษยชาติเกิดขึ้นอีก

แต่ในบางครั้งการยับยั้งก็ทำงานผิดพลาด อารมณ์ที่อยู่ภายในมนุษย์บางคนถูกแสดงออกมา รัฐบาลเรียกอาการนี้ว่า SOS (Switched On Syndrome) ผู้มีอาการ SOS จะถูกจับไปรักษาขั้นรุนแรง หรือไม่ก็ถูกส่งตัวไปที่ “ห้องนั่งเล่น” (Den) (อืม นี่ก็ฟังดูมีกลิ่น Divergent เบา ๆ นะ)

วันหนึ่ง Silas (Nicholas Hoult จาก Mad Max: Fury Road, X-Men: Days of Future Past, Warm Bodies) สัมผัสได้ว่าเขาเริ่มมีอาการ SOS และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาไม่สามารถละสายตาจาก Nia (Kristen Stewart จาก Twilight, Snow White and the Huntsman) เพื่อนร่วมงานผู้ที่กำลังซ่อนอาการ SOS อยู่เช่นกัน

เมื่อทั้งสองค้นพบความรัก พวกเขารู้สึกว่ามันคือคำสาป พยายามปฏิเสธมัน และอยากหนีมันไปให้ไกลที่สุด แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ด้วยกัน ยอมรับความจริง เพราะ แรงดึงดูดของความรักนั้นมหาศาลนัก ยิ่งทั้งสองพยายามปิดบังความรู้สึกและความสัมพันธ์มากเท่าไร ความเข้มข้นของอารมณ์ยิ่งดึงดูดพวกเขาเข้าหากัน

จนสุดท้าย เป็นเหตุให้ทั้งสองถูกส่งตัวไปยัง “ห้องนั่งเล่น” (Den) และวิธีเดียวที่จะมีชีวิตรอดก็คือ การหนีออกจาก “ห้องนั่งเล่น” (Den) สถานกักกันที่ไม่เคยมีใครได้กลับออกมา!!!

ความน่าสนใจของหนัง Equals

Equals เป็นภาพยนตร์รักเรื่องที่สามที่ผู้กำกับ Drake Doremus จะพาคนดูออกเดินทางไปสำรวจความรัก สำรวจตัวตน และความต้องการการเติมเต็มทางอารมณ์ของมนุษย์ ต่อหลังจากหนังรางวัล Sundance เรื่อง Like Crazy และ Breathe In ของเขา ภายใต้คอนเซ็ปต์…

“คุณว่าความรักในโลกอนาคตจะเป็นอย่างไร… คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่มนุษย์จะวิวัฒนาการตัวเองจนไม่เหลือความรู้สึกที่ทำให้เราเป็นมนุษย์มากที่สุด”

จากเรื่องย่อและหน้าหนัง เห็นได้ชัดว่าเป็นหนังเกี่ยวกับโลกยูโทเปีย (โลกอุดมคติในอนาคต) เน้นว่าทุกคนเท่าเทียมกัน และยังเป็นหนังไซไฟผสมหนังรัก (แถมเป็นความรักในโลกที่ไร้อารมณ์อีกต่างหาก!) ที่พิ่มความศิลป์และความเป็นสถาปัตยกรรมลงไป

ซึ่งคอหนังไซไฟจะรู้กันว่า หนังแนวนี้นี่ถือเป็นแนวถนัดของผู้อำนวยการสร้าง Ridley Scott (The Martian, Prometheus, Alien ฯลฯ) เขามาแต่ไหนแต่ไร แถมได้ Nathan Parker คนเขียนบท Moon หนังไซไฟที่บทสรุปพีคอีกหนึ่งเรื่องในตำนาน มาเขียนบทเรื่องนี้อีกต่างหาก

แต่ถึงแม้จะเป็นหนังไซไฟ เขาใช้ CG น้อยกว่าที่คิด กล่าวคือเขาเน้นใช้โลเกชั่นจริงถ่ายทำเป็นหลัก แทนที่จะถ่ายบนกรีนสกรีนแล้วใส่ CG แบบหนังไซไฟทั่วไป โดยยกกองกันไปถ่ายที่ประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ซึ่งทั้งสองก็เป็นเมืองแห่งโลกอนาคตอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในด้านสถาปัตยกรรมและสภาพแวดล้อม แต่โดยรวมเน้นถ่ายทำที่อาคารสไตล์มินิมอลในญี่ปุ่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากสถาปนิกชื่อดัง “ทาดาโอะ อันโด” เป็นหลัก

โดยโปรดักชันดีไซน์ด้านโลกยูโทเปียนี้ ออกแบบโดย Tino Schaedler นักออกแบบโปรดักชั่นที่สร้างชื่อจากผลงานชั้นยอดอย่าง Harry Potter, Charlie and the Chocolate Factory, V for Vendetta ฯลฯ

ซึ่งโดยส่วนตัว เราชอบโปรดักชันดีไซน์และฉากของหนังตั้งแต่ดูเทรลเลอร์เลยนะ โทนภาพสะดุดตามาก ชอบความขาวโพลน มินิมอล เรียบง่าย ดูเป็น future ที่ดูล้ำแต่ก็คลาสสิคสุด ๆ ส่วนคอสตูมดีไซน์ก็ขาวเท่มินิมอล และไม่ว่าจะชายหรือหญิง ก็แต่งสูทแบบเดียวกัน แสดงถึง symbolic ได้หลายอย่างมาก น่าสนใจ ๆ

ในพาร์ทของความรักนั้นก็น่าสนใจมาก ๆ หนังเรื่องนี้บอกเล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระยะยาว ความหมายของการตกหลุมรัก การฝ่าฟันอุปสรรคในความสัมพันธ์ และเมื่อถึงจุดสุดท้ายของความสัมพันธ์…เราจะทำอย่างไรให้ไม่ลืมวันที่เราตกหลุมรักกันครั้งแรก นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับการรักษาความสัมพันธ์ และแสดงให้เห็นว่าความรักคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ และสามารถเติบโตกลายเป็นสิ่งอื่นได้

ตัวละครในเรื่องถูกดัดแปลง gene จนเกือบจะเหมือนหุ่นยนต์ (แม้แต่การพูดก็พูดแบบไม่มีเสียงสูงเสียงต่ำ) แต่ก็ไม่ใช่หุ่นยนต์ หากแต่เป็นคนที่ไร้อารมณ์ ไร้ความรู้สึก และขาดความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเราเชื่อว่าสำหรับบทบาทนี้ นางเอกสาว Kristen Stewart ซึ่งแจ้งเกิดจากหนังแวมไพร์ Twilight จะต้องทำได้ดีมากแน่นอน เพราะนางเล่นเป็นตัวเองชัด ๆ (ไร้อารมณ์! ไร้ความรู้สึก!)

แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเราใน Equals คือ พระเอกของเรื่อง หรือ Nicholas Hoult นั่นเอง คนนี้นะ ถ้าเรื่องไหนเขารับบทอะไรประหลาด ๆ ที่ไม่ใช่คนสามัญปกติ บทนั้นเขาจะเปรี้ยง ตั้งแต่ Warboy ใน  Mad Max: Fury Road, Beast มนุษย์กลายพันธ์ุตัวสีน้ำเงินใน X-Men: Days of Future Past, และซอมบี้ใน Warm Bodies ซึ่งเราเคยพูดในบล็อก Mad Max: Fury Road ไปแล้วว่า เขาต้องอนาคตไกลแน่นอน

นอกจาก Kristen Stewart กับ Nicholas Hoult แล้ว ตัวละครสมทบหลักก็ใช่เล่น ๆ เพราะมี Guy Pearce (จาก Memento, Iron Man 3) และ Jacki Weaver (nominee ออสการ์จาก Silver Linings Playbook และ Animal Kingdom) ร่วมแสดงด้วย โดยทั้งสองก็รับบทเป็นผู้ป่วย SOS ทีมเดียวกับพระนาง

Equals: ฝ่ากฎล้ำโลกห้ามรัก เข้าฉาย 12 พ.ค. 2016 นี้ ในโรงภาพยนตร์