เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา (30 ธ.ค. 2014 – 2 ม.ค. 2015) เราไปเที่ยวและ countdown ที่หัวหินถิ่นมีหอยมา บอกเลยว่าเป็นทริปที่สนุกมาก หัวหินสมัยนี้ดูมีอะไรให้เที่ยวให้กินมากกว่าหลายปีก่อนมากมาย (เราไปหัวหินครั้งล่าสุดก็ประมาณ 4 ปีก่อน)
อย่างไรก็ตามการจั่วหัวว่า “เที่ยวหัวหิน 4 วัน 1,200 บาท” ก็ดูเหมือนจะหลอกล่อและหลอกล่วงคนอ่านไปเสียหน่อย เราจึงคงต้องขอสารภาพแต่เนิ่นๆ เลยละกันว่า สาเหตุที่ตัวเลขมันน้อยเว่อร์ขนาดนั้น ก็เพราะเราไม่เสียค่าที่พักและค่าเดินทางสักกะแดง (ฮือ อย่าด่าหนูนะ T___T) ดังนั้น ถ้าใครคิดจะตามเราไปเที่ยว ก็ไปบวกค่าใช้จ่ายส่วนนั้นกันเอาเองละกันนะจ๊ะ แฮ่~
บอกก่อนว่า ไม่ค่อยได้เขียนบล็อกหรือไดอารี่ท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ เอาง่ายๆ ก็เขียนปีละครั้ง (ปีก่อนเขียน “แอ่วเชียงใหม่ 6 วัน วันละ 666 บาท” ใครสนใจตามไปอ่านได้ แต่ทริปนั้นเราก็ไม่เสียค่าที่พักนะ พักบ้านเพื่อน แฮ่~) และเป็นคนถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ใช้กล้อง iPhone 6 ถ่ายอย่างโง่ๆ รูปก็ไม่ได้ถ่ายมาเยอะมาก (เพราะกลัวไอโฟนแบตจะหมด โถ…)
ดังนั้นอย่าคาดหวังอะไรกับบล็อกนี้มากละกันโนะ LOL
โรงแรมอยู่ติดชายหาด
30 ธ.ค. 2014 - DAY 1
- ออกเดินทางจากบ้านเพื่อนที่กรุงเทพฯ ราวๆ เกือบ 10 โมงเช้า
- ลืมจดว่าถึงหัวหินกี่โมง แต่ว่าใช้เวลาไม่นานเลย รถไม่ติดอย่างที่คิด
- คาดว่าปีใหม่คนนิยมแห่ไปขึ้นเหนือกันหมด ไม่ค่อยมีคนมาแย่งเราลงใต้ เออ ก็ดีเหมือนกัน จะได้เที่ยวชิลล์ๆ
- ที่พักที่เราไปพักชื่อ “โรงแรมชมวิว (Chom View Hotel)” ซึ่งคุณแม่ของเพื่อนเราเป็นผู้บริหาร (จึงเป็นที่มาว่าทำไมได้พักฟรี)
- โรงแรมหาไม่ยาก ปากซอยมีตลาด Cicada เป็นแลนด์มาร์ค (ใกล้ Cicada มาก เดินไปได้)
- สภาพโรงแรมไม่ได้ใหม่หรือหรูหรา แต่ห้องพักโอ่อ่ากว้างขวาง มีสระว่ายน้ำวิวสวย และตัวโรงแรมติดหาดทะเลเก๋ๆ
ดูรูปเพิ่มเติม รายละเอียด ราคาที่พัก และติดต่อโรงแรมชมวิว >> http://chomviewhotel.com/
ร้านเค้กบ้านใกล้วังก็ติดทะเล ชิลล์ๆ
- พอเก็บกระเป๋าเข้าที่พักกันเรียบร้อยแล้ว ก็ประเดิมหัวหินกันด้วยการกินเค้กร้าน “บ้านใกล้วัง” ตรงถนนตก
- เค้กอร่อยมาก (โดยเฉพาะเค้กมะพร้าว)
- ร้านบรรยากาศดี ติดทะเล เหมาะแก่การนั่งกินลมชมวิวสบายใจ (รูป cover ของบทความ ก็ถ่ายจากในร้านค่ะ)
- มื้อนั้นเราสั่งเค้กคนละชิ้นและเครื่องดื่มคนละแก้ว ค่าเสียหายคนละประมาณ 100-160 บาทเท่านั้น
เค้กอร่อยทุกอย่างเลย
- เติมพลังอิ่มแล้วก็ไปแวะสวนน้ำ Black Mountain Water Park เพราะหนึ่งในเพื่อนร่วมทริปอยากเล่นสวนน้ำมาก
- แต่ปรากฏเราไปถึง มันก็ปิดแล้ว (เปิด 10.00 – 17.00 น.) ก็เลยอดเล่น
- ก็ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินและถ่ายรูปเล่นกับกำแพงสวนน้ำเอา
- ไหนๆ ก็หมดวันแล้ว ก็เลยไปดินเนอร์มื้อดึกกันเสียเลย
- เพื่อนผู้ชายผู้ช่ำชองหัวหินขับรถพาพวกเราไปกินอาหารทะเลที่ “ร้านสังเวียนซีฟู้ด” ริมหาดทะเลชะอำ
- ก็ไม่รู้ว่าเพราะหิวมากหรือเพราะมันอร่อยมาก มื้อนั้นซัดกันหนักมาก ฟินเว่อร์ๆ
- บิลออกมาจ่ายกันไปคนละ 400 บาท แต่รู้สึกคุ้มนะ
- กุ้งหอยปูปลาตัวใหญ่มาเต็ม รสชาติเข้มข้น
- รู้สึกคุ้มยิ่งกว่ากินบุฟเฟ่ต์ในกรุงเทพฯ เป็นไหนๆ
ใครจะทานซีฟู้ด แนะนำร้านนี้เลย
- และแล้วก็กลับที่พัก ไปกินเหล้า เอ้ย~ ไปพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาลุยหัวหินกันใหม่
31 ธ.ค. 2014 - DAY 2
- มื้อแรกของวันก้ำกึ่งระหว่างมื้อเช้ามื้อเที่ยง พวกเราแวะกิน “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเจ๊ไฝ”
- เรากินชามนึง และก็ช่วยหารค่าขนมจีบกับเพื่อนๆ รวมแล้วมื้อนั้น 100 บาทถ้วน
- (เรื่องความอิ่มเป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่างเราอ่ะแค่ชามเดียวยังเหลือ แต่พวกผู้ชายสั่งกันคนละ 2 ชาม)
- แล้วก็ออกไปซื้อชาเย็นริมถนนอีก 30 บาท
- ตอนแรกกะจะประเดิมวันสุดท้ายของปีด้วยการไปเยี่ยมชม “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน”
- แต่เพราะคิดจะไปก็ไป ไม่รู้จัก Google ให้ดีก่อน จึงไปเก้อ เพราะวังเขาปิดให้บริการวันพุธ แป่ว…
- แผนจึงเบนเข็มไปที่ “Vana Nava” สวนน้ำที่เพิ่งเปิดใหม่แทน
- ค่าเข้าเล่นน้ำ คนละ 1,000 บาท
- ถ้าใครมีบัตรเครดิตนู่นนี่นั่นหรือบัตรทรูก็ลดได้อีกหลายเปอร์เซ็นต์อยู่
- แต่ข้างในก็มีค่าใช้จ่ายหยุมหยิมให้เสียเพิ่มอีก เช่น ค่าผ้าขนหนู ค่าล็อกเกอร์ฝากของ
- แต่ถ้ากลุ่มไหนมีเพื่อนที่ไม่เข้าไปเล่นน้ำ ก็ฝากของให้เพื่อนคนนั้นเฝ้าได้ ไม่ต้องไปจ่ายค่าล็อกเกอร์ให้เสียดายตังค์
- อย่างกลุ่มเรา เราเองนี่แหละที่ไม่เข้าไปเล่นน้ำ เพราะเราว่ายน้ำไม่เป็นและไม่ชอบกิจกรรมทางน้ำอยู่แล้ว
- ดังนั้น เราจึงไปนั่งรอสวยๆ บนโซนที่เขามีให้นั่งรอ โซนนั้นอยู่ชั้นสอง (ถ้าด้านล่างจะเป็นศูนย์อาหาร คนเยอะพลุกพล่าน)
- ชั้นสอง สงบเงียบ คนน้อย บรรยากาศดีมาก ลมเย็นสบาย และมีร้านเครื่องดื่มเก๋ๆ ให้เราสั่งมาจิบเล่นระหว่างรอ
ที่พักผ่อนหย่อนใจ สวรรค์เล็กๆ ของคนไม่เล่นน้ำ
- การจับจ่ายซื้อของภายใน Vana Nava ต้องแลกคูปองซึ่งอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า Wristband
- โดย Wristband แต่ละอันมีค่ามัดจำ 100 บาทต่างหาก
- แต่ความตลกของที่นี่คือพนักงานตรงจุดแลกคูปองนี่แหละค่ะ
- เรื่องของเรื่องคือ เราแลกคูปอง 100 บาท บวกค่ามัดจำ 100 บาท
- เราก็จ่ายให้เขา 200 บาท แล้วปรากฏเขาเติมเงินในบัตรให้เรา 300 บาท (แทนที่จะ 100 บาท)
- แล้วเรารู้ว่าเขาเติมเกินก็ตอนเราไปสั่งน้ำส้มคั้นกับน้ำเปล่า ราคาจริงรวมต้อง 85 บาท แล้วใบเสร็จโชว์ว่าเงินในบัตรเราเหลือ 215 บาท เออ งงมาก ทำไมไม่เหลือ 15 บาทวะ
- แล้วตอนไปแลกเงินคืน แทนที่จะได้ 115 บาท หรือไม่ก็ 315 บาท อย่างใดอย่างหนึ่ง นังพนักงานก็ดันเบ๊อะซ้ำสองอีก ก็คือให้เงินนี่มา 400 บาท เออ งงมะ นี่ก็งง จู่ๆ เงินก็งอก น้ำส้มก็ได้กินฟรี
- ถ้า Vana Nava เจ๊ง ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าผิดที่ส่วนไหนของการบริหารจัดการ อิอิ
- ส่วนเครื่องเล่น Nava Vana เราก็รีวิวมากไม่ได้นะ เพราะไม่ได้เล่น
- เท่าที่เพื่อนเรามาบ่น ก็รู้แต่ว่าคนเยอะมาก ต่อแถว 30 นาที ได้เล่น 30 วินาทีต่อเครื่องเล่น เป็นต้น
- แต่ถ้ารีวิวในมุมของคนไม่เล่น จุดที่เราไปจิบน้ำส้ม อ่านนิยาย และนอนเฝ้าสมบัติให้เพื่อนๆ นั้น สบายมากๆ เลยทีเดียว
- ส่วนมื้อค่ำวันนี้ก็ต้องบอกอีกว่าเราไม่เสียตังค์ เพราะมื้อนี้ไปดินเนอร์ปิ้งย่างบาร์บีคิวที่บ้านพักตากอากาศของคุณป้าของเพื่อนคนนึงในทริป แล้วป้าเขาเลี้ยง อิ่มจังตังค์อยู่ครบ (แต่อากาศหนาวมาก)
- เสร็จแล้วก็กลับไปกินเกล้าเคาต์ดาวน์ที่โรงแรม
- ซึ่งขนม เครื่องดื่ม หรือกับแกล้ม พวกผู้ชายก็ผลัดกันจ่ายคนละวันๆ ผู้หญิงอย่างเรากินฟรีต่อไป เย้
สระว่ายน้ำที่โรงแรมค่ะ
HAPPY NEW YEAR 2015
1 ม.ค. 2015 - DAY 3
- เช้าวันแรกของปี เราก็ต้องไปทำบุญเอาสิริมงคลเข้าตัว (เออ คนที่ทำบุญปีละครั้งก็อย่างงี้แหละ)
- หย่อนตู้ทำบุญไป 20 บาท แต่ขอพระขอพรยังกับหย่อนไป 2,000 วัดท่ีเราไปชื่อ “วัดเขาตะเกียบ“
- วิวสวยมาก เห็นหาดหัวหินสุดลูกหูลูกตา ลมก็พัดแรงมากๆ ด้วย
- แต่ใครไปใครมาก็ระวังเจ้าจ๋อดีๆ ว่ามันจะฉกของเราไป วัดนี้เขาก็ลิงเยอะอยู่เหมือนกัน
- ไหว้พระเสร็จแล้วก็มื้อเที่ยงพอดี (มื้อเช้าทานอาหารโรงแรม) พวกเราเลยโหวตกันไปกิน “ส้มตำถนนตก“
- แซ่บมากและถูกมาก หารกันแล้วจ่ายคนละ 100 บาทเท่านั้น ราคานี้หาไม่ได้ง่ายๆ ที่กรุงเทพฯ จริงๆ
- แต่ข้อเสียคือคนเยอะมาก คิวยาวนิดนึง ต้องทำใจล่วงหน้า
- สถานีต่อไปคือไปเก็บตก “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” ที่ชวดอดเข้าไปเมื่อวาน วันนี้มาใหม่ วันพฤหัสฯ ไม่ปิด
- ที่นี่นี่ไม่ไปไม่ได้ เพราะผู้ชายที่มาด้วยกันทุกคนจบโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ดังนั้นวังนี้ไม่ไปไม่ได้
- นอกจากนี้หนึ่งในเพื่อนร่วมทริปที่มาด้วยกันก็เคยเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันสุดยอดแฟนพันธุ์แท้รัชกาลที่ 6 (แต่ตกรอบนะ ไม่ได้เป็นแชมป์) เป็นตัวตั้งตัวตีให้มาเที่ยววังนี้เลยจ้า
- ซึ่งดีนะ เพราะอีตานั่นมันบรรยายนี่นั่นระหว่างเที่ยววังได้ยังกับจ้างไกด์ส่วนตัวมาเอง
- ค่าเข้าวัง 30 บาท และเราเสียค่าเครื่องดื่มแก้ร้อนอีก 30 บาท
- วังกว้างและสวยมาก น่าอยู่มากๆ เดินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
- แต่ว่าตอนเราไป เขากำลังบูรณะซ่อมแซมหลายจุดอยู่เหมือนกัน ข้างบนก็ไม่ได้ขึ้นบันไดขึ้นไปดู
- เพราะเขาจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปในแต่ละวัน เพราะไม่อยากให้ไม้รับน้ำหนักมากเกินไป
“พวกหล่อนจะถ่ายอีกนานมั้ย?”
THE CREW
สวนรอบๆ วัง
- เที่ยววังเสร็จยังพอมีเวลาเหลือก่อนกินมื้อเย็น ก็เลยไปเดินเที่ยว “เดอะ เวเนเซีย” อีกสักที่
- ที่นี่เขาจำลองบรรยากาศคล้ายๆ เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี
- แต่เราไม่ได้นั่งเรือนะ เราว่าแพงไปเสียหน่อย
- พวกเราซื้อตั๋วราคา 60 บาท ก็คือเข้าไปเดินเที่ยวได้ไม่กี่โซนหรอก แต่ก็โอเคนะ
- ที่จำได้มีไปให้อาหารแกะด้วย แกะที่นี่ดูโหยมาก กระโจนหาหญ้ายิ่งกว่าหมาที่บ้านกระโจนหากระดูกอีก
- มื้อเย็นวันนั้นกินอาหารซีฟู้ดอีกมื้อ แต่กินง่ายๆ ที่ “ร้านเจ๊เขียวซีฟู้ด“
- ถูกกว่าที่ไปกินวันแรก แต่ของวันแรกอร่อยกว่า
- ค่าเสียหายมื้อนั้น 270 บาทต่อคน
- เสร็จแล้วก่อนเข้าที่พัก ก็แวะเดินเล่นตลาด Cicada หน้าปากซอย จบวัน
2 ม.ค. 2015 - DAY 4
- วันสุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ตื่นมาเก็บของเก็บห้อง และไปทานข้าวเช้าโรงแรม เสร็จแล้วก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ เลย
- แวะซื้อของฝากระหว่างทางแบบธรรมดา ไม่ได้แวะพวกเพลินวานเพราะเบื่อแล้ว (ปกติมาชะอำก็จะมาแวะเพลินวานบ่อยๆ)
- ถึงกรุงเทพฯ กลับมาสู่ชีวิตจริงอีกครั้ง
- ปิดท้าย ส่งท้าย ด้วยรูปเบื้องหลังภายชิคๆ ก่อนลงสระละกันนะ
- บอกตรงๆ ไม่ได้ว่ายน้ำเลย ลงไปเพื่อถ่ายรูปสวยๆ อย่างเดียวแล้วขึ้นเลย เพราะหนาวมากจริงๆ หนาวจนปากสั่น (โปรดสังเกต ไม่มีใครมาแย่งซีนถ่ายรูปเลย)
- ฮือ ใครสั่งใครสั่นใครสอนให้มาทะเลหน้าหนาว T___T
- สรุปรายจ่ายตลอดทริป 4 วัน ประมาณ 1,200 บาท (ไม่รวมค่าของฝาก)
- แต่อย่างที่บอก นี่ค่ารถฟรี ที่พักฟรี (เพื่อนขับรถไป และที่พักก็ได้อภินันทนาการจากคุณแม่เพื่อน)
- แถมบางมื้อก็กินฟรีอีก ค่าขนมหรือกับแกล้มก็มีแต่พวกผู้ชายออก แหม่ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ
- ดังนั้นบล็อกนี้อาจจะไม่เหมาะกับบุคคลทั่วไปเท่าไหร่นัก อย่าถือสามากนะคะ อ่านเอาขำๆ เนอะ
ทริปต่อไป เรากะว่าจะไปเที่ยว “เกาะพะงัน” สวยๆ อาจได้มาอัปบล็อกท่องเที่ยวอีก แต่ก็นะ… ที่พักฟรีอีกนั่นแหละจ้า อย่าอิจฉานะ เจอกันใหม่บล็อกหน้า กลับไปรีวิวหนังต่อละ ^^
Read More: รีวิว เที่ยวพะงัน 4 วัน 3 คืนไม่ง้อฟูลมูน
จองโรงแรมผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นได้ที่ www.hotelscombined.co.th
43 comments