ณ เวลานี้ Glenn Close จากหนังเรื่อง The Wife เข้าชิงรางวัลแทบทุกเวทีที่เกี่ยวกับวงการภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ โดยล่าสุดเธอก็มีรายชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนังเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นการเข้าชิงลูกโลกทองคำครั้งที่ 13 ของเธอ และอีกไม่นาน… เมื่อออสการ์ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงประจำปีนี้ หลายคนก็เชื่อว่ายังไงก็ต้องมีชื่อ Glenn Close จาก The Wife ติดโผอย่างแน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็นับว่านี่จะเป็นการเข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 7 ของเธอ
The Wife เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับชาวสวีเดน Björn Runge บทภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายของ Meg Wolitzer เล่าเกี่ยวกับชีวิตคู่วัยบั้นปลายของสองสามีภรรยาคู่หนึ่ง เมื่อ Joseph Castleman (Jonathan Pryce จาก Game of Thrones) ได้รับรางวัลโนเบล ปี 1992 สาขาวรรณกรรม
เขาและ Joan ภรรยาของเขา (Glenn Close จาก What Happened to Monday) รวมถึง David ลูกชายของเขา (Max Irons จาก The Riot Club) ได้รับเชิญให้ไปงานรับรางวัลที่สต็อกโฮล์ม ในขณะเดียวกัน Nathaniel Bone (Christian Slater จาก Mr. Robot) ก็พยายามติดตามสาวความจริงไปเขียนหนังสือให้ได้ว่า นักเขียนมือทองของครอบครัวนี้จริง ๆ คือภรรยา ไม่ใช่สามี!
ทั้งนี้ หนังเล่าสลับระหว่างปี 1992 กับการย้อนไปในช่วงปี 1950s – 1960s ซึ่งเป็นสมัยที่ Joan (Annie Starke ลูกสาวแท้ ๆ ของ Glenn Close เอง) ยังเป็นนักศึกษา และ Joe (Harry Lloyd จาก The Theory of Everything) เป็นอาจารย์มหา’ลัย ที่สอนเธอเขียนหนังสือ
ที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดคือเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งในสมัยนั้นยังถือว่ามีน้อยมาก โดยเฉพาะสมัยที่ Joan ยังสาว ๆ กล่าวคือ งานของนักเขียนหญิงยังไม่เป็นที่ยอมรับ บรรณาธิการหรือนักวิจารณ์ต่าง ๆ ในสังคมส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่เป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่เชื่อมโยงไปยังเหตุผลที่ว่าทำไมไม่มีคนอยากตีพิมพ์งานเขียนของผู้หญิง หรือสุดท้าย… ต่อให้สมมติงานเขียนนั้นได้ตีพิมพ์ ก็ใช่ว่าจะมีคนอ่าน
Joan เธอไม่ได้เป็นนักปฏิวัติหญิงหรือ feminist ชนิดที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิอะไร ตรงกันข้าม เธอทำใจและยอมรับกฎสังคมข้อนั้น เธอจำยอมเป็น ghost writer หรือนักเขียนเงาของสามีเธอเสมอมา งานเขียนทุกชิ้น… เครดิตเป็นของสามีเธอทั้งสิ้น แม้แต่ลูกชายที่อยากจะเป็นนักเขียน ยังอยากฟังคอมเมนต์จากพ่อมากกว่าแม่ เพราะเชื่อมาเสมอว่า คนที่เขียนหนังสือเก่งคือพ่อ
อย่างไรก็ตาม Joe ก็มีความเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ไม่แพ้กันที่ต้องมาเป็นรองภรรยา แต่เขาก็พยายามแนะนำภรรยากับคนอื่นและให้เครดิตทางอ้อมกับภรรยาของเขาเท่าที่จะทำได้นะ เพียงแต่สุดท้ายคนก็ไม่ได้จดจำหรือให้ความสำคัญอะไรกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คนที่ได้รางวัลอย่างตัวผู้ชายเองขนาดนั้น เวลาที่ Joe บอกว่าภรรยาคือเบื้องหลังความสำเร็จของเขา… Joe หมายถึงอย่างนั้นจริง ๆ แต่คนทั่วไปไม่ได้นึกถึงอย่างนั้น… ทุกคนก็เข้าใจไปตามประสาว่า ในขณะที่สามีนั่งเขียนหนังสือ ภรรยาคือคนที่มีหน้าที่คอยทำอาหาร ชงชา เลี้ยงลูก และดูแลความเรียบร้อยในบ้านปกติ
จริง ๆ แล้ว เนื้อเรื่องประมาณนี้ เราเองก็เคยดูมาบ้างจากเรื่อง Big Eyes ที่ส่งให้ Amy Adams ซึ่งรับบทเป็นจิตรกรหญิงที่ต้องใช้ชื่อสามีเป็นลายเซ็นเพื่อให้รูปวาดขายได้ ได้รางวัลนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำมาแล้ว ต่างกันที่ว่า ในเรื่อง Big Eyes นั้น สามีเขาเลวจริง ๆ และตั้งใจลวงโลกจริง ๆ และ The Wife จะค่อนไปทางดราม่าเข้มข้นกว่า โดยยังมีตลกร้ายแฝงอยู่บ้าง
The Wife จึงไม่ใช่ประเด็นที่สดใหม่หรือน่าสนใจอะไรมากมายสำหรับเรา ประกอบกับเรื่องย่อและเทรลเลอร์ที่เปิดเผยคนดูแต่แรกแล้วว่า ภรรยาคือคนที่ควรจะได้โนเบลจริง ๆ ไม่ใช่สามี มันก็ยิ่งทำให้ไม่มีอะไรมาเซอร์ไพรส์คนดูอีกนัก แต่การแสดงล้วน ๆ ที่ตรึงคนดูได้อยู่หมัด เป็นจุดขายสำคัญของหนังเรื่องนี้ และทำให้หนังไม่มีจุดที่น่าเบื่อเลยสักนาที
ต้องยอมรับว่า Glenn Close เล่นดี เล่นละเอียด และถ่ายทอดความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ได้ดี ตั้งแต่ซีนแรกยันซีนสุดท้ายอย่างไม่มีที่ติ กล่าวคือ บทของ Joan มีความซับซ้อนทางอารมณ์สูงมาก เช่น บางทีก็ต้องมีทั้งอารมณ์ดีใจและน้อยใจไปพร้อม ๆ กัน มันไม่เหมือนละครเย็นที่นางเอกทำหน้าโกรธคือโกรธ หรือตัวร้ายทำหน้าร้ายคือร้าย มันมีมิติและมีความซับซ้อนกว่านั้นมาก ตัวละครมีความเป็นมนุษย์อยู่จริง ๆ เราแทบไม่เข้าใจเลยว่าตัวละครนี้เค้าคิดอะไรอยู่กันแน่ (รักหรือเกลียด?) แต่เราก็อินทุกทีที่มองเข้าไปในดวงตาของเธอ ต้องบอกว่า การแสดงของ Glenn Close เป็นอะไรที่หาดูได้ยากยิ่ง ไปดูแค่การแสดงก็คุ้มแล้ว
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8/10
36 comments
Comments are closed.